“ยิ่งลักษณ์” วอนนักลงทุนมั่นใจประเทศไทย หลังวิกฤตฺน้ำท่วม ยันรัฐมีแผนฟื้นฟู พร้อมทำแผนระยะยาวจัดการน้ำ ยันมีงบทำเมกะโปรเจกต์แล้ว พร้อมเร่งทำ กันปัญหาเกิดซ้ำซ้อน สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ-เร่งรัดฟื้นภาคอุตสาหกรรมโดยเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 ต.ค.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย อาทิ แม็คโคร เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี ท็อปส์ และ วัตสัน หลังจากเกิดกรณีสินค้าขาดตลาด การกักตุนสินค้า และเส้นทางคมนาคมได้รับความเสียหายจนไม่อาจขนส่งสินค้าได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือภาคเศรษฐกิจที่ประสบปัญหาอุทกภัย ว่า ปัญหาทั้งหมดรัฐบาลได้เก็บข้อมูลไว้แล้ว รัฐบาลมีนโยบายระบบบริหารจัดการน้ำเรื่องเมกะโปรเจกต์ในส่วนการสร้างเส้นทางคมนาคม การเชื่อม 25 ลุ่มน้ำกับโครงการพระราชดำริ ที่มีงบประมาณอยู่แล้วก็จะเร่งทำอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อนต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีมูลค่าสูญเสียทางเศรษฐกิจจำนวนเท่าไร มีผลตอบรับหรือปฏิกิริยาจากนักลงทุนอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มีการพูดคุยกับนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งหมด โดยรัฐบาลมีมาตรการในการช่วยเหลือดูแลในส่วนผู้ประกอบการโดยตรงทั้งขนาดใหญ่ และ SME รวมทั้งผู้ลงทุนต่างๆ และการช่วยเหลือดูแล พร้อมเร่งรัดฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่างๆ ให้กลับมาโดยเร็วที่สุด
“อยากให้นักลงทุนต่างชาติทั้งที่ลงทุนอยู่ในไทยและที่จะมาลงทุน ขอให้มีความมั่นใจได้ว่า ประเทศไทยมีแผนที่จะลงทุนแก้ไข อีกทั้งโครงการเมกะโปรเจกต์ เพื่อให้อุตสาหกรรมกลับคืนมาเร็วที่สุด และเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเพราะว่าธรรมชาติของน้ำที่ต้องไหลออกและผ่าน กทม.เป็นด่านสุดท้ายก่อนลงทะเล และจะเร่งการระบายน้ำให้เร็วที่สุด เช่นเดียวกันกับแผนฟื้นฟูก็จะทำเร็วที่สุด ขอให้มีความมั่นใจได้ และมีความยินดี เพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้นักลงทุนต่างประเทศ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ต่อมาเวลา 15.00 น.ที่ ศปภ.ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หลังน้ำลดจะเร่งสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ลงมาลงทุนในประเทศไทย เพราะไทยมีแผนลงทุนแก้ไข และการทำเมกะโปรเจกต์ทั้งหมด เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เห็นว่า น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ทราบปัญหาสำคัญของ กทม.คือ เป็นจุดผ่านของน้ำเป็นที่สุดท้ายก่อนที่น้ำจะลงทะเล ทั้งนี้ ตนได้ไปดูระบบการระบายน้ำ การเตรียมพร้อมเพื่อให้การทำงานมีความสัมพันธ์กัน โดยจะเร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุดเช่นเดียวกับการฟื้นฟู
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องย้าย ศปภ.จากท่าอากาศยานดอนเมือง แม้ล่าสุดน้ำจะเริ่มเอ่อเข้าท่วมท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว เพราะเห็นว่ายังมีทางด่วนที่สามารถสัญจรไปมาได้ แม้จะมีความลำบากอยู่บ้าง ที่สำคัญ ดอนเมืองเป็นที่สูง คาดว่าน่าจะอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม จะติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
