ตรัง - กลุ่มนักโทษชาย 600 คน ทะเลาะวิวาทกันแล้วเผาเรือนนอน แดน 2 ของเรือนจำ จ.ตรัง ก่อนบานปลายเป็นเหตุจลาจล อ้างไม่พอใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ พร้อมยื่นข้อเสนอผู้ว่าฯ จำนวน 8 ข้อ ก่อนสลายการชุมนุม
เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (6 ก.พ.) กลุ่มนักโทษชาย จำนวน 40-50 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในเรือนนอนแดน 2 ของเรือนจำ จ.ตรัง ได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเหตุความวุ่นวายขึ้นในเวลาต่อมา เมื่อนักโทษชายในเรือนนอนดังกล่าว ประมาณ 600 คน ได้จุดไฟเผาเครื่องนอน และขว้างปาสิ่งของต่างๆ ออกมาภายนอกบริเวณคุมขัง โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการประท้วงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เรือนจำ พร้อมยื่นข้อเรียกร้องขอพบ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำรถดับเพลิง จำนวน 15 คัน ทั้งจากเทศบาลนครตรัง และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เทศบาลตำบลโคกหล่อ เทศบาลตำบลย่านตาขาว และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง เพื่อนำมาควบคุมเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่การดำเนินการก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ค่อนข้างลึก และเจ้าหน้าที่เกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดที่นักโทษยังรวมตัวกันก่อจลาจล จึงทำได้เพียงแค่ฉีดน้ำสกัดเพลิงห่างๆ และควบคุมเพลิงมิให้ลุกลามไปมากขึ้น
จากนั้น เวลา 10.30 น. นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายไชยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง, พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เดินทางมายังเรือนจำ จ.ตรัง เพื่อติดตามควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง รวมประมาณ 200 นาย เข้ารายล้อมควบคุมพื้นที่ภายในและภายนอกเรือนจำ จ.ตรัง
ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ขอให้ตัวแทนนักโทษ จำนวน 5 คน เข้าหารือเพื่อยื่นข้อเสนอ จำนวน 8 ข้อ เช่น ขอให้มีการปรับย้าย นายเอกสิทธิ์ ใจหลัก เจ้าหน้าที่ควบคุมแดน 2 ที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ เพื่อลดความตึงเครียด ขอให้ดูแลเรื่องสวัสดิการ อาหารการกิน สิทธิพิเศษในการพิจารณาลดหย่อนโทษ และไม่เอาผิดกับนักโทษที่ก่อเหตุจลาจลในครั้งนี้ เป็นต้น
ขณะที่เมื่อเวลา 13.00 น. นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวหลังจากได้ขอให้ตัวแทนนักโทษ จำนวน 5 คน ที่ก่อเหตุจลาจลเผาเรือนนอนในแดน 2 ของเรือนจำ จ.ตรัง เข้าหารือเพื่อยื่นข้อเสนอ จำนวน 8 ข้อ ว่า สำหรับเงื่อนไขต่างๆ ที่กลุ่มนักโทษดังกล่าวเรียกร้องนั้น ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกฎเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้ทางราชการเร่งดำเนินการให้เป็นไปโดยเร็ว รวมทั้งการดูแลในเรื่องของสวัสดิการต่างๆ เช่น อาหารการกิน หรือน้ำดื่มน้ำใช้ ที่อยู่ในอำนาจของ ผบ.เรือนจำ จ.ตรัง ซึ่งสามารถนำเสนอและดำเนินการได้
ส่วนกรณีที่บางครั้งอาจจะมีนักโทษบางคนได้รับความรุนแรง จากการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง บ้างนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ถือเป็นความจำเป็นของกรมราชทัณฑ์ที่จะต้องดำเนินการ เนื่องจากปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า กำลังมีการระบาดของยาเสพติดค่อนข้างสูง ฉะนั้น การตรวจสอบวัสดุภัณฑ์หรือสิ่งของต่างๆ จึงยังต้องเข้มงวดต่อไป ซึ่งการที่นักโทษจะร้องขอให้ยกเว้นคงไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วทั้งเจ้าหน้าที่ และนักโทษ ก็สามารถตกลงกันได้ด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้เหตุการณ์จลาจลจึงยุติลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเหตุจลาจลของนักโทษยุติลง นายเสนีย์ ยังคงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 435 ตรัง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง ควบคุมพื้นที่ภายในและภายนอกเรือนจำ จ.ตรัง ต่อไปตลอดทั้งวัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ และป้องกันเหตุวุ่นวายขึ้นซ้ำสอง
