ตั้งแต่ตกจากอำนาจเป็นฝ่ายค้าน ชื่อของ “พรรคภูมิใจไทย”ก็เงียบหายไปจากพื้นที่สื่อการเมืองไป แม้จะเป็นข่าวบ้างแต่ก็ไม่ค่อยจะเป็นข่าวทางบวกมากนัก
ไม่ว่าจะเป็นกรณีกรรมการการเลือกตั้งให้ใบแดงกับ มนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ส.ส.บุรีรัมย์ ที่กำลังรอส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งอยู่ หรือการนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในเดือนมีนาคมกับคดีบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย-ส.ส.นครราชสีมา
หากศาลตัดสินว่า “บุญจง”ที่มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคผิดตามคำร้องของกกต. “ภูมิใจไทย”ก็ร่อแร่ จ่อยุบพรรคค่อนข้างแน่
เหตุที่ ภูมิใจไทยไม่สามารถแสดงบทบาทการเมืองอะไรในสภาฯได้ ส่วนสำคัญเป็นเพราะการเป็นฝ่ายค้านของภูมิใจไทย ไม่มีความเข้มข้นพอในการตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล เพราะส.ส.ส่วนใหญ่ในสภาฯ เป็นพวกส.ส.หน้าใหม่ ยังไม่เจนพรรษา ส่วนใหญ่ชื่อเสียงโนเนม
ทั้งที่เป็นพรรคที่มีส.ส.เป็นลำดับที่ 3 ในสภาฯ แต่บทบาททางการเมืองทั้งในและนอกสภาฯ กลับแทบไม่มีอะไรให้พูดถึงได้เลย ซึ่งส.ส.ในพรรคบางคนก็ยอมรับตรงไปตรงมาว่า เป็นเพราะแกนนำพรรค ทั้งหัวหน้าพรรค ชวรัตน์ ชาญวีรกูล และเลขาธิการพรรค นางพรทิวา นาคาสัย ความเจนจัดการเมืองมีน้อย
ยิ่งบทบาทการนำแทบไม่มี “ปู่จิ้น”แม้จะอยู่ในวงการเมืองมาหลายสิบปีตั้งแต่เป็นถุงเงินให้พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ตอนอยู่ด้วยกันที่พรรคชาติไทย-พรรคชาติพัฒนา แต่ใครจะเชื่อ “ปู่จิ้น”เพิ่งเป็นส.ส.สมัยแรกในชีวิตก็รอบนี้ สมัยที่แล้วเป็นรมว.มหาดไทยก็ไม่ได้เป็นส.ส.
ส่วน “เจ๊วา”ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้เล่นการเมืองสมัยแรกจะได้เป็นทั้งเลขาธิการพรรค-รมว.พาณิชย์ แต่ก็เป็นนอมินีให้กับสามี เสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาสัย เรื่องการเป็นนักการเมืองหญิง ก็ไม่สดแล้ว เมื่อมาเจอ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่แฟชั่นเร้าใจกว่ามาก
อนาคตของ “ภูมิใจไทย”คนในพรรคยังบอกว่าหลังพฤษภาคมปีนี้ เมื่อกลุ่ม 111 ในภูมิใจไทย พ้นโทษแบนการเมืองมา ต้องมานั่งคุยกันจริงจังจะเอาอย่างไรต่อไป เพราะคงหาม “ปู่จิ้น” ต่อไปแบบนี้ไม่ไหว เพราะลูกพรรคหลายคนก็ต้องการความมั่นคงและการเติบโต ไม่อยากอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
มีการพูดคุยกันถึงสูตรปรับปรุงพรรคหลังพ.ค.ว่า หลายคนอยากเห็น “เสี่ยเน-เนวิน ชิดชอบ”เลิกบ้าฟุตบอลมาคุมการเมืองในพรรคให้มากขึ้น เพราะบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ก็อยู่ตัวแล้ว เล่นคว้าสามถ้วยในปีเดียวแบบนี้ เนวิน น่าจะวางใจได้แล้ว
แต่ติดที่ “เสี่ยห้อย” บอกมาตลอดว่า ไม่อยากหวนการเมืองเต็มตัว เพราะยังไม่พร้อม ขออยู่หลังฉากต่อไปอีกสักระยะ ทำให้คนในพรรคเคืองเล็กๆที่ลูกพี่ ดูจะไม่เอาจริงเอาจัง
ด้าน “เนวิน”ก็ไม่ได้สนใจเพราะเจ้าตัวรู้ว่าลูกพรรคยังประเมินการเมืองไม่เก่ง ไม่เหมือน “เนวิน”ที่ดูแล้วเชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังอยู่ได้อีกยาว อีกนานกว่าจะเลือกตั้งเผลอๆอาจครบเทอมแล้ว จะไปเปิดตัวให้ตกเป็นเป้าตอนนี้ทำไม
สูตรที่ “เนวิน” วางไว้ในการทำพรรคตอนนี้ ก็คือยังให้บทบาทการนำในพรรค อยู่ในตระกูล “ชาญวีรกูล”ต่อไป ทั้งเรื่องเงินสนับสนุนพรรค-เงินจ่ายส.ส.รายเดือน –การต้องเล่นบทเจรจาต่อรองกับกลุ่มการเมือง นักธุรกิจกลุ่มต่างๆ ของภูมิใจไทย
หลัง พ.ค. ก็อาจได้เห็น “เสี่ยหนู-อนุทิน ”ขึ้นมาแทนพ่อ ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคก็ได้ เว้นแต่ทั้ง “จิ้น-หนู” ในฐานะพ่อลูก จะดึงเกมไปก่อน เพราะตอนนี้หนีไม่พ้นเป็นพรรคฝ่ายค้าน รอไปอีกสักระยะค่อยว่ากัน
