ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดหนังสือหวังฟื้นตัวปี 55 ขอโต 5% แตะ 20,000 ล้านบาท หลังปีก่อนจมน้ำทำได้ทรงตัวเท่าปี 53 ฟันธงกลุ่มหนังสือทำนาย และสิ่งแวดล้อมยอดเฟื่อง สติฟ จ๊อปส์ติดลมบน หนังสือเสริมทักษะทางการศึกษามาแรงตามนโยบายภาครัฐ
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหนังสือในปีที่ผ่านมา คาดว่าจะทรงตัวเท่าปี 2553 หรือมีมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท จากเดิมที่มองว่าน่าจะโตได้ 5% หรือราว 20,000ล้านบาท เนื่องจากเจอปัญหาน้ำท่วมหนักร่วม 2 เดือนในช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงจัดงานเทศกาลหนังสือด้วย ทำให้กระทบต่อยอดขายทั้งหน้าร้าน และการขนส่ง สำนักพิมพ์ขนาดเล็กสะดุดลงบ้าง มีการเลื่อนเปิดตัวหนังสือมาเป็นปีนี้แทน
ส่วนในปีนี้คาดว่าสถานการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น บวกกับนโยบายการอ่านของภาครัฐด้วยแล้ว มั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดปีนี้ตลาดหนังสือน่าจะเติบโตได้ที่ 5% หรือราว 20,000 ล้านบาท หรือเติบโตไปในทิศทางเดียวกับค่าจีดีพีของประเทศ โดยกลุ่มหนังสือประเภทพยากรณ์ หรือทำนาย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม จะมาแรง ขณะที่พ๊อกเก็จบุ๊คส์เกี่ยวกับ สตีฟ จ๊อปส์ จะเป็นหนังสือที่ขายดีติดอันดับต้นๆ รวมไปถึงกลุ่มหนังสือเสริมทักษะโดยเฉพาะด้านภาษาอังกฤษตามนโยบายการอ่านของภาครัฐก็จะมาแรงเช่นกัน ขณะที่กลุ่มหนังสือประเภทบันเทิงคดี อย่างนวนิยายและการ์ตูน ยังเป็น 2 กลุ่มใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งในตลาดหนังสือกว่า 50% และอีก 50% เป็นกลุ่มสาระ
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยลบที่อาจจะทำให้ตลาดหนังสือมีการเติบโตลดลงได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่เกิดภายในประเทศ เช่น ภัยพิบัติ และการเมือง รวมถึงปัญหาการขโมยหนังสือ ซึ่งในส่วนของปัญหาการขโมยหนังสือนี้ ปีนี้คาดว่าจะมีน้อยลงมาก เนื่องจากตัวร้านเชนหนังสือ มีมาตรการและมีการจัดการที่รู้เท่าทันกับพวกลักลอบขโมยมากยิ่งขึ้นแล้ว ต่างจากช่วง 4-5ปีก่อน ที่ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาหนักของตลาดหนังสือมาโดยตลอด
นายวรพันธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถาพรบุ๊คส์นั้น ปีที่ผ่านมายังมีการเติบโตได้ที่ 5% จากเป้า 10-15% โดยในปีนี้คาดว่าอย่างน้อยที่สุดน่าจะเติบโตได้อีก 10% ภายใต้กลยุทธ์การวางแผนการจัดการผลิตหนังสือให้มี ประสิทธิภาพ และคัดสรรเนื้อหาและหัวเรื่องให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมกับยกระดับวิธีการนำเสนอให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนหนังสือหนังสือนวนิยายในปีนี้ น่าจะตีพิมพ์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันกลุ่มสถาพรบุ๊คส์ มีสำนักพิมพ์ในเครือกว่า 8 สำนักพิมพ์ ได้แก่ สถาพรบุ๊คส์, พิมพ์คำ, บีไบรท์, ปริ๊นเซส, Sugar Beat, Z-Girl, เพชรการเรือน และธรรมสถาพร โดยรายได้หลักกว่า 50% มาจากสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ และพิมพ์คำ
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหนังสือในปีที่ผ่านมา คาดว่าจะทรงตัวเท่าปี 2553 หรือมีมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท จากเดิมที่มองว่าน่าจะโตได้ 5% หรือราว 20,000ล้านบาท เนื่องจากเจอปัญหาน้ำท่วมหนักร่วม 2 เดือนในช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงจัดงานเทศกาลหนังสือด้วย ทำให้กระทบต่อยอดขายทั้งหน้าร้าน และการขนส่ง สำนักพิมพ์ขนาดเล็กสะดุดลงบ้าง มีการเลื่อนเปิดตัวหนังสือมาเป็นปีนี้แทน
ส่วนในปีนี้คาดว่าสถานการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น บวกกับนโยบายการอ่านของภาครัฐด้วยแล้ว มั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดปีนี้ตลาดหนังสือน่าจะเติบโตได้ที่ 5% หรือราว 20,000 ล้านบาท หรือเติบโตไปในทิศทางเดียวกับค่าจีดีพีของประเทศ โดยกลุ่มหนังสือประเภทพยากรณ์ หรือทำนาย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม จะมาแรง ขณะที่พ๊อกเก็จบุ๊คส์เกี่ยวกับ สตีฟ จ๊อปส์ จะเป็นหนังสือที่ขายดีติดอันดับต้นๆ รวมไปถึงกลุ่มหนังสือเสริมทักษะโดยเฉพาะด้านภาษาอังกฤษตามนโยบายการอ่านของภาครัฐก็จะมาแรงเช่นกัน ขณะที่กลุ่มหนังสือประเภทบันเทิงคดี อย่างนวนิยายและการ์ตูน ยังเป็น 2 กลุ่มใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งในตลาดหนังสือกว่า 50% และอีก 50% เป็นกลุ่มสาระ
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยลบที่อาจจะทำให้ตลาดหนังสือมีการเติบโตลดลงได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่เกิดภายในประเทศ เช่น ภัยพิบัติ และการเมือง รวมถึงปัญหาการขโมยหนังสือ ซึ่งในส่วนของปัญหาการขโมยหนังสือนี้ ปีนี้คาดว่าจะมีน้อยลงมาก เนื่องจากตัวร้านเชนหนังสือ มีมาตรการและมีการจัดการที่รู้เท่าทันกับพวกลักลอบขโมยมากยิ่งขึ้นแล้ว ต่างจากช่วง 4-5ปีก่อน ที่ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาหนักของตลาดหนังสือมาโดยตลอด
นายวรพันธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถาพรบุ๊คส์นั้น ปีที่ผ่านมายังมีการเติบโตได้ที่ 5% จากเป้า 10-15% โดยในปีนี้คาดว่าอย่างน้อยที่สุดน่าจะเติบโตได้อีก 10% ภายใต้กลยุทธ์การวางแผนการจัดการผลิตหนังสือให้มี ประสิทธิภาพ และคัดสรรเนื้อหาและหัวเรื่องให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมกับยกระดับวิธีการนำเสนอให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนหนังสือหนังสือนวนิยายในปีนี้ น่าจะตีพิมพ์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันกลุ่มสถาพรบุ๊คส์ มีสำนักพิมพ์ในเครือกว่า 8 สำนักพิมพ์ ได้แก่ สถาพรบุ๊คส์, พิมพ์คำ, บีไบรท์, ปริ๊นเซส, Sugar Beat, Z-Girl, เพชรการเรือน และธรรมสถาพร โดยรายได้หลักกว่า 50% มาจากสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ และพิมพ์คำ