00 การไขก๊อกพ้นเก้าอี้เลขาฯนายกฯของ บัณฑูร สุภัควนิช เที่ยวนี้ได้เห็นร่องรอยความขัดแย้งภายในรัฐบาลและในพรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งแสดงให้เห็นว่าภายในครอบครัวของ ทักษิณ ชินวัตร นั้นยังแตกออกเป็นกลุ่มๆพวกๆ แยกย่อยออกไปอีก แต่ก็อย่างว่านี่มัน “ธุรกิจการเมือง” มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ
00 อย่างแรกก่อนก็คือ กรณีที่ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เข้ามานั่งเก้าอี้แทน(แบบไม่เป็นทางการ) ก็ถือว่ามีที่มาไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะถ้ารู้แบ็กกราวด์ของ บัณทูร ที่ก่อนหน้านี้ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งเลขาธิการนายกฯซึ่งถือว่ามีอำนาจไม่ต่างจาก “นายกฯน้อย” ดังนั้นเมื่อเบียดให้คนเก่าตกเก้าอี้ลงไปแบบกะทันหันก็ย่อมชี้ให้เห็นว่าเบื้องหลังคนที่ผลักดันต้องอยู่ใน “วงใน” จริงๆ อย่างที่รู้กันมานานว่า บัณทูร นั้น “ซี้ปึ้ก”กับ แม้ว แค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าถึงจะรักกันสนิทสนมแค่ไหน แต่ในทางผลประโยชน์แล้ว “ไม่ได้กำไร” เพื่อนก็เพื่อนเถอะเอาไว้ทีหลัง
00 ต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯของ บัณทูร ไม่ได้มีสีสัน หรือมีความเคลื่อนไหวอะไรให้น่าจดจำ หรือเป็นแรงขับเคลื่อนช่วยเหลือ นายกฯ “ปูนิ่ม” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เลย ทุกอย่างเงียบเชียบ และด้วยเหตุนี้แหละที่แม้ว่าเวลานี้จะไม่มีการตั้งใครเข้าไปนั่งเก้าอี้แทนอย่างเป็นทางการ แต่ถึงอย่างไรคนที่ทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือ สุรนันทน์ นั่นแหละ เพราะระยะหลังได้ทำงานสนองงานเชิงรุกให้ ยิ่งลักษณ์ แทบทุกเรื่องล่าสุดก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกส่วนตัว โดยเฉพาะการสร้างภาพ ที่เริ่มเปลี่ยนไปมาก
00 แต่อย่างที่บอกว่าภายในพรรคเพื่อไทย มันมีหลายก๊วนหลายก๊ก แถมยังมีก๊วนในครอบครัว ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งสะใภ้ ทั้งกิ๊ก มั่วไปหมด ใครจะไปจะมามันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีการเคลื่อนไหวกันวูบวาบกันภายใน ข่าวที่แพลมออกมาว่าเวลานี้ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กำลัง “เช็กกำลัง”เพื่อรอวันโผล่ออกมาหลังพ้นโทษแบนในเดือนพฤษภาคม แต่มันก็ไม่หมูในเมื่อเวลานี้ทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิงแล้ว อย่างน้อยๆก็มีคู่อริเก่าอย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่กำลัง “กร่าง-ใหญ่” คับพรรคคับรัฐบาลคอยขวางอยู่ อีกทั้งถ้าพิจารณาจากความสัมพันธ์กับ ทักษิณ นาทีนี้ก็ไม่น่าจะเหมือนเดิม เพราะคง “ไม่สด” ดังเก่าแล้ว
00 สำหรับราย สุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เวลานี้ “ทรัพย์ได้ล้อม”เอาไว้หมดทุกด้านแล้วจริงๆ ล่าสุด ปปช.ได้สั่งอายัดทรัพย์ที่เป็นบ้านพักและที่ดินมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ตบหน้ากรรมการสอบชุด ธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯที่สั่งยุติการสอบสวนก่อนหน้าโดยอ้างว่าไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะเสนอสั่งให้ลงโทษทางวินัยได้ นี่แหละคือผลงานขององค์กรอิสระ ที่ฝ่าย “เครือข่ายแม้ว” ที่มันจ้องยุบทิ้งนั่นแหละ
00 พูดถึงองค์กรอิสระก็ต้องวกเข้ามาเรื่องแก้ไข รธน.ที่ฝ่าย ทักษิณ กำลังคันไม้คันมือเร่งวันเร่งคืนจะฉีกทิ้งฉบับปี 50 ให้ยับไปกับมือให้เร็วที่สุด บางคนถึงกับรอไม่ไหวถึงกับโพล่งออกมาว่าจะต้องยุบทิ้ง ศาลรธน. ศาลปกครอง ปปช.เป็นต้น ที่เป็น “หนามตำใจ” อยู่ตลอดเวลา และคำพูดที่ออกมาจากปากของ วัฒนา เมืองสุข นั่นแหละของจริง เพราะที่ผ่านมาทำตัวเป็น “ผู้ประสานงาน” เที่ยวเดินสายล็อบบี้ทุกกลุ่มหยั่งดูท่าทีว่าสังคมเห็นอย่างไรกับการรื้อ รธน. แต่การ “ล้ำหน้า” ออกมาออกมาเที่ยวนี้มันก็ทำให้ชาวบ้านได้เห็น “ความอยาก” ที่ซ่อนอยู่ภายใน รวมทั้งมีโอกาสบานปลายได้ทุกเมื่อเหมือนกัน เพราะนี่คือ “สันดาน” ของคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังที่ปากบอกว่าไม่แตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น แท้จริงเป็นแบบไหน !!
