xs
xsm
sm
md
lg

โอบามาต้อนรับว่าที่ผู้นำจีน ‘เข้ม’ ย้ำปักกิ่งเคารพกติกาเศรษฐกิจโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์/เอเอฟพี – ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้การต้อนรับรองประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร(14) ประหนึ่งว่าที่ผู้นำแดนมังกรคนใหม่ผู้นี้ มีฐานะเป็นผู้นำประเทศแล้ว แต่เขาก็กำชับเสียงเข้มกับว่า ปักกิ่งต้องเล่นตามกติกาทางการค้าอย่างเดียวกับมหาอำนาจอื่นๆ พร้อมลั่นปากเดินหน้าผลักดันพญามังกรปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชนต่อ ทางด้านสีตอบกลับเบาะๆ โดยชี้ว่าข้อพิพาททางเศรษฐกิจต้องแก้ไขผ่านการเจรจา ไม่ใช่การกีดกันการค้า และแนะวอชิงตันงดแตะประเด็นอ่อนไหวอย่างทิเบตและไต้หวัน เนื่องจากอาจทำให้ปีนเกลียวกันมากขึ้น
โอบามาย้ำกับสีว่า วอชิงตันยินดีกับ “การก้าวผงาดขึ้นมาอย่างสันติ” ของปักกิ่ง แต่ส่งสัญญาณว่า ความขัดแย้งทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหารระหว่างกันยังคงดำรงอยู่ อีกทั้งตำหนิจีนที่ไปจับมือกับรัสเซียคัดค้านร่างมติประณามผู้นำซีเรียในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
การพบปะกับโอบามาคราวนี้ของสี ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเยือนอเมริกาเที่ยวนี้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วได้มีการเขียนสคริปต์เอาไว้อย่างเข้มงวด โดยคาดหมายกันว่าน่าจะช่วยให้รัศมีของสีบนเวทีโลกผุดผาดขึ้น และแสดงให้เห็นว่า เขามีความสามารถกุมหางเสือความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษหน้า
ขณะเดียวกัน การใช้ถ้อยคำชัดเจนเรื่องการค้า ค่าเงิน สิทธิมนุษยชน และประเด็นระดับโลก อาทิ ซีเรีย ของโอบามานั้น ทำให้การพบปะนี้ถูกตีความว่า เป็นการประเมินศักยภาพของอีกฝ่าย
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ช่วงหลายเดือนมานี้ผู้นำแดนอินทรีเสียงแข็งกับปักกิ่งมากขึ้น เนื่องจากโอบามาอยู่ภายใต้ความกดดันของศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะหลังจากที่ถูกบรรดาผู้สมัครพรรครีพับลิกันรุมโจมตีว่า ใช้แนวทางประนีประนอมกับแดนมังกรเกินไป
โอบามาย้ำว่า อำนาจและความมั่งคั่งย่อมมาพร้อมความรับผิดชอบ และสหรัฐฯ จะร่วมกับจีนเพื่อให้มั่นใจว่า ทุกประเทศอยู่ภายใต้กฎเดียวกันในระบบเศรษฐกิจโลก รวมถึงเพื่อให้มั่นใจว่า การไหลเวียนทางการค้าจะเป็นไปอย่างสมดุล
ผู้นำทำเนียบขาวยังกดดันผู้นำจีนให้ปล่อยให้เงินหยวนแข็งขึ้น และพยายามมากขึ้นในการลดการเกินดุลการค้าที่มีต่อสหรัฐฯ ถึง 295,500 ล้านดอลลาร์
กระนั้น วอชิงตันบีบปักกิ่งได้เพียงจำกัดเท่านั้น ไม่ใช่เพราะจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะไม่เป็นที่ชัดเจนว่า การใช้สำนวนโวหารของโอบามาเป็นเพียงท่าทีทางการเมืองในขณะที่กระแสต่อต้านจีนแรงจัดในอเมริกาหรือไม่
ด้านสี วัย 58 ปี ตัวเก็งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนในปีหน้านั้น ตอบกลับว่า ตนตั้งตารอที่จะได้สร้างการเป็นหุ้นส่วนร่วมกันกับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของการเคารพในกันและกัน แต่เขาไม่ได้ตอบโต้คำวิจารณ์ของโอบามาระหว่างแถลงข่าวร่วมกัน
