xs
xsm
sm
md
lg

"สุกำพล"ยันโผทหารไร้ปัญหา ฟุ้งปี62 ทอ.แกร่งสุดในอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ ( 23 ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองบัญชากองทัพไทยอย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม โดยมีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ โดยกองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ
จากนั้น ได้เข้ารับฟังคำบรรยายสรุปการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพไทย พร้อมกับมอบนโยบายกับหน่วยขึ้นตรงของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยจะต้องยึดมั่นต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งเสริมสร้างกองทัพให้พร้อมเผชิญกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ และมีความพร้อมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จากนั้นรมว.กลาโหม ได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเกษียนอายุราชการ ก็ไม่ได้เดินทางมาเยี่ยมเลย แต่การตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ได้เห็นความก้าวหน้า ระบบการติดต่อสื่อสาร เราสามารถติดต่อได้ทั่วประเทศ ทุกหน่วย ไม่เฉพาะทหารอย่างเดียว แต่สามารถติดต่อทูตทหารของเราที่อยู่ต่างประเทศได้ด้วย
เมื่อมีเครือข่ายที่ดีแล้ว ทำให้การควบคุมบังคับบัญชาในการรบและการปฏิบัติการทั้งหลายมั่นใจได้ยิ่งขึ้นว่า ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือแต่เรื่องของคนกับยุทโธปกรณ์เท่านั้น ซึ่งตนรู้สึกชื่นชมความพร้อมเพรียงว่ามีอะไรที่ดีกว่าก่อนเยอะ ซึ่งตนเห็นความก้าวหน้าแล้วรู้สึกภูมิใจ ส่วนนโยบายที่ให้ไป เป็นนโยบายง่ายๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยคุยไปแล้ว เช่น การศึกษาของนักศึกษาวิทยาป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ที่ขอให้ใช้ประโยชน์จากคนที่มาศึกษาได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการฝึกร่วมของเหล่าทัพ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของเรา แต่ภารกิจรองคือ การช่วยเหลือประชาชนก็อย่าให้ลืม ทั้งนี้ภารกิจหลักของเราคือ การเตรียมพร้อมรบ เพราะไม่รู้ว่าจะรบเมื่อไร เราต้องพร้อมเสมอ นอกจากนี้ยังต้องช่วยกันดูกำลังพลนายทหารชั้นประทวนว่า เขามีความเดือดร้อนหรือไม่ อย่างไร ขอให้ผู้บังคับบัญชาลงไปดูด้วย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพนั้น ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ ผบ.ทบ.ให้ช่วยดูว่า ฮ.มีน้อย แบล็กฮอว์ก ก็เหลือน้อย เพราะต้องใช้งาน ฮ.มาก ซึ่งตนบอกว่า จะดูให้ ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ ก็ได้มีการพูดคุยกับ ผบ.ทร.แล้ว ซึ่งทราบว่า อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อย ส่วนการปรับย้ายนายทหารประจำเดือนในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ได้กำหนดไปแล้วว่า จะให้เหล่าทัพส่งมาวันไหน ซึ่งสัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า ต้องเรียบร้อย แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะเป็นการปรับเล็กๆ
ส่วนการทำงานกับ ผบ.เหล่าทัพ ในช่วงที่ผ่านมาไม่ปัญหาอะไร เราอยู่กันอย่างพี่น้อง มีแต่ความจริงใจ ซึ่งทางผบ.สส. บอกว่าจะตอบสนองนโบายของตนแทบทุกเรื่อง และตนก็ตอบรับไป ถ้าน้องต้องการอะไร ก็ขอให้มาคุยกับตน แต่ในการที่จะขอหรือให้อะไรนั้น ตนจะต้องขอดูและพูดคุยกันก่อนไม่ใช่ปล่อยกันไปง่ายๆ เพราะจะต้องรอบคอบเพราะต้องดูว่าอะไรทำได้ไม่ได้อย่างไร