“ป๋าจิ้น”ขอนั่งเป็นหัวหน้าพรรค จะได้มีตำแหน่งเดินเข้าสภาฯ อีกสักพัก
ไม่ว่าจะเป็นกรณีกรรมการการเลือกตั้งให้ใบแดงกับ มนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ส.ส.บุรีรัมย์ ที่กำลังรอส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งอยู่ หรือการนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในเดือนมีนาคมกับคดีบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย-ส.ส.นครราชสีมา
หากศาลตัดสินว่า “บุญจง”ที่มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคผิดตามคำร้องของกกต. “ภูมิใจไทย”ก็ร่อแร่ จ่อยุบพรรคค่อนข้างแน่
เหตุที่ ภูมิใจไทยไม่สามารถแสดงบทบาทการเมืองอะไรในสภาฯได้ ส่วนสำคัญเป็นเพราะการเป็นฝ่ายค้านของภูมิใจไทย ไม่มีความเข้มข้นพอในการตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล เพราะส.ส.ส่วนใหญ่ในสภาฯ เป็นพวกส.ส.หน้าใหม่ ยังไม่เจนพรรษา ส่วนใหญ่ชื่อเสียงโนเนม
ทั้งที่เป็นพรรคที่มีส.ส.เป็นลำดับที่ 3 ในสภาฯ แต่บทบาททางการเมืองทั้งในและนอกสภาฯ กลับแทบไม่มีอะไรให้พูดถึงได้เลย ซึ่งส.ส.ในพรรคบางคนก็ยอมรับตรงไปตรงมาว่า เป็นเพราะแกนนำพรรค ทั้งหัวหน้าพรรค ชวรัตน์ ชาญวีรกูล และเลขาธิการพรรค นางพรทิวา นาคาสัย ความเจนจัดการเมืองมีน้อย
ยิ่งบทบาทการนำแทบไม่มี “ปู่จิ้น”แม้จะอยู่ในวงการเมืองมาหลายสิบปีตั้งแต่เป็นถุงเงินให้พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ตอนอยู่ด้วยกันที่พรรคชาติไทย-พรรคชาติพัฒนา แต่ใครจะเชื่อ “ปู่จิ้น”เพิ่งเป็นส.ส.สมัยแรกในชีวิตก็รอบนี้ สมัยที่แล้วเป็นรมว.มหาดไทยก็ไม่ได้เป็นส.ส.
ส่วน “เจ๊วา”ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้เล่นการเมืองสมัยแรกจะได้เป็นทั้งเลขาธิการพรรค-รมว.พาณิชย์ แต่ก็เป็นนอมินีให้กับสามี เสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาสัย เรื่องการเป็นนักการเมืองหญิง ก็ไม่สดแล้ว เมื่อมาเจอ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่แฟชั่นเร้าใจกว่ามาก
อนาคตของ “ภูมิใจไทย”คนในพรรคยังบอกว่าหลังพฤษภาคมปีนี้ เมื่อกลุ่ม 111 ในภูมิใจไทย พ้นโทษแบนการเมืองมา ต้องมานั่งคุยกันจริงจังจะเอาอย่างไรต่อไป เพราะคงหาม “ปู่จิ้น” ต่อไปแบบนี้ไม่ไหว เพราะลูกพรรคหลายคนก็ต้องการความมั่นคงและการเติบโต ไม่อยากอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
มีการพูดคุยกันถึงสูตรปรับปรุงพรรคหลังพ.ค.ว่า หลายคนอยากเห็น “เสี่ยเน-เนวิน ชิดชอบ”เลิกบ้าฟุตบอลมาคุมการเมืองในพรรคให้มากขึ้น เพราะบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ก็อยู่ตัวแล้ว เล่นคว้าสามถ้วยในปีเดียวแบบนี้ เนวิน น่าจะวางใจได้แล้ว
แต่ติดที่ “เสี่ยห้อย” บอกมาตลอดว่า ไม่อยากหวนการเมืองเต็มตัว เพราะยังไม่พร้อม ขออยู่หลังฉากต่อไปอีกสักระยะ ทำให้คนในพรรคเคืองเล็กๆที่ลูกพี่ ดูจะไม่เอาจริงเอาจัง
ด้าน “เนวิน”ก็ไม่ได้สนใจเพราะเจ้าตัวรู้ว่าลูกพรรคยังประเมินการเมืองไม่เก่ง ไม่เหมือน “เนวิน”ที่ดูแล้วเชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังอยู่ได้อีกยาว อีกนานกว่าจะเลือกตั้งเผลอๆอาจครบเทอมแล้ว จะไปเปิดตัวให้ตกเป็นเป้าตอนนี้ทำไม
สูตรที่ “เนวิน” วางไว้ในการทำพรรคตอนนี้ ก็คือยังให้บทบาทการนำในพรรค อยู่ในตระกูล “ชาญวีรกูล”ต่อไป ทั้งเรื่องเงินสนับสนุนพรรค-เงินจ่ายส.ส.รายเดือน –การต้องเล่นบทเจรจาต่อรองกับกลุ่มการเมือง นักธุรกิจกลุ่มต่างๆ ของภูมิใจไทย
หลัง พ.ค. ก็อาจได้เห็น “เสี่ยหนู-อนุทิน ”ขึ้นมาแทนพ่อ ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคก็ได้ เว้นแต่ทั้ง “จิ้น-หนู” ในฐานะพ่อลูก จะดึงเกมไปก่อน เพราะตอนนี้หนีไม่พ้นเป็นพรรคฝ่ายค้าน รอไปอีกสักระยะค่อยว่ากัน
“ป๋าจิ้น”ขอนั่งเป็นหัวหน้าพรรค จะได้มีตำแหน่งเดินเข้าสภาฯ อีกสักพัก