xs
xsm
sm
md
lg

บัวหลวงปั้นยิลด์40ล้านต่อปี บริหารเงิน"ดิเอ็นเนอร์จี้หัวหิน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บจ.บ้านราชประสงค์ ตั้งเป้าให้บลจ.บัวหลวงบริหาร “โครงการดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน” หวังสร้างผลตอบแทนประมาณ 30 - 40 ล้านบาทต่อปี ด้าน บัวหลวง เผย บริหารเงินส่วนกลางแบบการลงทุนระยะยาว แบ่งลงทุน อย่างละ 50% เพื่อลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคง และ หุ้นพื้นฐานดีที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกจากบริษัทแล้ว

นายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.บ้านราชประสงค์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ให้บลจ.บัวหลวงบริหารเงินส่วนกลางของ “โครงการดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน” ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมตกแต่งครบติดทะเลหัวหิน โดยชูจุดเด่นเป็นครั้งแรกในไทยที่ให้จ่ายค่าส่วนกลางปีแรกเพียงครั้งเดียวในอัตราปกติ ในขณะที่ราคาคอนโดก็เริ่มต้นเพียง 1.8 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิทธิเป็นสมาชิกสปอร์ตคอมเพล็กซ์ฟรีตลอดชีพ พร้อมรับ The Energy Point 1,000 คะแนน ฟรีทุกปี เพื่อใช้แลกรับบริการต่างๆ จากโรงแรมระดับ 5 ดาวของโครงการที่สงวนไว้สำหรับสมาชิกและแขกพิเศษของสมาชิกเท่านั้น โครงการมี 6,000 ยูนิต ปัจจุบันขายได้แล้วประมาณ 700 ยูนิต และคาดว่าภายในไตรมาสที่2/55 น่าจะสามารถขายได้หมดทั้งโครงการ ซึ่งขณะนี้โครงการกำลังเปิดจองอยู่ที่สยามพารากอน ชั้น M ลาน Hall of Fame ระหว่างวันที่ 19 - 25 ธ.ค. 54

ทั้งนี้ สำหรับเงินส่วนกลางที่ให้บลจ.บัวหลวงบริหารนั้นมีมูลค่าประมาณ 630 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าให้บลจ.บัวหลวงบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนประมาณ 30 - 40 ล้านบาทต่อปี เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลางของโครงการดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหินนี้ ซึ่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของโครงการทั้งหมดและนี่คือเหตุผลที่ทำให้บริษัทชูกลยุทธ์เก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพียงครั้งเดียวในปีแรกได้ในอัตราปกติด้วย โดยที่ราคาขายคอนโดก็ไม่แพง โดยในส่วนของเงินต้นที่ให้บลจ.บัวหลวงบริหารเองนั้นก็ต้องอยู่ตลอดไปด้วย ซึ่งบริษัทมั่นใจในฝีมือการบริหารของบลจ.บัวหลวงว่าจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน

ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า เงินส่วนกลางของนิติบุคคลโครงการดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน มูลค่า 630 ล้านบาท ที่บริหารนี้ เนื่องจากเป็นลักษณะของการลงทุนระยะยาว จะแบ่งสัดส่วนเงินลงทุน 50% เพื่อลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคง โดยจะเน้นการลงทุนระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยในส่วนนี้ได้ประมาณ 4.0% ต่อปี และอีก 50% ที่เหลือจะเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกจากบริษัทแล้ว โดยจะเน้นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลที่ค่อนข้างสูงเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 6.0% และมีการประวิตการจ่ายเงินปันผลที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีได้ไม่ต่ำกว่า 6.0% ซึ่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่อปีได้ไม่ยากนัก

“ในกรณีที่มีส่วนขาดเกิดขึ้น ก็ยังมีเงินกองทุนของบจ.บ้านราชประสงค์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ที่บริษัทบริหารด้วยมาช่วยสนับสนุนชดเชยให้ได้ แต่บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนตามที่โครงการต้องการได้ และในกรณีที่มีกำไรมากกว่า 6% ดังกล่าวก็จะเก็บอยู่ในกองทุนทำให้กองทุนมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นในระยะยาวด้วยเช่นกัน” นายพีรพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น