00 อย่างแรกก่อนก็คือ กรณีที่ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เข้ามานั่งเก้าอี้แทน(แบบไม่เป็นทางการ) ก็ถือว่ามีที่มาไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะถ้ารู้แบ็กกราวด์ของ บัณทูร ที่ก่อนหน้านี้ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งเลขาธิการนายกฯซึ่งถือว่ามีอำนาจไม่ต่างจาก “นายกฯน้อย” ดังนั้นเมื่อเบียดให้คนเก่าตกเก้าอี้ลงไปแบบกะทันหันก็ย่อมชี้ให้เห็นว่าเบื้องหลังคนที่ผลักดันต้องอยู่ใน “วงใน” จริงๆ อย่างที่รู้กันมานานว่า บัณทูร นั้น “ซี้ปึ้ก”กับ แม้ว แค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าถึงจะรักกันสนิทสนมแค่ไหน แต่ในทางผลประโยชน์แล้ว “ไม่ได้กำไร” เพื่อนก็เพื่อนเถอะเอาไว้ทีหลัง
00 ต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯของ บัณทูร ไม่ได้มีสีสัน หรือมีความเคลื่อนไหวอะไรให้น่าจดจำ หรือเป็นแรงขับเคลื่อนช่วยเหลือ นายกฯ “ปูนิ่ม” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เลย ทุกอย่างเงียบเชียบ และด้วยเหตุนี้แหละที่แม้ว่าเวลานี้จะไม่มีการตั้งใครเข้าไปนั่งเก้าอี้แทนอย่างเป็นทางการ แต่ถึงอย่างไรคนที่ทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือ สุรนันทน์ นั่นแหละ เพราะระยะหลังได้ทำงานสนองงานเชิงรุกให้ ยิ่งลักษณ์ แทบทุกเรื่องล่าสุดก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกส่วนตัว โดยเฉพาะการสร้างภาพ ที่เริ่มเปลี่ยนไปมาก
00 แต่อย่างที่บอกว่าภายในพรรคเพื่อไทย มันมีหลายก๊วนหลายก๊ก แถมยังมีก๊วนในครอบครัว ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งสะใภ้ ทั้งกิ๊ก มั่วไปหมด ใครจะไปจะมามันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีการเคลื่อนไหวกันวูบวาบกันภายใน ข่าวที่แพลมออกมาว่าเวลานี้ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กำลัง “เช็กกำลัง”เพื่อรอวันโผล่ออกมาหลังพ้นโทษแบนในเดือนพฤษภาคม แต่มันก็ไม่หมูในเมื่อเวลานี้ทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิงแล้ว อย่างน้อยๆก็มีคู่อริเก่าอย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่กำลัง “กร่าง-ใหญ่” คับพรรคคับรัฐบาลคอยขวางอยู่ อีกทั้งถ้าพิจารณาจากความสัมพันธ์กับ ทักษิณ นาทีนี้ก็ไม่น่าจะเหมือนเดิม เพราะคง “ไม่สด” ดังเก่าแล้ว
00 สำหรับราย สุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เวลานี้ “ทรัพย์ได้ล้อม”เอาไว้หมดทุกด้านแล้วจริงๆ ล่าสุด ปปช.ได้สั่งอายัดทรัพย์ที่เป็นบ้านพักและที่ดินมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ตบหน้ากรรมการสอบชุด ธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯที่สั่งยุติการสอบสวนก่อนหน้าโดยอ้างว่าไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะเสนอสั่งให้ลงโทษทางวินัยได้ นี่แหละคือผลงานขององค์กรอิสระ ที่ฝ่าย “เครือข่ายแม้ว” ที่มันจ้องยุบทิ้งนั่นแหละ
00 พูดถึงองค์กรอิสระก็ต้องวกเข้ามาเรื่องแก้ไข รธน.ที่ฝ่าย ทักษิณ กำลังคันไม้คันมือเร่งวันเร่งคืนจะฉีกทิ้งฉบับปี 50 ให้ยับไปกับมือให้เร็วที่สุด บางคนถึงกับรอไม่ไหวถึงกับโพล่งออกมาว่าจะต้องยุบทิ้ง ศาลรธน. ศาลปกครอง ปปช.เป็นต้น ที่เป็น “หนามตำใจ” อยู่ตลอดเวลา และคำพูดที่ออกมาจากปากของ วัฒนา เมืองสุข นั่นแหละของจริง เพราะที่ผ่านมาทำตัวเป็น “ผู้ประสานงาน” เที่ยวเดินสายล็อบบี้ทุกกลุ่มหยั่งดูท่าทีว่าสังคมเห็นอย่างไรกับการรื้อ รธน. แต่การ “ล้ำหน้า” ออกมาออกมาเที่ยวนี้มันก็ทำให้ชาวบ้านได้เห็น “ความอยาก” ที่ซ่อนอยู่ภายใน รวมทั้งมีโอกาสบานปลายได้ทุกเมื่อเหมือนกัน เพราะนี่คือ “สันดาน” ของคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังที่ปากบอกว่าไม่แตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น แท้จริงเป็นแบบไหน !!
