ASTVผู้จัดการรายวัน - "อิชิตัน" ทุ่ม 100 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญทัวร์ยกแก็ง " เที่ยวกับตัน มันส์กับโน้ส" หวังขึ้นแท่น อันดับ 2 ในศึกตลาดชาเขียวภายในซัมเมอร์นี้ มั่นใจส่งยอดขายสิ้นปีทะลุ 3,000 ล้านบาท โตขึ้นเท่าตัว
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดชาเขียวในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา ค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากแบรนด์ต่างๆได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้สินค้ายังคงขาดตลาดกันอยู่ ในส่วนของอิชิตันเองก็เช่นกัน หลังจากเจอน้ำท่วม จนถึงปัจจุบันได้จ้างผลิต หรือแต่ละเดือนสามารถทำการจำหน่ายได้เพียง 7 แสนลัง ในแบบขวด ส่วนแบบกล่อง จำหน่ายได้ราว 2-2.5 แสนลัง อย่างไรก็ตามในเดือนเม.ย.นี้ ทางโรงงานจะเริ่มกลับมาทำการผลิตได้อีกครั้งที่ 50% และสิ้นปีนี้จะผลิตได้ 100% เต็ม โดยยังคงจ้างผลิตต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทจะมุ่งสร้างแบรนด์ กระจายสินค้าออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น เน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย โรดโชว์ เป็นหลัก ภายใต้งบการตลาดที่ 350 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของเป้ารายได้ในปีนี้ที่วางไว้ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นแท่นอันดับสองในตลาดชาเขียว จากปีก่อนที่เริ่มทำตลาดได้ 7 เดือน ทำรายได้ไป 1,000 ล้านบาท
โดยหวังว่าปีนี้จะมีช่องทางจำหน่ายในเทรดดิชันนอลเทรดเพิ่มขึ้น จากเดิมทำได้ 27% ปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 50% จากร้านค้าเทรดดิชั่นนอลเทรดทั่วประเทศทั้งหมด
ล่าสุดทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท สำหรับแคมเปญ"อิชิตัน ทัวร์ยกแก๊ง" ตอน เที่ยวกับตัน มันส์กับโน้ส เริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค-31 พ.คนี้ มั่นใจว่าเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้จะมียอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นอันดับสองของตลาดได้ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 20% จากสิ้นปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งที่ 7.7% จากเป้าที่วางไว้ 10% เนื่องจากน้ำท่วม และเฉพาะเดือนธ.ค เดือนเดียว
มียอดขายเป็นอันดับสอง มีแชร์ 16.1% รองจากเพียวริคุที่ขายได้มากสุด มีส่วนแบ่ง 16.3%
ทั้งนี้มองว่าตลาดชาเขียวมูลค่า 9,000 กว่าล้านบาทนั้น ปีก่อนเติบโตได้ 21% ส่วนปีนี้มองว่าจะเติบโตได้ถึง 30% มาจากการที่อิชิตันมุ่งทำการตลาดเป็นหลัก
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดชาเขียวในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา ค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากแบรนด์ต่างๆได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้สินค้ายังคงขาดตลาดกันอยู่ ในส่วนของอิชิตันเองก็เช่นกัน หลังจากเจอน้ำท่วม จนถึงปัจจุบันได้จ้างผลิต หรือแต่ละเดือนสามารถทำการจำหน่ายได้เพียง 7 แสนลัง ในแบบขวด ส่วนแบบกล่อง จำหน่ายได้ราว 2-2.5 แสนลัง อย่างไรก็ตามในเดือนเม.ย.นี้ ทางโรงงานจะเริ่มกลับมาทำการผลิตได้อีกครั้งที่ 50% และสิ้นปีนี้จะผลิตได้ 100% เต็ม โดยยังคงจ้างผลิตต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทจะมุ่งสร้างแบรนด์ กระจายสินค้าออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น เน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย โรดโชว์ เป็นหลัก ภายใต้งบการตลาดที่ 350 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของเป้ารายได้ในปีนี้ที่วางไว้ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นแท่นอันดับสองในตลาดชาเขียว จากปีก่อนที่เริ่มทำตลาดได้ 7 เดือน ทำรายได้ไป 1,000 ล้านบาท
โดยหวังว่าปีนี้จะมีช่องทางจำหน่ายในเทรดดิชันนอลเทรดเพิ่มขึ้น จากเดิมทำได้ 27% ปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 50% จากร้านค้าเทรดดิชั่นนอลเทรดทั่วประเทศทั้งหมด
ล่าสุดทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท สำหรับแคมเปญ"อิชิตัน ทัวร์ยกแก๊ง" ตอน เที่ยวกับตัน มันส์กับโน้ส เริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค-31 พ.คนี้ มั่นใจว่าเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้จะมียอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นอันดับสองของตลาดได้ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 20% จากสิ้นปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งที่ 7.7% จากเป้าที่วางไว้ 10% เนื่องจากน้ำท่วม และเฉพาะเดือนธ.ค เดือนเดียว
มียอดขายเป็นอันดับสอง มีแชร์ 16.1% รองจากเพียวริคุที่ขายได้มากสุด มีส่วนแบ่ง 16.3%
ทั้งนี้มองว่าตลาดชาเขียวมูลค่า 9,000 กว่าล้านบาทนั้น ปีก่อนเติบโตได้ 21% ส่วนปีนี้มองว่าจะเติบโตได้ถึง 30% มาจากการที่อิชิตันมุ่งทำการตลาดเป็นหลัก
