ตรัง - ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รับข้อเสนอเหตุผู้ต้องขังก่อเหตุจลาจล พร้อมย้ายผู้คุมบางคนที่เข้มงวดไปอยู่ในแดนอื่นแล้ว
วันนี้ (6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้สรุปสถานการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ จ.ตรัง ว่า มีกลุ่มนักโทษชาย แดน 2 ที่ได้รับการตัดสินแล้ว จำนวน 672 คน ได้ใช้ยางรถจุดไฟเผาโต๊ะ เก้าอี้ และที่นอน จนได้รับความเสียหาย ก่อนจะขว้างปาก้อนหิน ไม้ จาน และสิ่งของอื่นๆ ออกมาจากแดน 2 รวมทั้งทำลายเรือนนอน โรงอาหาร และอาคาร ด้วยการทุบกระจก ปากระเบื้องหลังคา
โดย นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ พร้อมกับเจรจากับกลุ่มนักโทษที่ประท้วงผ่านทางเครื่องขยายเสียง โดยขอให้กลุ่มนักโทษดับไฟ และส่งตัวแทนออกมาเจรจาด้วยวิธีสันติ แต่ทางนักโทษไม่ยอม กลับส่งเสียงโห่ร้อง พร้อมกับขว้างปาก้อนหินและจาน ใส่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างระยะ
ต่อมาสถานการณ์เริ่มบานปลายขึ้น เมื่อกลุ่มนักโทษไม่ยอม พร้อมกับจุดไฟเผาห้องพักผู้ควบคุม จนได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ต้องนำรถดับเพลิงเข้ามาฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่น แต่ก็ต้องล่าถอยออกมา เพราะกลุ่มนักโทษได้ใช้ก้อนหินขว้างปาจนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดสลายฝูงชนจะตัดสินใจยิงกระสุนยาง และจุดพลุควัน เพื่อให้นักโทษเกิดความหวาดกลัว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเชียร์ของกลุ่มนักโทษหญิงที่ดังออกมาเป็นระยะ
กระทั่งเมื่อเวลาประท้วงยืดเยื้อมาถึงช่วงใกล้เที่ยง บวกกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวขึ้น ทำให้ทางผู้ชุมนุมประท้วงเกิดอาการเหนื่อยล้า จนยินยอมส่งตัวแทนนักโทษ เข้าร่วมเจรจา และทำข้อตกลงร่วมกับ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายกฤษ วงษ์เวช ผู้บังกับการเรือนจำ จ.ตรัง และตัวแทนสื่อมวลชน
ทั้งนี้ ในบันทึกข้อตกลงระบุให้มีการผ่อนคลายระเบียบที่เข้มงวดเกินไป เพื่อลดการกระทบกระทั่งระหว่างนักโทษกับเจ้าหน้าที่ ให้ดูแลสวัสดิการของนักโทษ จัดสรรยา และเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ รวมทั้งให้ดูแลเรื่องสิทธิของผู้ต้องขังตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ส่วนข้อเรียกร้องร้องอื่นที่อยู่นอกเหนืออำนาจของ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ทางจังหวัดจะดำเนินการส่งต่อข้อเรียกดังกล่าวให้กรมราชทัณฑ์ เป็นผู้พิจารณาต่อไป
สำหรับเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง นายหนึ่ง ที่เพิ่งย้ายมามาปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นาน แต่เป็นคนที่ทำงานด้วยความเข้มงวดมาโดยตลอด และอาจจะสื่อสารไม่เข้าใจ จึงทำให้นักโทษเกิดความไม่พอใจ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไปอยู่ในแดนอื่นแล้ว
