ไฟไหม้ศูนย์อพยพ“อุ้มเปี้ยม”ฟ้าแม่สอดปิด-นกแอร์บินไม่ได้

ตาก - ไฟไหม้ศูนย์อพยพชาวกะเหรี่ยงบ้านอุ้มเปี้ยม ชายแดนตากวอดนับพันหลังคาเรือน โชคดีไม่มีเจ็บ-ตาย แต่ลือตาย 3 ศพ ส่งผลกระทบหนักทำสภาพอากาศปิด สายการบินนกแอร์ ลงจอดสนามบินนครแม่สอดไม่ได้ นายอำเภอแม่สอด ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยวันนี้ (24 ก.พ.)

เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (23 ก.พ.) ได้เกิดเหตุไฟไหม้ศูนย์อพยพชาวกะเหรี่ยงบ้านอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก เนื่องจากความแห้งแล้ง และบ้านเรือนที่ปลูกอยู่อาศัยในศูนย์เกือบทั้งหมดเป็นใบตอง-หญ้าคา และไม้ไผ่ ทำให้ติดไฟได้ง่าย ไฟที่ลุกไหม้จึงลุกลามอย่างรวดเร็ว จนถึงขณะนี้มีบ้านพักในศูนย์ถูกเพลิงเผาไปแล้วกว่า 100 หลังคาเรือน และเริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดับไฟได้ เพราะกว่าที่รถดับเพลิงจะไปถึงจุดเกิดเหตุต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม ตั้งอยู่ระหว่างหลัก กม.80-84 ถนนแม่สอด-พบพระ-อุ้มผาง การเดินทางจึงลำบาก และใช้เวลานาน

อย่างไรก็ตาม นายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอพบพระ จ.ตาก ได้สั่งการให้รถดับเพลิงและรถน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่พบพระทุกแห่ง ได้นำรถดับเพลิงรีบไปช่วยดับไฟในทันที แต่ก็ยังไม่สามารถดับไฟได้ ประกอบกับบ้านพักอาศัยติดไฟง่ายและอากาศแล้งเพลิงจึงลุกลามจากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่งอย่างรวดเร็ว นายอำเภอพบพระ จึงใช้วิธีสั่งให้รื้อบ้านพักที่อยู่ใกล้ๆจุดเพลิงไหม้ทั้งหมด เพื่อทำเป็นแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามต่อไป ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถป้องกันการลุกลามได้ในระดับหนึ่ง

นายอำเภอพบพระ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเกิดไฟไหม้ศูนย์เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา และรีบเดินทางมาตรวจสอบ ขณะนี้การดับไฟเป็นไปได้ยากมาก ต้องใช้วิธีรื้อถอนบ้านพักใกล้เคียงจุดไฟไหม้ทิ้ง สร้างเป็นแนวกันไฟ ตอนนี้ได้สั่งการให้ระดมรถดับเพลิงรถน้ำจากทุกแห่งเดินทางมาช่วยดับไฟแล้ว แต่ระยะทางไกลใช้เวลานานนับชั่วโมง จึงทำให้เพลิงลุกลามรวดเร็ว

“ล่าสุดทราบว่าไฟได้เผาไหม้บ้านในศูนย์อพยพไปแล้วนับ 100 หลังคาเรือน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ” นายอำเภอพบพระ กล่าว

ขณะเดียวกันที่สนามบินนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน ต้องประกาศแจ้งให้ผู้โดยสารทั้งนักธุรกิจ-พ่อค้า-ประชาชน-นักท่องเที่ยว มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่จะเดินทางจากนครแม่สอดไปยังสุวรรณภูมิ และญาติๆผู้โดยสารที่จะเดินทางมารับผู้โดยสารที่สนามบินได้รับทราบว่า เที่ยวบินสายการบินนกแอร์ ที่เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินนครแม่สอด ไม่สามารถลงจอดได้ เพราะสภาพอากาศปิด ทัศนวิสัยไม่ดี และกัปตันไม่สามารถจะนำเครื่องบินลงรันเวย์ได้ จึงต้องบินไปลงจอดที่สนามบินจังหวัดพิษณุโลกแทน ทำให้ผู้โดยสาร-ญาติๆที่ไปรอรับ ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถตู้โดยสารของนกแอร์ เดินทางไปที่จังหวัดพิษณุโลกเพื่อขึ้นเครื่องแทน

ทั้งนี้ สภาพอากาศเหนือฟ้าแม่สอด ขณะนี้มีกลุ่มหมอกควันสีขาวจำนวนมากปกคลุมทั่วบริเวณ เนื่องจากได้เกิดไฟป่าลุกไหม้ทั่วฝั่งพม่า เป็นไฟป่าที่หนักและรุนแรงที่สุด ทำให้มีหมอกควันมากเกินมาตรฐาน ส่งผลทำให้อากาศปิดและมีมลภาวะเป็นพิษ ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมทั้งสายการบินและทางรถยนต์ ที่ต้องมีการเปิดไฟหน้ากันทุกคัน และคาดว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นทุกขณะ เพราะไฟป่าได้ลุกลามและเกิดขึ้นจำนวนมากหลายจุดหลายพื้นที่ป่าและเริ่มลุกในป่าไม้ฝั่งไทยแล้ว

ต่อมาเวลา 16.30 น.นายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอพบพระ เปิดเผยว่า ขณะนี้เพลิงได้สงบลงแล้ว ส่วนบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 1,000 หลัง จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบมีใครเสียชีวิตและบาดเจ็บ มีแต่ข่าวลือว่าเสียชีวิต 3 ศพในกองเพลิงส่วนสาเหตุตั้งไว้ 2 ประเด็น 1.อาจเกิดจากความประมาท และ 2.อาจจะมีการลอบวางเพลิง ส่วนการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จะเข้าไปในวันนี้ (24 ก.พ.)