xs
xsm
sm
md
lg

“เอกยุทธ”ถาม"เศรษฐา" ใหญ่แค่ไหน ทำไม"ปู"ไปหา-จี้เปิดชื่ออีก7คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน- "เอกยุทธ" ข้องใจ "เศรษฐา"ใหญ่แค่ไหน ถึงเรียกนายกฯไปหาที่โรงแรมได้ จี้เปิดชื่อ 6-7 คนที่ไปพบ "ยิ่งลักษณ์" พร้อมเผยประเด็นพูดคุย ชี้หากเป็นเรื่องบ้านเมืองทำไมต้องปิดลับ ปชป.เตรียมยื่นถอดถอน "ปู ว.5 โฟร์ซีซั่นส์" ฐานมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ท้า "เหลิม" เปิดกล้องวงจรปิดพิสูจน์ความจริง ด้านพรรคเพื่อไทยขู่ยื่นฟ้อง ส.ส.ปชป.ฐานกล่าวหาให้ร้ายหมิ่นประมาทนายกฯ

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงิน ที่ถูกทำร้ายที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ จากกรณีนี้ เปิดเผยถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือแสนศิริ ออกมายอมรับว่า ได้พบกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อบ่ายวันที่ 8 ก.พ.จริง แต่ไปกัน 6-7 คนว่า ตนมีข้อสังเกต 3 ประการด้วยกัน คือ

1. ทำไมจึงเพิ่งออกมาพูด หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 10 วัน เพราะมีข่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้มีอำนาจในรัฐบาลสั่งการให้ลบภาพที่บันทึกในกล้องวงจรปิดของโรงแรม

2. ถ้ามีการพบกัน 6-7 คนจริง ทำไมจึงไม่เปิดเผยออกมา ว่าเป็นใครบ้าง เพราะน่าสงสัยว่า คนกลุ่มนี้ใหญ่โตกว่านายกรัฐมนตรีหรือ จึงสามารถเรียกนายกฯ มาคุยได้ ทั้งๆ ที่อยู่ในเวลาราชการ

3. ต้องออกมาระบุให้ชัดเจนว่า พูดคุยกันเรื่องอะไร อย่าปล่อยให้คลุมเครือ เพราะถ้าคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองจริง ทำไมจึงไม่กล้าเปิดเผย มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่

" นายกฯ ออกมาเรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง ซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน เพราะผู้หญิงมีเกียรติอยู่แล้วในสังคมโลกและสังคมไทย ผมไม่เคยว่าอะไรนายกฯ เพียงแต่สงสัยว่า นายกฯ กลัวอะไรที่จะมาบอกว่า ได้พบปะกับใคร คุยเรื่องอะไร มันสำคัญขนาดที่ต้องเอาเวลาของราชการไปคุยเลยหรือ ถ้าไม่มีลับลมคมใน จะกลัวทำไม ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงก็ชี้แจงออกมา ไม่ใช่เรื่องการดูถูกศักดิ์ศรีผู้หญิงอย่างที่อ้างกันเลอะเทอะตอนนี้" นายเอกยุทธ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายเอกยุทธ กล่าวว่า ตนกำลังรู้สึกว่าขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังฉกฉวยประโยชน์ทางการเมืองโจมตีนายกฯรุนแรง โดยไม่เคยมาถามตนที่ถูกทำร้ายร่างกาย ถือว่าเป็นนักการเมืองที่หากินบนความเจ็บปวดของประชาชน

***ปชป.ชี้บิดเบือน "รังแกผู้หญิง"

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดดการประชุมสภา ไปปฏิบัติภารกิจลับ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยและคนในรัฐบาลมีความพยายามบิดเบือนว่า พรรคประชาธิปัตย์ โจมตีเรื่องส่วนตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาโจมตี มีการใช้คำว่า ผู้ชายรังแกผู้หญิง ซึ่งการบิดเบือนดังกล่าวถือว่า สารพัดโฆษกของพรรคเพื่อไทย ใช้กระโปรงตัวเดียวกันเป็นเกราะกำบัง เพื่อตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้สิ่งที่เป็นข้อสงสัยเรื่องที่นายกฯ พบกับนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารธูรกิจอสังหาริมทรัพย์ เครือแสนสิริ แต่เหตุการณ์ผ่านไปถึง 10 วัน นายเศรษฐา ถึงได้เพิ่งนึกว่าได้พบกันจริง โดยบอกว่าประชุมกันเรื่องทั่วไป รวมถึงเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจการเงิน

