xs
xsm
sm
md
lg

บูมอีโคทัวร์ริสเจาะต่างชาติหวังปั้นรายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -  ทีต้า เร่งขยายตลาดนักท่องเที่ยวบูมอีโคทัวริสซึ่ม   ร่วม การรถไฟฯ เปิด 4 เส้นทาง พร้อมลงพื้นที่สำรวจเพิ่มอีก 6 เส้นทาง เจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดเปิดบริการปีหน้า ขณะที่ 4 เส้นทาง นำร่อง ที่ทำร่วมกับยุโรป ประเดิมขายงาน ทีทีเอ็มปีนี้  พร้อม จี้ ททท. และผู้ประกบอการ เร่งโปรโมต ชี้ เป็นตลาดทัวร์คุณภาพ ใช้จ่ายสูง มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

นางสาวสุมิตรา  มัทธุรนนท์  นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย(สทอ.) หรือ ทีต้า(TEATA)  เปิดเผยว่า  สมาคมมีแผนกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย และต่างชาติให้หันมาเดินทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือ อีโค ทัวริสซึ่ม กันมากขึ้น  ประเดิม ก.พ.-พ.ค. 55 ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย  จัด 4 เส้นทางท่องเที่ยว จากกรุงเทพฯ นำเสนอ ทั้งเป็นเส้นทางวัฒนธรรมและเส้นทางสีเขียว จำหน่ายผ่านบริษัททัวร์  ได้แก่  1.ภาคเหนือ เส้นทางเชียงใหม่ ชมงานพืชสวนโลก , 2. ภาคกลาง อยุธยา ในรูปแบบทัวร์สุขภาพ ,3.ภาคอีสาน มี 2 เส้นทาง อุดร-หนองคาย  และ 4. ภาคเหนือตอนล่าง เพชรบูรณ์   เดินทางรถตู้นอน 3 วัน 2 คืน ราคาเริ่ม 4,000-6,000บาทต่อคนต่อทริป  เจาะเป้าหมาย  กลุ่มคนวันทำงานและวัยเกษียณ์

“เราคาดหวัง 4 เส้นทางดังกล่าว จะช่วยปลุกกระแสคนไทยให้หันมาสนใจการเดินทางท่องเที่ยวแบบอีโคทัวร์เพิ่มขึ้น  โดยพฤติกรรมคนไทย ชื่นชอบเส้นทางวัฒนธรรม มากกว่า เส้นทางสีเขียว แต่ ทั้ง 4 เส้นทางดังกล่าว จะมีโปรแกรมการเดินทางให้เลือก ตามความชอบครบถ้วน”  

สำรวจเพิ่มอีก 6 เส้นทางขายปีหน้า

ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่อีก 6 เส้นทาง  คาดว่า จะเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการเดินทางได้ราว ปี 2556   ครอบคลุม ทุกภูมิภาค ได้แก่ 1. เส้นทางภาคเหนือ 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก -แพร่ - น่าน-อุตรดิตร์ ,เส้นทางอีสาน  2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-เลย-อุดรฯและกรุงเทพ—อุบลฯ ,ภาคกลาง 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ,ภาคใต้ 2 เส้นทาง
คือ กรุงเทพฯนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี และ กรุงเทพฯ-กระบี่-ตรัง  ขณะที่งาน ไทยแลนด์ทราเวลมาร์ท หรือ TTM  ที่จะจัดขึ้น ต้นปีนี้  สมาคมจะนำเสนอขาย 4 เส้นทาง ใน CSR MAP ซึ่งจัดทำร่วมกับ กลุ่มรัฐบาลของยุโรป  เมื่อ ปี 2553  และในงาน TTM  ปีนี้กลุ่มอีโคทัวร์ ได้สิทธิ์ แยกบูธออกมาจัดต่างหากจะทำให้ดูโดเด่นขึ้น มีผู้ประกอบการร่วมออกแสดง 20 ราย   

“ นักท่องเที่ยวกลุ่มอีโคทัวริส จะเป็นวัยทำงาน อายุ 40-50 ปี ขึ้นไป ทั้งคนไทย และ ชาวต่างชาติ   เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง    จึงถือเป็นนักท่องเที่ยวตลาดคุณภาพ พักเฉลี่บ 10-15  วันขึ้นไป ราคาทัวร์อยู่ที่ 8-9 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป มากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปกว่า 30%    ซึ่ง สมาคม มีแนวคิดจะขยายฐานนักท่องเที่ยว ไปยังกลุ่ม นักศึกษา และ วัยทำงาน เพิ่มขึ้น โดยจัดโปรแกรมให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์  และ ปลูกฝังการอนุรักษณ์ธรรมชาติ” 
  
ฝึกบุคคลากรรับตลาดโต
น.ส.สุมิตรา กล่าวว่า สมาคม ได้หารือกับ ททท. เพื่อขอให้โปรโมต การท่องเที่ยวแนวอนุกรักษณ์ธรรมชาติ หรือ อีโคทัวร์ ให้มากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังช่วยฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว  แถมยังใช้จ่ายเงินสูง ซึ่ง ททท.ก็เห็นด้วยขณะที่กลุ่มบริษัทนำเที่ยวก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับการนำเสนอขายเส้นทางทัวร์รูปแบบนี้มากเท่ากับการตื่นตัวของนักท่องเที่ยว เพราะ สิ่งที่ขาดแคลน  คือ ความรู้ความสามารถของบุคคลากร ล่าสุด สมาคม เตรียมจัดอบรม ไกด์  เพราะต้องมีความรู้เชิงลึกในแต่ละสาขา ข้อมูลนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด   อบรมผู้ประกอบการ ทัวร์ ในความรู้เรื่องการจัดโปรแกรม และ อบรมผู้ประกบอการที่พัก เพื่อทำโปรดักส์ ซัพพอร์ตนักท่องเที่ยว  

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวอีโคทัวร์ เฉพาะตลาดต่างชาติ มีสัดส่วน 5% ของจำนวนนักท่องเที่ยว 19.09 ล้านคน ที่เดินทางมาประเทศไทย ส่วนตลาดคนไทย ยังมีสัดส่วนน้อยมาก แต่ทั้ง สองตลาดมีโอกาสเติบโตสูง หาก ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว  และ ให้ความรู้ผู้ประกอบการ ไกด์ ให้ทราบถึง การเพิ่มรายได้ ด้วยการจับลูกค้ากลุ่มอีโคทัวร์ซึ่งเป็นตลาดคุณภาพ  เช่น
ไกด์จะได้ค่าจ้างสูงกว่าไกด์ทั่วไป เท่าตัว  ที่สำคัญ นักท่องเที่ยวตลาดนี้ไม่หวั่นไหวง่าย จาก วิกฤตการเมือง เพราะ แหล่งเดินทางจะไม่ใช่แหล่งที่เกิดเหตุการณ์  คู่แข่งขัน ของไทย ได้แก่ มาเลเซีย  นักท่องเที่ยวต่างชาติ สัดส่วนที่เที่ยวแบบอีโคทัวร์สูงสุดคือยุโรป  มากกว่า 50%  รองมาเป็นอเมริกา 30% อีก 205 เป็นจากเอเชีย  เดสตินัช่นยอดฮิต ได้แก่ แก่งกระจาย เขาใหญ่ และ
ดอยอินทนนท์  ชื่นชอบ กิจกรรมเดินทาง ดูนก ดูช้าง  เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น