ASTVผู้จัดการรายวัน – “นกพิราบ” ปรับตัวรับเออีซี พร้อมรุกธุรกิจรับจัดจำหน่ายปีนี้เต็มตัว เล็งกลุ่มอาหารเป็นหลัก มั่นใจศักยภาพช่องทางที่มีอยู่ พร้อมขยายไลน์สินค้าให้มากขึ้น รับการแข่งขันที่รุนแรง ยันเป็นผู้นำตลาดผักกาดดองเค็ม คาดรายได้รวมปีนี้เติบโตไม่ต่ำ 10%
นางมาลัย รัชตสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด / บริษัท เอฟบี ฟู้ดเซอร์วิส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร ผัก ผลไม้ กระป๋อง ตรา นกพิราบ เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันของตลาดผลิตภัณฑ์อาหารจากนี้ไปจะแข่งขันกันมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการในประเทศซึ่งมีจำนวนมากและมีรายใหม่เข้าตลาดต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวตลอดเวลา
ที่สำคัญ เมื่อการรวมตัวกันเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (ASEAN Economic Community) ในปี พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ จะยิ่งทำให้ผู้ประกอบการคนไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นด้วย เพราะตลาดในอาเซียนจะรวมกันเป้นหนึ่ง ซึ่งบริษัทฯเองก็เตรียมตัวเพื่อรองรับกับเออีซีเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาถึงมาตรการต่างๆทั้งการขยายตัวการลงทุนและการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพการผลิต การเพิ่มศักยภาพขององค์กร การตลาด เป็นต้น
โดยปีนี้บริษัทฯเตรียมที่จะรุกธุรกิจการรับจัดจำหน่ายสินค้าอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้ตั้งบริษัท เอฟ บี ฟู้ดเซอร์วิส จำกัด มาระยะหนึ่งแล้วเพื่อทำการจัดจำหน่ายให้กับสินค้าในเครือก่อน ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในการรับงานนอกเครือแล้ว เพื่อเป็นการขยายไลน์ธุรกิจให้มีความครบวงจรและเพิ่มศักยภาพในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารเป็นหลัก เพราะมีช่องทางร้านค้าที่มีสายสัมพันธ์ดีอยู่อย่างมาก ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนัลเทรด รวมทั้งยังมีหน่วยรถขายของบริษัทฯเองอีกด้วย เนื่องจากบริษัทแม่คือ บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด ทำธุรกิจมานานกว่า 50 ปีมีความเข้มแข็งทั้งด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายเป็นอย่างดี
นอกจากนั้นในส่วนของธุรกิจการผลิต มีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าอาหารกลุ่มใหม่ๆให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดมากขึ้น ทั้งที่มีอยู่แล้วและขยายเพิ่มและที่ยังไม่มี ไม่ว่าจะเป็น อาหารกระป๋อง ผักผลไม้กระป๋อง ปลากระป๋อง ผักกาดดองในกลุ่มต่างๆ รวมทั้งสแน็กด้วย ทั้งนี้บางกลุ่มสินค้าก็มีการทำตลาดในต่างประเทศแล้วเช่นกัน
ทั้งรูปแบบแบรนด์บริษัทฯเองและการรับผลิตโออีเอ็ม
โดยปีนี้คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% จากเดิมที่ผลิตได้ประมาณ 10 ล้านกิโลกรัมต่อปี โดยที่บริษัทฯมีการส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกผักและวัตถุดิบต่างๆทางภาคเหนือ ทำให้มั่นใจในคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดี รวมทั้งการพยายามลดต้นทุนการผลิตในส่วนอื่นที่ไม่กระทบต่อคุณภาพเช่นการพัฒนาระบบการผลิต เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาราคากระป๋องที่ทำจากเหล็กเพิ่มขึ้น 8% ต้นทุนอื่นโดยรวมขึ้นอีก 30% แต่บริษัทฯเพิ่งปรับราคาสินค้าเมื่อปีที่แล้วเพียง 4% เท่านั้น
ส่วนตลาดต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯมีจำหน่ายหลากหลายแล้วแต่ละประเทศ เช่น ผลไม้กระป๋องตราพีเจ้น ถือเป็นสินค้าที่ตลาดให้การตอบรับอย่างดี ปัจจุบันในไทยแบรนด์นกพิราบถือเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในเซ็กเมนท์ผักกาดดองเค็ม ด้วยแชร์ 75% จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มนี้ประมาณ 900 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบเมื่อปีที่แล้ว ( 2554 ) รายได้ประมาณ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า (ปี 2553) ที่มีรายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าผลประกอบการจะมีอัตราการเติบโต 10% ขณะที่เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้วบริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงแต่อย่างใด