ดังนั้น สิ่งที่ต้องถามไปยังนายกฯ คือ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ตนไม่อยากให้นายกฯถูกตั้งคำถามเหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยถูกตั้งคำถาม เรื่องการลดค่าเงินบาท ที่มีการทำกำไรให้กับนักธุรกิจจำนวนมหาศาล เช่นเดียวกัน หากนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตามข่าวบอกว่ามีการพบกับนายกฯ พูดว่า มีการหารือเรื่องเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน เรื่องดอกเบี้ย ก็เป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน เท่ากับว่านายกฯ ไม่เข้าประชุมสภา แต่เอาเวลาไปทำธุรกิจส่วนตัว หารือกับคนกลุ่มย่อย พูดเรื่องสำคัญของประเทศ ถือเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง

นายชวนนท์ ยังกล่าวท้าให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นำภาพในกล้องวงจรปิด ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ มาเปิดจะได้ไม่ต้องเอาความเป็นเพศหญิง มาเป็นเกราะป้องกันให้กับตัวเองอีก เพราะมีคนร่ำลือมากว่าหมู่บ้านจัดสรรใหญ่ๆ ทางตะวันออกของกทม. ไม่โดนน้ำท่วมแม้แต่หมู่บ้านเดียว แต่ประชาชนในย่านบางบัวทอง ที่รายได้น้อยน้ำท่วมมิดหัว 3 เดือน

" ผมขอตั้งคำถามว่า การหารือกับนายเศรษฐา ทำก่อนการไปทัวร์นกขมิ้น ในการกำหนดพื้นที่ฟลัดเวย์ พื้นที่แก้มลิง และอ่างเก็บน้ำ หากตนได้เข้าฟังน.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดวันนั้นก็สามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้อย่างมหาศาล ถ้ารู้ล่วงหน้าได้ว่า พื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่รับน้ำ หรือเป็นพื้นที่น้ำผ่าน ก็ไปกว้านซื้อที่ดิน เพื่อรอให้รัฐบาลมาเวนคืน ผมสามารถไปกว้านซื้อที่ดินที่น้ำไม่ท่วม ไปเก็งกำไรในหลายประเด็น ถ้าข้อมูลเหล่านี้หลุดออกมาให้นักธุรกิจ ซึ่งแปลกมาก เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ตรงกับนโยบายตอนนี้พอดี" นายชวนนท์ กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องและให้ผู้เข้าร่วมประชุมที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ออกมาเปิดเผยตัว และออกมาพูดถึงรายละเอียดที่มีการประชุมกัน ไม่เช่นนั้น เรื่องนี้จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะมีการนำสู่การถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ
ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ในเฟซบุ๊ก ตัดพ้อ และขอให้ผู้หญิงออกมาทวงศักดิ์ศรีคืนนั้น ตนคิดว่าคงไม่มีใครไปร่วมทวงกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เข้าประชุมในห้องนั้น คนอื่นไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ความเป็นหญิง ออดอ้อนในเฟซบุ๊ก ถือว่าใช้การออดอ้อนพร่ำเพรื่อไป ใช้ไม่ถูกสถานการณ์ ในขณะที่ประชาชนตั้งคำถามว่า หนีสภาไปตกลงอะไรส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ผู้หญิงเลย ตนเรียกร้องเรื่องนี้เพื่อผู้หญิงทั้งประเทศ

**พท.ขู่ยื่นฟ้อง ปชป.หมิ่นนายกฯ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์ นายกรัฐมนตรี ผ่านรายการทางสถานีโทรทัศน์ บูลสกายส์ แชแนล ถึงกรณีที่นายกฯ ไปพบกับนักธุรกิจที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ว่าเป็นการแสดงถึงการกล่าวหาหมิ่นประมาท ไร้จิตสำนึก และไม่ให้เกียรติผู้นำประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองแบบเดิมๆ

ทั้งนี้ ตนได้รวบรวมข้อมูลหลักฐาน และเทปรายการดังกล่าวให้ฝ่ายกฎหมายของพรรค เตรียมยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 ในสัปดาห์หน้า

** จี้"ปู"แจง ว.5 ก่อนหมดภาวะผู้นำ

นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มกรีน ไปร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังไปทำภารกิจลับที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ทั้งที่อยู่ในเวลาราชการว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 ได้ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินในการตรวจสอบจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการประจำ และสามารถดำเนินการถอดถอนบุคคลดังกล่าวได้ทันที หากพบว่ากระทำผิดต่อจริยธรรมจริง

ฉะนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องไม่ใช่เสือกระดาษ หรือ มีอำนาจแต่ไม่กล้าใช้อำนาจ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นองค์กรอิสระอย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ไม่จำเป็นต้องมีให้เปลืองงบประมาณ หรือภาษีของประชาชนอีกต่อไป

นายจาตุรันต์ กล่าวว่า จุดยืนในการตรวจสอบจริยธรรมของกล่มกรีนครั้งนี้ เพราะเป็นห่วงว่ากำลังจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน และการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย คล้าย ๆ ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งนพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เคยเปรียบเทียบไว้ว่าเป็นการ “โกงทั้งโคตร” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้ระบอบทักษิณพังพินาศ จนนำมาสู่วิกฤติการณ์เรื้อรังในขณะนี้

" การที่นายเศรษฐา ทวีสินออกมายอมรับว่า ได้ไปพบกับนายกฯ ในวันเวลาดังกล่าวจริง และมีการปรึกษาหารือกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่อง ดอกเบี้ย การเงิน เศรษฐกิจ การเมือง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง เพราะยิ่งปล่อยให้คนใกล้ตัวออกมาชี้แจง จะยิ่งสร้างปัญหา และทำลายภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของตัวนายกฯ ซึ่งมีปัญหาภาวะผู้นำอยู่แล้ว" นายจาตุรันต์ กล่าว

** จี้ผู้ตรวจเร่งตรวจสอบเอาผิด

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า กลุ่มกรีนขอเรียกร้อง 4 ข้อ ดังนี้

1. ขอท้าทายผู้ตรวจการแผ่นดินให้แสดงความกล้าหาญในการตรวจสอบอย่าตรงไปตรงมา และกล้าเอาผิดต่อนักการเมืองที่ผิดจริยธรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการบริหารประเทศ
2.ไม่ว่านักธุรกิจที่นายกฯไปพบ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ในวันดังกล่าวจะเป็นเพศหญิง หรือชาย นั่นไม่สำคัญเท่ากับการที่นายกฯ นำเวลาราชการไปทำภารกิจส่วนตัว ถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง
3. ทุกครั้งที่นายกฯเดินทางกลับจากทำภารกิจต่างประเทศ มักจะพูดอยู่เสมอว่าได้มีการหารือแลกเปลี่ยนกับนักธุรกิจต่างชาติมากมาย แต่เหตุใดการพูดคุยกับนักธุรกิจชาวไทยในครั้งนี้ กลับไม่กล้าจะออกมาอธิบาย
4. รัฐบาลพยายามลากคนอื่นเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง นักธุรกิจจากบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร มาด้วยนั้น ไม่ได้ต่างจากการนำคนเหล่านี้มาเป็น “หนังหน้าไฟ” เพื่อให้ รัฐบาลสามารถบริหารประเทศต่อไปได้

** เด็ก พท.ให้"ปู"แจงโฟร์ซีซั่นส์เอง

นางอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือ โดยนางผุสดี ตามไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้เสนอ ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่มีความเห็นแตกต่างมากมาย จึงมีผลสรุปว่า ไม่หยิบเรื่องนี้มาพิจารณา เนื่องจากเป็นเรื่องไม่มีสาระ อีกทั้งส่วนตัวมองว่า ไม่ได้เป็นการกระทำผิดกฎหมาย หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ที่มองว่ามีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง นายกฯต้องชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้สังคมรับทราบเอง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเป็นความพยายามของฝ่ายค้านที่สร้างประเด็นจุดไฟให้สังคม เห็นได้จากการตั้งกระทู้ถามสด โดยฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องดังกล่าวให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นผู้พิจารณาโดยเนื้อหาพยายามถามเรื่องส่วนตัวซึ่งขัดข้อบังคับการประชุมสภาฯ ทำให้นายวิสุทธิ์ ตีกลับ และฝ่ายค้านก็แก้เนื้อหาใหม่ แต่เมื่อถึงเวลาจริง ก็พยายามถามเรื่องส่วนตัว ซึ่งมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง

** พท.ท้าปชป.พิสูจน์ชั้น 7โฟร์ซีซั่น

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปปฏิบัติภารกิจที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ต่างๆ นานา พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงสถานที่ชั้น 7 ของโรงแรมนั้น ตนขอท้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ไปพิสูจน์ถึงสถานที่จริง พร้อมกับตน และเชิญสื่อมวลชน ตลอดจนองค์กรสตรีทั้งหลายไปสังเกตการณ์ ให้เห็นว่าที่ชั้น 7 นั้นเป็นอย่างไร เพราะทราบว่ามันไม่ใช่ห้องพัก ห้องนอน แต่เป็นห้องประชุม จัดเลี้ยงแขกวีไอพี ถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา จะยอมเอาดอกไม้ ธูป เทียน มาขอขมานายกฯหรือไม่ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงพยายามจับแพะชนแกะ ปั่นกระแสดิสเครดิตอย่างต่อเนื่อง

