พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา ผวาอาถรรพ์พลุระเบิดซ้ำรอยสุพรรณบุรี สั่งงดจุดพลุงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยา มรดกโลก และงานกาชาด 10-19 ก.พ.นี้ ประกอบกับโบราณสถานอยู่ในช่วงฟื้นฟูจากน้ำท่วมและหากจุดพลุ อาจะได้รับความเสียหาย
วานนี้ (30 ม.ค.55) นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเรื่องแนวกำแพงโบราณสถานวัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ริมถนนนเรศวร ทรุดตัวและพังลงแล้วและขณะนี้ตนได้สั่งการไปยังสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหายและทำสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าเป็นจุดอันตราย เพื่อไม่ให้มีใครเข้าไปใกล้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าจุดที่เกิดการทรุดและแตกร้าวลงนั้นเกิดจากปัญหาน้ำท่วมจริง
ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดพะนครศรีอยุธยา จะจัดงานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาดประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 10 - 19 ก.พ.นี้โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังวัดมหาธาตุ ทำการแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม ซึ่งหลายคนเกรงว่าการแสดง และการจุดพลุอาจจะทำให้ตัวโบราณสถานวัดมหาธาตุเสียหายหนักมากไปกว่านี้นั้น ล่าสุดตได้แจ้งไปยังกลุ่มนักแสดง และกลุ่มผู้จัดงานแล้วว่า การแสดงแสงสีเสียงในปีนี้จะไม่ใช้ฉากการสู้รบและการจุดพลุแล้ว เนื่องจากการแสดงในลักษณะดังกล่าว รวมถึงการจุดพลุ อาจจะทำให้ตัวโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วมนาน ได้รับความเสียหายมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนการแสดงเป็นแสงสีเท่านั้น
ส่วนเนื้อหาของเรื่องจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับนานาประเทศ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรองรับกับการจัดงานมหกรรมเวิลด์ เอ๊กโปร์ 2020 ซึ่งไทยเสนอจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชิงพื้นที่การจัดงานนี้ด้วย
นายวิทยายอมรับว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ตั้งของสถานที่จัดทำพลุจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบสถานที่เก็บพลุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับบางจังหวัดก่อนหน้านี้
วานนี้ (30 ม.ค.55) นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเรื่องแนวกำแพงโบราณสถานวัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ริมถนนนเรศวร ทรุดตัวและพังลงแล้วและขณะนี้ตนได้สั่งการไปยังสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหายและทำสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าเป็นจุดอันตราย เพื่อไม่ให้มีใครเข้าไปใกล้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าจุดที่เกิดการทรุดและแตกร้าวลงนั้นเกิดจากปัญหาน้ำท่วมจริง
ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดพะนครศรีอยุธยา จะจัดงานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาดประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 10 - 19 ก.พ.นี้โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังวัดมหาธาตุ ทำการแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม ซึ่งหลายคนเกรงว่าการแสดง และการจุดพลุอาจจะทำให้ตัวโบราณสถานวัดมหาธาตุเสียหายหนักมากไปกว่านี้นั้น ล่าสุดตได้แจ้งไปยังกลุ่มนักแสดง และกลุ่มผู้จัดงานแล้วว่า การแสดงแสงสีเสียงในปีนี้จะไม่ใช้ฉากการสู้รบและการจุดพลุแล้ว เนื่องจากการแสดงในลักษณะดังกล่าว รวมถึงการจุดพลุ อาจจะทำให้ตัวโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วมนาน ได้รับความเสียหายมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนการแสดงเป็นแสงสีเท่านั้น
ส่วนเนื้อหาของเรื่องจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับนานาประเทศ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรองรับกับการจัดงานมหกรรมเวิลด์ เอ๊กโปร์ 2020 ซึ่งไทยเสนอจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชิงพื้นที่การจัดงานนี้ด้วย
นายวิทยายอมรับว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ตั้งของสถานที่จัดทำพลุจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบสถานที่เก็บพลุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับบางจังหวัดก่อนหน้านี้