xs
xsm
sm
md
lg

“คำพูด” ปอกเปลือกสันดาน “หน้าเหลี่ยม” (ตอนสอง)

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

พุทธปรัชญาถือว่า “ศัตรูที่ร้ายกาจของมนุษย์-คือ-ตัวเราเอง” หากชนะตัวเราได้..ก็ชนะทุกอย่าง!

วันนี้-คนพ่ายแพ้ตัวเองอย่างย่อยยับอัปรา คือ “ทักษิณ ชินวัตร” และดูแนวโน้มจะแพ้พ่ายตัวเองไปจนวันตายเสียแล้ว

วันเด็ก..วันที่นายกรัฐมนตรีไทยทุกคน ต้องมอบคำขวัญให้เด็กไทย คำขวัญจึงเป็นตัวสะท้อนความคิดนายกฯ แต่ละคนว่า..อยากให้เด็กไทยเป็นเช่นไร?

ปี 2516 แม้จะเป็นเผด็จการทหาร แต่นายกฯ “ถนอม กิตติขจร” ก็ให้คำขวัญสั้นๆ กับเด็กไทยได้ดีทีเดียว นั่นคือ

“เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ”

ถูกต้อง-เด็กไทยต้องดีและฉลาด หรือฉลาดแต่ต้องดีด้วย นั่นเป็นสิ่งที่ชาติและชนชาวไทยต้องการมากที่สุด

การเป็นเด็กฉลาด..แต่ไม่ดี เยี่ยงเด็กชาย “หน้าเหลี่ยม” ที่ฉลาดเป็นกรด แต่พฤติกรรมชั่วเป็นนิจ จนทำให้บ้านเมืองเสียหายวินาศสันตะโร

ว่าไปแล้ว..รัฐบาล “เผด็จการทหาร-ถนอม” กับรัฐบาล “เผด็จการรัฐสภา-หน้าเหลี่ยม” ก็ชั่วช้าสามานย์เฉกเช่นกัน

เพราะ “เผด็จการทหาร-ถนอม” ก็ทำได้แค่ให้คำขวัญวันเด็กได้ดีเท่านั้น แต่พฤติกรรมจริงมิได้ดีดั่งคำขวัญวันเด็ก พอประชาชนออกมาเรียกร้องรัฐธรรมนูญ “เผด็จการทหาร-ถนอม” ก็ใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน จนบาดเจ็บล้มตายมากมายในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม2516

แต่ธรรมะย่อมชนะอธรรม ทำให้รัฐบาล “เผด็จการทหาร-ถนอม” ก็ชะตาขาด..จนต้องล้มครืนลง!

รัฐบาลนอมินี “หน้าเหลี่ยม” ที่เอาแต่โกงชาติบ้านเมืองสะบั้นหั่นแหลก และปล่อยให้ขบวนการ “ล้มเจ้า” จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ จนมหาประชาชนต้องออกมาขับไล่ รัฐบาล “หน้าเหลี่ยม” อย่างกว้างขวาง

รัฐบาลนอมินีเผด็จการรัฐสภาของนายทุนผูกขาดสามานย์ “หน้าเหลี่ยม” ก็ใช้ตำรวจปรามประชาชนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ทันที จนผู้คนที่ชุมนุมด้วยสองมือเปล่าอย่างสงบ-สันติ อหิงสา ต้องบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

กรรมเลยตามสนอง..จนรัฐบาลเผด็จการรัฐสภา นอมินีของนายทุนผูกขาดสามานย์ “หน้าเหลี่ยม” ต้องพบจุดจบถูก “คณะนายทหาร” พลิกขั้ว-จนกลายเป็นฝ่ายค้าน!

ปี 2524 และ 2526 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เสนอคำขวัญวันเด็กว่า

“มีวินัย ใจซื่อสัตย์ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม” และ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา”

“ป๋าเปรม” ไม่เคยปฏิเสธเรื่องความฉลาดของเด็ก แต่ท่านจะเพิ่มการ “รู้หน้าที่-วินัย” ที่สำคัญเน้นความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมอย่างเคร่งครัด

มนุษย์-หากไม่ซื่อสัตย์และสิ้นคุณธรรม มนุษย์ก็ไม่ต่างอะไรกับ “สัตว์” ที่เอาแค่ตัวรอด-เอาแต่ได้ใส่ตนและพวกพ้อง ไม่สนใจทำเพื่อส่วนรวม ไม่มีความรักชาติ และมนุษย์ด้วยกันเอง ดั่ง “หน้าเหลี่ยม” และพรรคพวกกำลังทำอยู่ในยามนี้

ทั้งนี้..เพราะตัว “ป๋าเปรม” เป็นคนซื่อสัตย์-สุจริต-มีคุณธรรมนั่นเอง!