ทว่า ในการพูดคุยกับผู้นำธุรกิจอเมริกันหลังจากนั้น สีกล่าวว่า ปักกิ่งได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขข้อกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความไม่สมดุลทางการค้าและสินทรัพย์ทางปัญญา และอยากให้คณะรัฐบาลของโอบามาจัดการกับข้อกังวลของปักกิ่งด้วยเช่นกัน ด้วยการยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกสินค้าไฮเทคแก่จีน และเสนอตลาดแข่งขันที่เป็นธรรมสำหรับบริษัทจีนที่ต้องการลงทุนในอเมริกา
นอกจากนี้ ระหว่างมื้อเที่ยงที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ รองประธานาธิบดีจีนสำทับว่า สองชาติต้องแก้ไขข้อพิพาททางเศรษฐกิจผ่านการเจรจา ไม่ใช่การกีดกันการค้า
ถึงแม้พวกผู้ช่วยของโอบามาไม่คิดว่า การเยือนของว่าที่ผู้นำจีนคนต่อไปครั้งนี้ จะมีความคืบหน้ารูปธรรมมากนัก ทว่า ทั้งสองชาติก็ได้ตกลงเจรจากันเพื่อวางแนวทางในการระดมทุนเพื่อการส่งออก และจีนตกลงเปิดตลาดประกันภัยรถยนต์รับการแข่งขันจากต่างชาติ
รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์จีน เกา หู่เฉิง ประเมินว่า การเยือนครั้งนี้ที่มีคณะผู้แทนด้านการค้าการลงทุนมาด้วยนั้น จะมีการสั่งซื้อสินค้าอเมริกัน ซึ่งรวมถึงชิป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล และผลิตภัณฑ์เกษตร เป็นมูลค่าถึง 27,100 ล้านดอลลาร์
อนึ่ง การเยือนของสีเกิดขึ้นขณะที่สัมพันธภาพของสองประเทศถูกกระทบจากความบาดหมางด้านเศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และเจตนารมณ์ทางทหารของแต่ละฝ่าย
“ในประเด็นสำคัญอย่างสิทธิมนุษยชน เรายังคงเน้นย้ำสิ่งที่เราเชื่อ นั่นคือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องยอมรับแรงบันดาลใจและสิทธิของผู้คนทั้งหมด” โอบามากล่าว
นอกจากนี้โอบามายังตำหนิการตัดสินใจของจีนในการวีโต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ในการกดดันบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย
แต่เมื่อถึงประเด็นอิหร่าน ดูเหมือนโอบามามีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น โดยขอบคุณปักกิ่งที่ช่วยบังคับใช้มาตรการแซงก์ชั่น และแสดงความหวังว่า จีนจะงดนำเข้าน้ำมันอิหร่าน
เกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่ผู้นำทั้งสองหยิบยกมาเจรจากัน ทางฝ่ายสำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานว่า สีเตือนผู้นำอเมริกันให้หลีกเลี่ยง “การแทรกแซงและสร้างความเสียหายเพิ่มเติม” ต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง โดยเฉพาะในประเด็นอ่อนไหว เช่น ไต้หวัน และทิเบต
นอกจากนี้ ในระหว่างการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวช่วงค่ำวันอังคาร รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ชุ่ย เทียนไค ยังเตือนว่า การก้าวเดินอย่างผิดพลาดของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น อาจทำให้ซีเรียนองเลือดรุนแรงมากขึ้น พร้อมย้ำว่า การแซงก์ชั่นอิหร่านของสหรัฐฯ ต้องไม่กระทบต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความต้องการด้านพลังงานอันชอบธรรมของจีน
รองประธานาธิบดีจีนยังได้ไปเยือนเพนตากอน โดยที่ ลีออน แพเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯได้กล่าวพาดพิงถึงการปีนเกลียวทางทหารขณะที่วอชิงตันเพิ่มบทบาทในเอเชีย-แปซิฟิก และปักกิ่งสร้างสมแสนยานุภาพ กระนั้น แพเนตตาและสีก็เห็นพ้องกันที่จะร่วมมือเพื่อฟื้นความมั่นใจระหว่างกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น