ส่วนกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ภายในเรือนนอน แดน 2 นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วเช่นกัน โดยความเสียหายทั้งหมดกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (6 ก.พ.) กลุ่มนักโทษชาย จำนวน 40-50 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในเรือนนอนแดน 2 ของเรือนจำ จ.ตรัง ได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเหตุความวุ่นวายขึ้นในเวลาต่อมา เมื่อนักโทษชายในเรือนนอนดังกล่าว ประมาณ 600 คน ได้จุดไฟเผาเครื่องนอน และขว้างปาสิ่งของต่างๆ ออกมาภายนอกบริเวณคุมขัง โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการประท้วงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เรือนจำ พร้อมยื่นข้อเรียกร้องขอพบ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำรถดับเพลิง จำนวน 15 คัน ทั้งจากเทศบาลนครตรัง และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เทศบาลตำบลโคกหล่อ เทศบาลตำบลย่านตาขาว และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง เพื่อนำมาควบคุมเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่การดำเนินการก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ค่อนข้างลึก และเจ้าหน้าที่เกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดที่นักโทษยังรวมตัวกันก่อจลาจล จึงทำได้เพียงแค่ฉีดน้ำสกัดเพลิงห่างๆ และควบคุมเพลิงมิให้ลุกลามไปมากขึ้น
จากนั้น เวลา 10.30 น. นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายไชยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง, พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เดินทางมายังเรือนจำ จ.ตรัง เพื่อติดตามควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง รวมประมาณ 200 นาย เข้ารายล้อมควบคุมพื้นที่ภายในและภายนอกเรือนจำ จ.ตรัง
ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ขอให้ตัวแทนนักโทษ จำนวน 5 คน เข้าหารือเพื่อยื่นข้อเสนอ จำนวน 8 ข้อ เช่น ขอให้มีการปรับย้าย นายเอกสิทธิ์ ใจหลัก เจ้าหน้าที่ควบคุมแดน 2 ที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ เพื่อลดความตึงเครียด ขอให้ดูแลเรื่องสวัสดิการ อาหารการกิน สิทธิพิเศษในการพิจารณาลดหย่อนโทษ และไม่เอาผิดกับนักโทษที่ก่อเหตุจลาจลในครั้งนี้ เป็นต้น
ขณะที่เมื่อเวลา 13.00 น. นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวหลังจากได้ขอให้ตัวแทนนักโทษ จำนวน 5 คน ที่ก่อเหตุจลาจลเผาเรือนนอนในแดน 2 ของเรือนจำ จ.ตรัง เข้าหารือเพื่อยื่นข้อเสนอ จำนวน 8 ข้อ ว่า สำหรับเงื่อนไขต่างๆ ที่กลุ่มนักโทษดังกล่าวเรียกร้องนั้น ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกฎเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้ทางราชการเร่งดำเนินการให้เป็นไปโดยเร็ว รวมทั้งการดูแลในเรื่องของสวัสดิการต่างๆ เช่น อาหารการกิน หรือน้ำดื่มน้ำใช้ ที่อยู่ในอำนาจของ ผบ.เรือนจำ จ.ตรัง ซึ่งสามารถนำเสนอและดำเนินการได้
ส่วนกรณีที่บางครั้งอาจจะมีนักโทษบางคนได้รับความรุนแรง จากการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง บ้างนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ถือเป็นความจำเป็นของกรมราชทัณฑ์ที่จะต้องดำเนินการ เนื่องจากปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า กำลังมีการระบาดของยาเสพติดค่อนข้างสูง ฉะนั้น การตรวจสอบวัสดุภัณฑ์หรือสิ่งของต่างๆ จึงยังต้องเข้มงวดต่อไป ซึ่งการที่นักโทษจะร้องขอให้ยกเว้นคงไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วทั้งเจ้าหน้าที่ และนักโทษ ก็สามารถตกลงกันได้ด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้เหตุการณ์จลาจลจึงยุติลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเหตุจลาจลของนักโทษยุติลง นายเสนีย์ ยังคงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 435 ตรัง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง ควบคุมพื้นที่ภายในและภายนอกเรือนจำ จ.ตรัง ต่อไปตลอดทั้งวัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ และป้องกันเหตุวุ่นวายขึ้นซ้ำสอง
ส่วนกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ภายในเรือนนอน แดน 2 นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วเช่นกัน โดยความเสียหายทั้งหมดกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