คำขวัญวันเด็กของนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” ปอกเปลือกตัว “ทักษิณ” ล่อนจ้อน ทักษิณคิดและพูดเมื่อวันเด็ก 13 มกราคม 2549 ว่า

“..ในสมัยก่อน คำขวัญวันเด็ก จะเน้นเรื่องการมีวินัย ความซื่อสัตย์..ซึ่งบังเอิญยุคสมัยมันเปลี่ยน (คุณธรรม-ความซื่อสัตย์ควรเปลี่ยนตามยุคสมัยด้วยหรือ?) ผมอยากเห็นเด็กไทยเติบโตขึ้นมาฉลาดและคิดเป็น (คิดโกง-ก็ฉลาดและคิดเป็นเหมือนกันใช่ไหม?) ถ้าไม่ฉลาดและคิดไม่เป็น มันจะเป็นเหยื่อ เพราะโลกเศรษฐกิจทุนนิยมเป็นโลกที่คนฉลาดได้เปรียบ คนฉลาดน้อยกว่าถูกกิน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนฉลาดกว่ากินคนโง่กว่า เป็นโลกที่ชอบไม่ชอบก็ต้องอยู่กับมัน”

ดังนั้น ตลอดเวลา 4 ปี ที่ทักษิณเป็นนายกฯ เขาจึงเน้นแต่ “ฉลาด” ต้องฉลาดเอาตัวรอดและเอาชนะเท่านั้น ฉลาด-โดยไม่มีคุณธรรมไม่ซื่อสัตย์ต่อส่วนรวม ฉลาด-เพื่อจะได้เป็น “ปลาใหญ่” ไล่เขมือบ “ปลาเล็ก”

คำขวัญทักษิณจึงไม่เคยมีคำว่า “คุณธรรม-ซื่อสัตย์สุจริต” แม้แต่ครั้งเดียว!

ปี 2548 “เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด” และปี 2549 “อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด”

ส่วนคนขายตัว-ขายวิญญาณหรือ “ผี-โม่แป้ง” นั้น “หน้าเหลี่ยม” เคยพูดว่า

“ผมมีเคล็ดลับในการทำงานอยู่อย่างหนึ่ง คือ..ผู้ร่วมงานกับผมจะไม่มีปัญหาอย่างอื่น ผมจะถามเลยว่า มาทำงานกับผมมีปัญหาอะไรบ้าง มีความทุกข์อะไรบ้าง..ผมจะช่วยปลดเปลื้องให้หมดทุกอย่าง มาทำงานกับผมให้มีความทุกข์อย่างเดียว คือ ทุกข์เรื่องงาน อย่างอื่นไม่ต้องเป็นทุกข์..”

มิน่า..บรรดา “ผี-โม่แป้ง” ของ “หน้าเหลี่ยม” ไม่ว่า..ผี-สื่อมวลชน ผี-นักวิชาการ ผี-ข้าราชการ ผี-นักการเมือง ฯลฯ จึงยอมขายทั้งตัวและวิญญาณให้กับ “แดงดูไบ” เพื่อแลกกับลาภ-ยศ-เงินทอง ที่ “หน้าเหลี่ยม” ประเคนให้อย่างไม่อั้น

โดยไม่แยแสแม้แต่น้อยว่า งานชั่วที่ทำให้ “หน้าเหลี่ยม” หรือ “หน้าเหลี่ยม” ให้ทำนั้น เป็นงานที่ทำร้ายทำลายทั้งชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ และประชาชน!

นายทุนผูกขาดสามานย์ “หน้าเหลี่ยม” ผู้บงการรัฐบาลนอมินีเผด็จการรัฐสภา “ปูแดงสมองกลวง” จึงลบล้างสุภาษิตไทยโบราณในอดีตที่ว่า “สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง” เพราะเกิดสุภาษิตไทยสูตรใหม่ยุค “หน้าเหลี่ยม” ที่ว่า

พัน “อำมาตย์” เลี้ยง ไม่เท่า-หนึ่งนักโทษหนีคุก-นายทุนผูกขาด-อภิมหาโจรการเมือง ที่รวมเป็นหนึ่งอยู่ในคน “หน้าเหลี่ยม” ชุบเลี้ยง..จริงไหม?

ยิ่งวันนี้ “หน้าเหลี่ยม” เป็นเจ้าของ-เป็นจอมบงการ รัฐบาลเผด็จการรัฐสภา “ปูแดงสมองกลวง” ด้วย “ผี-โม่แป้ง” จึงโผล่จาก “ขุมนรก” มาให้เห็นหน้าค่าตาเต็มไปหมด

งานนี้ “หมอผี” จึงง่ายที่จะ“จับผีลงหม้อ” ครับ!
กำลังโหลดความคิดเห็น