" ผมไม่อยากให้สื่อถามถึงการทำงานระหว่าง ผม กับผบ.เหล่าทัพ เพราะบอกไปแล้วว่าเราอยู่กันได้แบบพี่น้อง ไม่มีปัญหา อย่าถามให้มีปัญหา ในใจก็ไม่มีอะไร ไม่ได้แสแสร้ง เราคุยกันด้วยความจริงใจ ซึ่งจะทำงานในตำแหน่งหน้าที่ให้ดีที่สุด เป็นหน้าที่ของผม ในการทำงานร่วมกับเหล่าทัพ ไม่ได้หนักใจ และอาทิตย์หน้า ทาง ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. ติดภารกิจไปต่างประเทศ จะไม่ได้มาประชุมสภากลาโหม อย่าเอามาเป็นประเด็นอีก วันนี้ จากที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพไทย พูดภาษา จิ๊กโก๋ว่า แฮปปี้ดี และผมยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหากับ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. คุยกันดี ช่วยกันทุกอย่าง โดยเฉพาะ ผบ.ทอ. ช่วยผมเยอะ ผมยืนยันไม่เคยมีปัญหากับ ผบ.เหล่าทัพ ขอให้ทุกคนมีความจริงใจในการพูดคุยกัน มีอะไรก็สามารถพูดกันในฐานะที่เป็นพี่น้องกัน " รมว.กลาโหม กล่าว

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม กองบัญชาการกองทัพอากาศอย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม โดยมีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระททรวงกลาโหม พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และตัวแทนเหล่าทัพ ให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การมาตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ เหมือนได้กลับมาถิ่นเดิม ซึ่งได้มีการบรรยายสรุปถึงภาพรวมในการทำงานของกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความก้าวหน้าทันสมัยขึ้น โดยได้เน้นย้ำกับ ผบ.ทอ. ในเรื่องของการทำงาน และยุทธการ ฝึกการบิน เมื่อจบจากโรงเรียนกองทัพอากาศแล้ว ให้มีใบอนุญาตใบขับขี่การบิน โดยได้แนะนำการฝึกนักบินและยุทโธปกรณ์ทั้งหลาย ซึ่งกองทัพอากาศก็รับทราบและเตรียมนำไปปฏิบัติ
" มีความรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล ที่ได้กลับมาเยี่ยมหน่วยเก่า และน้องๆ ก็ไม่ได้กลัวผมหรอก เพราะผมเป็นพี่ เป็นผู้บังคับบัญชา เป็นนายต้องมีความเมตตากัน ผบ.ทอ. ก็ต้องเมตตาลูกน้อง ใช้หลักพรหมวิหาร 4 สำหรับผู้บริหาร และของนายที่ต้องทำ ดังนั้นผมเคยอยู่กองทัพอากาศ ผมช่วยเต็มที่เท่าที่ทำได้ " พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
ทั้งนี้กองทัพอากาศ ได้เสนอของบประมาณเพื่อซ่อมแซมยุทโธปกรณ์ที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งถือว่าตรงนี้เป็นเงินที่สำคัญมาก เพราะกระทบกระเทือนต่อการพร้อมรบของกองทัพอากาศ ซึ่งตนได้ไปคุยกับสำนักงบประมาณแล้ว และสำนักงบประมาณ ก็บอกว่าจะดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว โดยอาจจะสำรองเงินส่วนอื่นมาให้กองทัพอากาศใช้ซ่อมแซมก่อน โดยให้กองทัพอากาศ ส่งเจ้าหน้าที่ประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อให้ทุกอย่างเร็วขึ้น
ส่วนการฟื้นฟูเครื่องบินรบก็จะมีการดำเนินการตามแผนตามที่วางไว้ทั้ง F-5 และ F-16 โดยจะมีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น ทั้งนี้กองทัพอากาศได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นกองทัพอากาศที่ดีที่สุดในอาเซียนภายในปี 2562 ซึ่งการจะเป็นกองทัพอากาศที่ทันสมัย จะต้องมีทั้งระบบและคนที่ดี ซึ่งการวางยุทธศาสตร์ทั้งหมด คงต้องมีการหารือกันอีกครั้ง โดยตนไม่รู้สึกห่วงอะไรเพราะทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย ปัญหาต่างๆ ก็จบกันไปแล้ว ไม่มีอะไร ก็เริ่มใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น