นางมาลัย รัชตสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด / บริษัท เอฟบี ฟู้ดเซอร์วิส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร ผัก ผลไม้ กระป๋อง ตรา นกพิราบ เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันของตลาดผลิตภัณฑ์อาหารจากนี้ไปจะแข่งขันกันมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการในประเทศซึ่งมีจำนวนมากและมีรายใหม่เข้าตลาดต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวตลอดเวลา
ที่สำคัญ เมื่อการรวมตัวกันเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (ASEAN Economic Community) ในปี พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ จะยิ่งทำให้ผู้ประกอบการคนไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นด้วย เพราะตลาดในอาเซียนจะรวมกันเป้นหนึ่ง ซึ่งบริษัทฯเองก็เตรียมตัวเพื่อรองรับกับเออีซีเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาถึงมาตรการต่างๆทั้งการขยายตัวการลงทุนและการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพการผลิต การเพิ่มศักยภาพขององค์กร การตลาด เป็นต้น
โดยปีนี้บริษัทฯเตรียมที่จะรุกธุรกิจการรับจัดจำหน่ายสินค้าอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้ตั้งบริษัท เอฟ บี ฟู้ดเซอร์วิส จำกัด มาระยะหนึ่งแล้วเพื่อทำการจัดจำหน่ายให้กับสินค้าในเครือก่อน ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในการรับงานนอกเครือแล้ว เพื่อเป็นการขยายไลน์ธุรกิจให้มีความครบวงจรและเพิ่มศักยภาพในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารเป็นหลัก เพราะมีช่องทางร้านค้าที่มีสายสัมพันธ์ดีอยู่อย่างมาก ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนัลเทรด รวมทั้งยังมีหน่วยรถขายของบริษัทฯเองอีกด้วย เนื่องจากบริษัทแม่คือ บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด ทำธุรกิจมานานกว่า 50 ปีมีความเข้มแข็งทั้งด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายเป็นอย่างดี
นอกจากนั้นในส่วนของธุรกิจการผลิต มีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าอาหารกลุ่มใหม่ๆให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดมากขึ้น ทั้งที่มีอยู่แล้วและขยายเพิ่มและที่ยังไม่มี ไม่ว่าจะเป็น อาหารกระป๋อง ผักผลไม้กระป๋อง ปลากระป๋อง ผักกาดดองในกลุ่มต่างๆ รวมทั้งสแน็กด้วย ทั้งนี้บางกลุ่มสินค้าก็มีการทำตลาดในต่างประเทศแล้วเช่นกัน
ทั้งรูปแบบแบรนด์บริษัทฯเองและการรับผลิตโออีเอ็ม
โดยปีนี้คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% จากเดิมที่ผลิตได้ประมาณ 10 ล้านกิโลกรัมต่อปี โดยที่บริษัทฯมีการส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกผักและวัตถุดิบต่างๆทางภาคเหนือ ทำให้มั่นใจในคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดี รวมทั้งการพยายามลดต้นทุนการผลิตในส่วนอื่นที่ไม่กระทบต่อคุณภาพเช่นการพัฒนาระบบการผลิต เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาราคากระป๋องที่ทำจากเหล็กเพิ่มขึ้น 8% ต้นทุนอื่นโดยรวมขึ้นอีก 30% แต่บริษัทฯเพิ่งปรับราคาสินค้าเมื่อปีที่แล้วเพียง 4% เท่านั้น
ส่วนตลาดต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯมีจำหน่ายหลากหลายแล้วแต่ละประเทศ เช่น ผลไม้กระป๋องตราพีเจ้น ถือเป็นสินค้าที่ตลาดให้การตอบรับอย่างดี ปัจจุบันในไทยแบรนด์นกพิราบถือเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในเซ็กเมนท์ผักกาดดองเค็ม ด้วยแชร์ 75% จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มนี้ประมาณ 900 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบเมื่อปีที่แล้ว ( 2554 ) รายได้ประมาณ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า (ปี 2553) ที่มีรายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าผลประกอบการจะมีอัตราการเติบโต 10% ขณะที่เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้วบริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงแต่อย่างใด