ASTVผู้จัดการรายวัน - "แสนสิริ" ปั๊มรายได้ปี 54 ตามเป้า 20,679 ล้านบาท สามารถทำกำไรรอบปีได้ 2,015.69 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ผลประกอบการดี กำไรสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ มั่นใจไตรมาสแรก 55 ทำรายได้ 10,000 ล้านบาท ด้านค่ายเพอร์เฟค คาด3เดือนแรกโกย 3,000 ล้านบาท จับตาบิ๊กอสังหาฯประชันออกหุ้นกู้ ลดความเสี่ยงดอกเบี้ย ค่ายคิวเฮ้าส์ รายได้รวมหมื่นล้าน ลดลงกว่า 3,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2554 ว่า บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.21 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ที่ 5,638 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 1,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.94 % จากช่วงเดียวกันของปี 2553 ที่ 620 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 4 ปี 2554 นี้ ถือเป็นรายได้และกำไรที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
“ ในไตรมาส 4 ปี 2554 นี้ บริษัทฯ สามารถทำรายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่อนข้างมาก ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร ซึ่งตัวเลขการเติบโตถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริ โดยรายได้เติบโตจาก5,638 ล้านบาท เป็น 7,792 ล้านบาท ซึ่งทะลุเป้าที่เราตั้งกันไปประมาณ 1,680 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.84 % ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทสามารถบริหารจัดการกับผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ได้เป็นอย่างดี ผู้ซื้อโครงการจากบริษัทมีความมั่นใจ ทำให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าหมาย ” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2554 นั้น บริษัทฯ สามารถดำเนินงานซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทื่ 20,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่มีรายได้ 18,755 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.26 % ซึ่งเป็นผลมาจากการวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แตกต่างและโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด รวมทั้งบริษัทฯ มีตลาดที่อยู่อาศัยในทุกระดับ ตั้งแต่ตลาดระดับบน (ไฮเอนด์) กลางและล่าง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ข้อมูลที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า บริษัทรวมรายได้ 20,680.8 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่าย 17,663.9 ล้านบาท มีกำไรรอบปี 2,015.69 ล้านบาท (ปี 53 กำไรรอบปี 1,898.09 ล้านบาท) ดังนั้น ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทแสนสิริในปี 54 จะประมาณ 9.7% (นำกำไรรอบปีคูณกับรวมรายได้)
สำหรับในปี 55 บริษัทฯคาดการณ์การรายได้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายโครงการที่ 27,000 ล้านบาท และจากรายได้ธุรกิจบริการอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ระดับประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปี 2554 โดยมีรายได้จากการขาย ที่รอรับรู้ (Presale Backlog ) แล้วเกือบ70% ของรายได้จากการขายโครงการ และในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทฯ ทั้งหมด จำนวน 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท
PFคาดยอดขายไตรมาส 1 ปี 2555 โต 36%
นางสาวศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายแล้วประมาณ 1,900 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการที่บริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากบ้านขนาดใหญ่ ในแบรนด์ “เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ” ทั้ง 4 ทำเล ได้แก่ พระราม 9 รามคำแหง ราชพฤกษ์ และ รัตนาธิเบศร์ ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวแบบบ้านใหม่ภายใต้แบรนด์ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ เพิ่มเติมในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ ทำให้คาดว่ายอดขาย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ น่าจะทำได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ที่ 2,200 ล้านบาท เติบโต 36% อันจะส่งผลให้ยอดรับรู้รายได้ไตรมาส 1 น่าจะมีอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% และทำให้ Backlog เพิ่มขึ้นจากเมื่อสิ้นปี เป็น 4,500 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนของบริษัทนั้น ในไตรมาสแรกจะมีประมาณ 300 ล้านบาทเท่านั้น ลดลงเนื่องจากบริษัทจะนำเอา Land Bank ที่มีอยู่มาพัฒนาให้มากที่สุด
บิ๊กอสังหาฯแห่ออกหุ้นกู้
นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการ และประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริฯกล่าวว่า ได้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติออกหุ้นกู้ทุกประเภท ทั้งแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน แล้ว โดยหุ้นดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออก และเสนอขายหุ้นกู้แต่ละคราว วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท หรือเงินสกุลต่างประเทศในวงเงินเทียบเท่าเงินบาทจำนวนดังกล่าว อายุไม่เกิน 10 ปีนับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ในแต่ละคราว
ขณะที่บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 2,500 ล้านบาท ให้กับประชาชนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน โดยมีธนาคารธนชาต เป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งจำนวน หุ้นกู้ที่จะจัดจำหน่ายในครั้งนี้มีอายุ 2-3 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี โดยจะเปิดให้จองซื้อได้ในกลางเดือนมีนาคมนี้”
QHเจอพิษน้ำท่วมกระทบยอดขาย
นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 54 มีผลการดำเนินงานจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 4 ของปี 2554 บริษัทฯได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้โครงการบ้านของบริษัทฯที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่น้าท่วมต้องปิดดาเนินการชั่วคราว ประกอบกับผู้บริโภคยังขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงส่งผลให้เกิดการชะลอตัวลงของธุรกิจขายบ้านพร้อมที่ดินในเขตพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าว ส่วนธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่และอัตราการเช่าพื้นที่ของธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าดีขึ้น
สรุปแล้ว บริษัทฯมีรายได้รวมสำหรับปี 2554 และ 2553 จำนวน 10,033 ล้านบาท และ 13,631 ล้านบาทตามลาดับ ลดลงจำนวน 3,598 ล้านบาท หรือลดลง 26 % เมื่อเทียบกับปี 53.
