ASTVผู้จัดการรายวัน -อนันดาฯ เปิดแผนธุรกิจปี 55 ผุดคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า9โครงการมูลค่า20,000ล้านบาท พร้อมเดินหน้ากระจายหุ้นIPO 1,333ล้านหุ้น คาดมี.ค.-เม.ย.เทรด หวังระดมเม็ดเงิน4,000ล้านบาท ลงทุนโครงการใหม่ชาวงครึ่งปีหลัง5โครงการมูลค่ากว่า 10,000ล้านบาท แจงไตรมาสแรกผุด21ตร.ม. ราคาเริ่มต้น1.9ล้านบาท 4โครงการ มูลค่า 10,000ล้านบาท หลังซุ่มปรับฟังค์ชั่นการใช้งานรองรับความต้องการลูกค้า เจาะกลุ่มคนทำงาน -นักเรียน นักศึกษา ผู้อยู่อาศัยจริง ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 16,500 ล้านบาท แย้มเป้ารายได้หลังเข้าตลาดหวังทำกำไร2,000ล้านบาทต่อปีหรือมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง15%ต่อปี
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ยื่นไฟลิ่งต่อคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วหากได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แล้วคาดว่า จะสามารถนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดได้ในระหว่างเดือน มี.ค.-เม.ย.55นี้ โดยในระยะแรกจะทำการกระจายหุ้นให้นักลงทุนจำนวน1,333 ล้านหุ้น โดยมีราคาหุ้นที่ตราไว้ที่ 0.1บาทต่อหุ้น คาดว่าบริษัทจะมีเม็ดเงินจากการขายหุ้นทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้ บรัทเตรียมจะนำไปลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีแผนจะลงทุนโครงการใหม่รวม 5โครงการมูลค่าขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
สำหรับการเนินธุรกิจในปีนี้ หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะทำให้อนันดาฯในปี55นี้ มีการลงทุนในโครงการใหม่รวม 9 โครงการคิดเป็นมูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท โดย4โครงการแรก ซึ่งมีมูลค่ารวม 10,000ล้านบาท ได้เปิดตัวไปแล้วในช่วงไตรมาสแรกนี้ ประกอบด้วย โครงการ IDEO MOBI (ไอดีโอ โมบิ) ใน 4 ทำเล จำนวน 5 อาคาร ประกอบด้วย ไอดีโอ โมบิ พญาไท, ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท, ไอดีโอ โมบิ สาทร และ ไอดีโอ โมบิ พระราม 9 รวม ทั้งสิ้นจำนวน 2,475 ยูนิต โดยทั้งหมดมีการจัดโปรโมชั่นในงานเปิดขายอย่างเป็นทางการที่ลาน Hall Of Fameชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 2-5 ก.พ. 2555
“ทั้ง4โครงการนี้ เป็นโครงการที่มีการปรับแบบและฟังค์ชั่นการใช้สอยในห้องชุดใหม่ ให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยขนาดเริ่มต้น21 ตรารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายต่อตร.ม.เริ่มต้น 1-1.35 แสนบาท เป็นคอนโดมิเนียม Lay out ใหม่ล่าสุดขนาด Compact มีการออกแบบ โดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้สอย ของพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มุ่งตอบรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ทั้งลูกค้าที่อยู่อาศัยจริง และซื้อเพื่อลงทุน”
นายชานนท์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 16,500 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายจากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและทำตลาด ที่เปิดตัวในปี2554 จำนวน3 โครงการมีมูลค่าขาย3, 000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งหมด100%ในปีนี้ และจะมาจาก4โครงการใหม่ ซึ่งมีมูลค่า10,000ล้านบาทที่เปิดตัวในช่วงต้นปี โดยคาดว่าจะมียอดขายจาก4โครงการดังกล่าวประมาณ 85% หรือประมาณ 8,500ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายแล้ว50%
ส่วนที่เหลือ จะมาจากการขายห้องชุด ที่จะลงทุนพัฒนาใหม่5โครงการ ซึ่งมีมูลค่าขาย 10,000ล้านบาท ซึ่งจะลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง ดดยบรัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการขายประมาณ 50% ของ5โครงการใหม่ดังกล่าว ทั้งนี้ นโยบายการการดำเนินธุรกิจในระยะยาวหลังการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัท วางเป้าว่าจะทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจต่อปีไว้ที่2,000 ล้านบาทหรือมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 15% ต่อปี
