ASTVผู้จัดการรายวัน-อินโดรามา เวนเจอร์ส ตั้งงบลงทุนปีนี้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐสร้างโรงงานใหม่ 2 แห่ง พร้อมปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 30% จากเดิมคาดโต 25% เหตุ รับรู้รายได้จากบริษัทที่เข้าไปซื้อกิจการปีที่ผ่านมาก-กำลังการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น ผู้บริหาร เผย เดือนมี.ค.เตรียมขายหุ้นกู้ 4 พันล้านบาท ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน หากต้องใช้เงินเพิ่มกู้สถาบันการเงินจากดอกเบี้ยขาลง
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)หรือ IVL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปีนี้จำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐในการก่อสร้างโรงงานPETใหม่ จำนวน 2 โรงงาน ที่ประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง ซึ่งแต่ละโรงจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2 ล้านตัน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับซัพไพร์เออร์ในการส่งวัตถุดิบให้กับบริษัท ซึ่งคาดว่าจะสรุปภายในปีนี้ และจะรับรู้รายได้อีก 3 ปีข้างหน้า
"บริษัทมีแผนสร้างโรงงานตะวันออกกลางและอินเดียนั้น เนื่องจาก มีความต้องการใช้PETเติบโตสูงถึง 30% ปี"นายอาลก กล่าว
สำหรับในเดือนมีนาคมนี้บริษัทจะมีการออกหุ้นกู้จำนวน 4 พันล้านบาท ซึ่งมีอายุ 5 ปี และ 7 ปี โดยจะนำเงินดังกล่าวมาใช้เป็นเงินทุนเหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท โดยหากปีนี้บริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เนื่องจาก ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E)อยู่ที่ 0.7 เท่า ซึ่งสามารถที่จะมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ และ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงทำให้ได้ประโยชน์มากกว่า
ทั้งนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโต 30% หรืออยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทคาดว่าจะโต 20-25% จากปี 2554 ที่มีรายได้จากยอดขายรวม 6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก กำลังการผลิตรวมของบริษัทที่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากธุรกิจของบริษัทและ การเข้าไปซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา 7.5 ล้านตัน และ จากการที่บริษัทได้มีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น)ที่เพิ่มขึ้นจกกการที่บริษัทเข้าไปซื้อบริษัทในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น บริษัท Fiber Visions Holding LLC ซึ่งเป็นบริษั่ที่ผิตเส้นใยพิเศษซึ่งมีราคาขายที่สูง
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)หรือ IVL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปีนี้จำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐในการก่อสร้างโรงงานPETใหม่ จำนวน 2 โรงงาน ที่ประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง ซึ่งแต่ละโรงจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2 ล้านตัน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับซัพไพร์เออร์ในการส่งวัตถุดิบให้กับบริษัท ซึ่งคาดว่าจะสรุปภายในปีนี้ และจะรับรู้รายได้อีก 3 ปีข้างหน้า
"บริษัทมีแผนสร้างโรงงานตะวันออกกลางและอินเดียนั้น เนื่องจาก มีความต้องการใช้PETเติบโตสูงถึง 30% ปี"นายอาลก กล่าว
สำหรับในเดือนมีนาคมนี้บริษัทจะมีการออกหุ้นกู้จำนวน 4 พันล้านบาท ซึ่งมีอายุ 5 ปี และ 7 ปี โดยจะนำเงินดังกล่าวมาใช้เป็นเงินทุนเหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท โดยหากปีนี้บริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เนื่องจาก ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E)อยู่ที่ 0.7 เท่า ซึ่งสามารถที่จะมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ และ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงทำให้ได้ประโยชน์มากกว่า
ทั้งนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโต 30% หรืออยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทคาดว่าจะโต 20-25% จากปี 2554 ที่มีรายได้จากยอดขายรวม 6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก กำลังการผลิตรวมของบริษัทที่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากธุรกิจของบริษัทและ การเข้าไปซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา 7.5 ล้านตัน และ จากการที่บริษัทได้มีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น)ที่เพิ่มขึ้นจกกการที่บริษัทเข้าไปซื้อบริษัทในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น บริษัท Fiber Visions Holding LLC ซึ่งเป็นบริษั่ที่ผิตเส้นใยพิเศษซึ่งมีราคาขายที่สูง