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2554 ว่า บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.21 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ที่ 5,638 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 1,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.94 % จากช่วงเดียวกันของปี 2553 ที่ 620 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 4 ปี 2554 นี้ ถือเป็นรายได้และกำไรที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
“ ในไตรมาส 4 ปี 2554 นี้ บริษัทฯ สามารถทำรายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่อนข้างมาก ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร ซึ่งตัวเลขการเติบโตถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริ โดยรายได้เติบโตจาก5,638 ล้านบาท เป็น 7,792 ล้านบาท ซึ่งทะลุเป้าที่เราตั้งกันไปประมาณ 1,680 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.84 % ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทสามารถบริหารจัดการกับผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ได้เป็นอย่างดี ผู้ซื้อโครงการจากบริษัทมีความมั่นใจ ทำให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าหมาย ” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2554 นั้น บริษัทฯ สามารถดำเนินงานซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทื่ 20,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่มีรายได้ 18,755 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.26 % ซึ่งเป็นผลมาจากการวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แตกต่างและโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด รวมทั้งบริษัทฯ มีตลาดที่อยู่อาศัยในทุกระดับ ตั้งแต่ตลาดระดับบน (ไฮเอนด์) กลางและล่าง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ข้อมูลที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า บริษัทรวมรายได้ 20,680.8 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่าย 17,663.9 ล้านบาท มีกำไรรอบปี 2,015.69 ล้านบาท (ปี 53 กำไรรอบปี 1,898.09 ล้านบาท) ดังนั้น ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทแสนสิริในปี 54 จะประมาณ 9.7% (นำกำไรรอบปีคูณกับรวมรายได้)
สำหรับในปี 55 บริษัทฯคาดการณ์การรายได้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายโครงการที่ 27,000 ล้านบาท และจากรายได้ธุรกิจบริการอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ระดับประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปี 2554 โดยมีรายได้จากการขาย ที่รอรับรู้ (Presale Backlog ) แล้วเกือบ70% ของรายได้จากการขายโครงการ และในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทฯ ทั้งหมด จำนวน 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท
PFคาดยอดขายไตรมาส 1 ปี 2555 โต 36%
นางสาวศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายแล้วประมาณ 1,900 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการที่บริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากบ้านขนาดใหญ่ ในแบรนด์ “เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ” ทั้ง 4 ทำเล ได้แก่ พระราม 9 รามคำแหง ราชพฤกษ์ และ รัตนาธิเบศร์ ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวแบบบ้านใหม่ภายใต้แบรนด์ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ เพิ่มเติมในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ ทำให้คาดว่ายอดขาย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ น่าจะทำได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ที่ 2,200 ล้านบาท เติบโต 36% อันจะส่งผลให้ยอดรับรู้รายได้ไตรมาส 1 น่าจะมีอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% และทำให้ Backlog เพิ่มขึ้นจากเมื่อสิ้นปี เป็น 4,500 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนของบริษัทนั้น ในไตรมาสแรกจะมีประมาณ 300 ล้านบาทเท่านั้น ลดลงเนื่องจากบริษัทจะนำเอา Land Bank ที่มีอยู่มาพัฒนาให้มากที่สุด
บิ๊กอสังหาฯแห่ออกหุ้นกู้
นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการ และประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริฯกล่าวว่า ได้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติออกหุ้นกู้ทุกประเภท ทั้งแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน แล้ว โดยหุ้นดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออก และเสนอขายหุ้นกู้แต่ละคราว วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท หรือเงินสกุลต่างประเทศในวงเงินเทียบเท่าเงินบาทจำนวนดังกล่าว อายุไม่เกิน 10 ปีนับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ในแต่ละคราว
ขณะที่บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 2,500 ล้านบาท ให้กับประชาชนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน โดยมีธนาคารธนชาต เป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งจำนวน หุ้นกู้ที่จะจัดจำหน่ายในครั้งนี้มีอายุ 2-3 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี โดยจะเปิดให้จองซื้อได้ในกลางเดือนมีนาคมนี้”
QHเจอพิษน้ำท่วมกระทบยอดขาย
นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 54 มีผลการดำเนินงานจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 4 ของปี 2554 บริษัทฯได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้โครงการบ้านของบริษัทฯที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่น้าท่วมต้องปิดดาเนินการชั่วคราว ประกอบกับผู้บริโภคยังขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงส่งผลให้เกิดการชะลอตัวลงของธุรกิจขายบ้านพร้อมที่ดินในเขตพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าว ส่วนธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่และอัตราการเช่าพื้นที่ของธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าดีขึ้น
สรุปแล้ว บริษัทฯมีรายได้รวมสำหรับปี 2554 และ 2553 จำนวน 10,033 ล้านบาท และ 13,631 ล้านบาทตามลาดับ ลดลงจำนวน 3,598 ล้านบาท หรือลดลง 26 % เมื่อเทียบกับปี 53.