การที่นายกฯไปพบนักธุรกิจ หรือไปปรึกษาหารือกับใคร ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่มีอะไรเสียหาย หรือเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่านายกฯกำลังทำงานไปได้ด้วยดี จึงออกมาสร้างประเด็นบิดเบือน ถ้าคิดได้แค่นี้ ก็ไปนุ่งกระโปรงดีกว่า

** ท้า ปชป.รีบยื่นสอบ"แสนสิริ"

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกต กรณีทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบทรัพย์สิน หนี้สิน ของผู้บริหารแสนสิริ ย้อนหลังไป 7 เดือนว่า ความจริง แสนสิริ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเขาพร้อมที่จะถูกตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะปกติก็ต้องเปิดเผย โปร่งใส แต่การไปพูดอะไรที่ส่งผลต่อตลาด มันอันตราย ทางการเมืองเรื่องแค่นี้อาจถือว่า จิ๊บจ๊อย เป็นโจร ก็แค่ลักเล็กขโมยน้อย แต่ถ้าเรื่องในตลาดหลักทรัพย์ คุณอาจจะกลายเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจ เลยก็ได้

"ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ รีบดำเนินการเลย อย่าช้า เก่งไม่กลัว กลัวช้า เรื่องไม่เป็นเรื่อง จนสื่อต่างประเทศอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ตกลงพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคฝ่ายค้าน หรือฝ่ายแค้น เพราะชอบกวนน้ำให้ขุ่นตลอดเวลา ตั้งแต่วาทกรรม เอาอยู่ พื้นที่รับน้ำ ที่พยายามดึงลงต่ำ แล้วไม่สำเร็จ เที่ยวนี้มาใหม่ เอาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน มาทำลายความน่าเชื่อถือของนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่อาย นายเอกยุทธ อัญชันบุตร บ้างหรือ ที่กล่าวหาว่าฉกฉวยประโยชน์ทางการเมือง โจมตีนายกฯรุนแรง โดยไม่เคยไปถามเขาที่ถูกทำร้ายร่างกาย ถือว่าเป็นนักการเมืองที่หากินบนความเจ็บปวดของประชาชน" รองโฆษกฯรัฐบาล กล่าว

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวเตือนพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยว่า คราวก่อนกล่าวหา เอาผิดกับนายกรัฐ,มนตรี , ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ไอซีที ) และพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบันฯ ขณะนี้เขาก็เตรียมฟ้องคุณยุ่บยับไปหมด พวกคุณอาจคะนองปาก จ้าง 5 เล่น 10 ยุทธศาสตร์เอาเบี้ยไปแลกขุน นายกฯไม่มีทางหลงกล และขอเชียร์ให้เดินหน้าถอดถอน เพราะนักการเมืองฝั่งโน้น ก็ถนัด ถอดเสื้อผ้าเมียเพื่อนอยู่แล้ว

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติภารกิจของนายกฯ ในหนึ่งวัน ไม่จำเป็นต้องทำวันละเรื่อง วันนั้น จาก ว.5 ท่านก็เข้าสภา และที่ผ่านมา ท่านก็ให้ความสำคัญกับสภาตลอด ไม่นั่งในห้องประชุม ก็นั่งในห้องนายกฯ ที่สภา ติดตามสภาตลอด แต่ก็เข้าใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะเหงา ชินกับการเห็นนายกฯเงา ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะไม่มีที่ไป ซึ่งเทียบกันไม่ได้

**หมวดเจี๊ยบฟ้อง "ศิริโชค" เป็นสิทธิ์

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ขู่ว่าจะฟ้อง นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่แถลงข่าวพาดพิงให้เสียหายว่า ตนยังไม่ได้สอบถามกับนายศิริโชค แต่ผู้ที่จัดรายการเอง ก็ต้องรู้ว่าต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมาพวกเราก็ถูกฟ้องในหลายคดีอยู่แล้ว ดังนั้นใครคิดว่าถูกละเมิดสิทธิ์ ก็เป็นสิทธิ์ในการใช้ช่องทางตามกฎหมายในการฟ้องร้อง ส่วนคนพูดในเรื่องอะไร ก็ต้องรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง.
กำลังโหลดความคิดเห็น