ASTVผู้จัดการรายวัน – “เคาน์เตอร์เซอร์วิส” รุกหนักปี 2555 ผุดเพิ่มอีก 750 สาขา เดินหน้าเพิ่มลูกค้าใหม่ๆในกลุ่มเดิม ยันคู่แข่งเกิดขึ้นไม่กระเทือน
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายวีรเดช อัครผลพานิช ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่รับชำระค่าบริการต่างๆ ในเครือซีพี เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ของเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้ประมาณ 750 สาขา แบ่งเป็นเปิดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 500 สาขาและนอกร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 250 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 6 หลักต่อสาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาของเคาน์เตอร์เซอร์วิสประมาณ 8,000 สาขา ตั้งอยู่ในร้านเซเว่นฯเป็นหลัก 6,000 กว่าสาขา และนอกเซเว่นฯอีก 1,000 กว่าสาขา
อย่างไรก็ตาม ประเภทสินค้าและบริการที่รับชำระนั้นในปีนี้คาดว่าคงจะไม่ได้มีการเพิ่มกลุ่มบริการใหม่ๆมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 16 กลุ่มรวม 900 บริการ แต่จะขยายเพิ่มในบริการใหม่ๆในกลุ่มเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มสินค้าและบริการที่มีการเติบโตดี เช่น กลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์, กลุ่มบันเทิง, กลุ่มการศึกษา , กลุ่มประกันภัย เป็นต้น
ทั้งนี้เคาน์เตอร์เซอร์วิสมีปริมาณลูกค้าประมาณ 10 ล้านรายต่อเดือน หรือประมาณ 120 ล้านบิลต่อปี ที่มาชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ล่าสุดได้เป็นพันธมิตรกับเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ปที่อยู่ในกลุ่มบันเทิง โดยเมื่อลูกค้าที่จองตั๋วหนังในเครือเมเจอร์ฯผ่านโทรศัพท์มือถือทุกรุ่น ทุกระบบ ผ่าน m.majorcineplex.com และแอพพลิเคชั่น Major Movie บน iPhone Blackberry Android หรือ เบอร์โทรศัพท์สายตรงของโรงหนังเครือเมเจอร์ฯทุกแบรนด์ ทุกสาขา หรือจองผ่านเว็บไซต์ www.majorcineplex.com หรือเฟซบุ๊ก facebook/majorgroup แล้วนำรหัสการจอง 6 หลัก ที่ได้ไปแจ้งชำระค่าตั๋วที่จุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเท ศ แจ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ แล้วนำใบสลิปใบเสร็จเข้าชมหนังได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามารอรับที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของโรงหนัง ซึ่งเคาน์เตอร์เซอร์วิสจะคิดค่าธรรมเนียม 10-15 บาทต่อ 1 การจอง (มากสุดไม่เกิน 6 ตั๋วต่อ 1 การจอง)
สำหรับการร่วมมือกับทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ปครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มอีก 10% จากกลุ่มคนดูหนังของเมเจอร์ฯ ที่อาจจะเข้ามาใช้บริการในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันฐานลูกค้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีประมาณ 25 ล้านคนในตัวเมือง โดยผลประกอบการของรร้าเซเว่นอีเลฟเว่น ปีที่ผ่านมามีการเติบโต 11% คาดว่าปีนี้จะเติบโตรวม 15% ขณะที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสปีที่แล้วเติบโต 11% คาดว่าปีนี้จะเติบโต 15%
อย่างไรก็ตามนายปิยะวัฒน์กล่าวให้ความเห็นด้วยว่า แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสคือการรับชำระค่าบริการเกิดขึ้นมาหลายราย บางรายตัดราคาโดยคิดถูกกว่าแค่ รายการละ 5 บาท เท่านั้น ไม่มีผลกระทบอะไรกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพราะเรามีสาขาจำนวนมาก กระจายเข้าถึงผู้บริโภค รวมทั้งมีระบบที่รองรับพร้อมกับการขยายงาน
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายวีรเดช อัครผลพานิช ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่รับชำระค่าบริการต่างๆ ในเครือซีพี เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ของเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้ประมาณ 750 สาขา แบ่งเป็นเปิดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 500 สาขาและนอกร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 250 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 6 หลักต่อสาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาของเคาน์เตอร์เซอร์วิสประมาณ 8,000 สาขา ตั้งอยู่ในร้านเซเว่นฯเป็นหลัก 6,000 กว่าสาขา และนอกเซเว่นฯอีก 1,000 กว่าสาขา
อย่างไรก็ตาม ประเภทสินค้าและบริการที่รับชำระนั้นในปีนี้คาดว่าคงจะไม่ได้มีการเพิ่มกลุ่มบริการใหม่ๆมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 16 กลุ่มรวม 900 บริการ แต่จะขยายเพิ่มในบริการใหม่ๆในกลุ่มเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มสินค้าและบริการที่มีการเติบโตดี เช่น กลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์, กลุ่มบันเทิง, กลุ่มการศึกษา , กลุ่มประกันภัย เป็นต้น
ทั้งนี้เคาน์เตอร์เซอร์วิสมีปริมาณลูกค้าประมาณ 10 ล้านรายต่อเดือน หรือประมาณ 120 ล้านบิลต่อปี ที่มาชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ล่าสุดได้เป็นพันธมิตรกับเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ปที่อยู่ในกลุ่มบันเทิง โดยเมื่อลูกค้าที่จองตั๋วหนังในเครือเมเจอร์ฯผ่านโทรศัพท์มือถือทุกรุ่น ทุกระบบ ผ่าน m.majorcineplex.com และแอพพลิเคชั่น Major Movie บน iPhone Blackberry Android หรือ เบอร์โทรศัพท์สายตรงของโรงหนังเครือเมเจอร์ฯทุกแบรนด์ ทุกสาขา หรือจองผ่านเว็บไซต์ www.majorcineplex.com หรือเฟซบุ๊ก facebook/majorgroup แล้วนำรหัสการจอง 6 หลัก ที่ได้ไปแจ้งชำระค่าตั๋วที่จุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเท ศ แจ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ แล้วนำใบสลิปใบเสร็จเข้าชมหนังได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามารอรับที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของโรงหนัง ซึ่งเคาน์เตอร์เซอร์วิสจะคิดค่าธรรมเนียม 10-15 บาทต่อ 1 การจอง (มากสุดไม่เกิน 6 ตั๋วต่อ 1 การจอง)
สำหรับการร่วมมือกับทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ปครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มอีก 10% จากกลุ่มคนดูหนังของเมเจอร์ฯ ที่อาจจะเข้ามาใช้บริการในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันฐานลูกค้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีประมาณ 25 ล้านคนในตัวเมือง โดยผลประกอบการของรร้าเซเว่นอีเลฟเว่น ปีที่ผ่านมามีการเติบโต 11% คาดว่าปีนี้จะเติบโตรวม 15% ขณะที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสปีที่แล้วเติบโต 11% คาดว่าปีนี้จะเติบโต 15%
อย่างไรก็ตามนายปิยะวัฒน์กล่าวให้ความเห็นด้วยว่า แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสคือการรับชำระค่าบริการเกิดขึ้นมาหลายราย บางรายตัดราคาโดยคิดถูกกว่าแค่ รายการละ 5 บาท เท่านั้น ไม่มีผลกระทบอะไรกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพราะเรามีสาขาจำนวนมาก กระจายเข้าถึงผู้บริโภค รวมทั้งมีระบบที่รองรับพร้อมกับการขยายงาน