“ บริษัทจะน้ำเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้น จำนวน4,000ล้านบาท มาลงทุนพัฒนาโครงการใหม่5โครงการ โดยโครงการที่จะมีการพัฒนาใหม่นี้จะยังยึดทำเลที่ตั้งโครงการบริเวณสถานีรถไฟฟ้าห่างจากสถานีไม่เกิน200 เมตร อย่างไรก็ตามหาก ก.ล.ต.ยังไม่อนุมัติให้นำหุ้นเข้าเทรดในตลาดได้ตามกำหนด อาจจะส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทต้องชะลอแผนการลงทุนในโครงการใหม่ดังกล่าว”
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ยื่นไฟลิ่งต่อคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วหากได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แล้วคาดว่า จะสามารถนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดได้ในระหว่างเดือน มี.ค.-เม.ย.55นี้ โดยในระยะแรกจะทำการกระจายหุ้นให้นักลงทุนจำนวน1,333 ล้านหุ้น โดยมีราคาหุ้นที่ตราไว้ที่ 0.1บาทต่อหุ้น คาดว่าบริษัทจะมีเม็ดเงินจากการขายหุ้นทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้ บรัทเตรียมจะนำไปลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีแผนจะลงทุนโครงการใหม่รวม 5โครงการมูลค่าขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
สำหรับการเนินธุรกิจในปีนี้ หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะทำให้อนันดาฯในปี55นี้ มีการลงทุนในโครงการใหม่รวม 9 โครงการคิดเป็นมูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท โดย4โครงการแรก ซึ่งมีมูลค่ารวม 10,000ล้านบาท ได้เปิดตัวไปแล้วในช่วงไตรมาสแรกนี้ ประกอบด้วย โครงการ IDEO MOBI (ไอดีโอ โมบิ) ใน 4 ทำเล จำนวน 5 อาคาร ประกอบด้วย ไอดีโอ โมบิ พญาไท, ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท, ไอดีโอ โมบิ สาทร และ ไอดีโอ โมบิ พระราม 9 รวม ทั้งสิ้นจำนวน 2,475 ยูนิต โดยทั้งหมดมีการจัดโปรโมชั่นในงานเปิดขายอย่างเป็นทางการที่ลาน Hall Of Fameชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 2-5 ก.พ. 2555
“ทั้ง4โครงการนี้ เป็นโครงการที่มีการปรับแบบและฟังค์ชั่นการใช้สอยในห้องชุดใหม่ ให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยขนาดเริ่มต้น21 ตรารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายต่อตร.ม.เริ่มต้น 1-1.35 แสนบาท เป็นคอนโดมิเนียม Lay out ใหม่ล่าสุดขนาด Compact มีการออกแบบ โดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้สอย ของพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มุ่งตอบรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ทั้งลูกค้าที่อยู่อาศัยจริง และซื้อเพื่อลงทุน”
นายชานนท์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 16,500 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายจากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและทำตลาด ที่เปิดตัวในปี2554 จำนวน3 โครงการมีมูลค่าขาย3, 000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งหมด100%ในปีนี้ และจะมาจาก4โครงการใหม่ ซึ่งมีมูลค่า10,000ล้านบาทที่เปิดตัวในช่วงต้นปี โดยคาดว่าจะมียอดขายจาก4โครงการดังกล่าวประมาณ 85% หรือประมาณ 8,500ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายแล้ว50%
ส่วนที่เหลือ จะมาจากการขายห้องชุด ที่จะลงทุนพัฒนาใหม่5โครงการ ซึ่งมีมูลค่าขาย 10,000ล้านบาท ซึ่งจะลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง ดดยบรัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการขายประมาณ 50% ของ5โครงการใหม่ดังกล่าว ทั้งนี้ นโยบายการการดำเนินธุรกิจในระยะยาวหลังการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัท วางเป้าว่าจะทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจต่อปีไว้ที่2,000 ล้านบาทหรือมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 15% ต่อปี
“ บริษัทจะน้ำเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้น จำนวน4,000ล้านบาท มาลงทุนพัฒนาโครงการใหม่5โครงการ โดยโครงการที่จะมีการพัฒนาใหม่นี้จะยังยึดทำเลที่ตั้งโครงการบริเวณสถานีรถไฟฟ้าห่างจากสถานีไม่เกิน200 เมตร อย่างไรก็ตามหาก ก.ล.ต.ยังไม่อนุมัติให้นำหุ้นเข้าเทรดในตลาดได้ตามกำหนด อาจจะส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทต้องชะลอแผนการลงทุนในโครงการใหม่ดังกล่าว”