ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าแบงก์ชาติมั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โตสูงกว่า 4.8% เกิดจากฐานปีก่อนต่ำแค่ 1.8% ส่วนเฟดประกาศคงดอกเบี้ย ตลาดรับรู้ล่วงหน้าแล้ว
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2555 โตสูงกว่า 4.8% เนื่องจากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ที่ผ่านมา ขยายตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ คือ 1.8% โดย ธปท.จะมีการแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้
ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ 0-0.25% นานถึงปี 2557 นั้น ถือเป็นการทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ตามที่สหรัฐฯเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯในขณะนี้ ยังมีความจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ตลาดรับทราบกันดีก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นทางเฟดจึงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
"อย่างดอลลาร์สหรัฐก็รู้กันอยู่ว่า ก็มีทั้งที่เป็น เปิดรับความเสี่ยงและ ปิดความเสี่ยง ขึ้นกับภาวะตลาด และความเสี่ยงในแต่ละช่วง เพราะดอลลาร์สหรัฐฯเองถือเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ดังนั้นเวลามีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ก็จะมีผลทางจิตวิทยาในตลาดเงิน ถ้าคนอยากหนีความเสี่ยงก็วิ่งหาไปดอลลาร์ เงินดอลลาร์ก็จะแข็ง แต่ถ้าคนกล้าที่จะรับความเสี่ยง ก็ออกจากดอลลาร์ เพื่อไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่า เงินดอลลาร์ก็จะอ่อนค่า" นายประสารกล่าว
ด้านนายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจากเม็ดเงินจากมาตรการการฟื้นฟูและเยียวยา ผลกระทบจากน้ำท่วมของรัฐบาล และการใช้จ่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วม เป็นตัวสำคัญที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกฟื้นตัวได้ และมีโอกาสทำให้เศรษฐกิจไทยในนี้จะขยายตัวไม่ต่ำไปกว่า 4.8%.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2555 โตสูงกว่า 4.8% เนื่องจากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ที่ผ่านมา ขยายตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ คือ 1.8% โดย ธปท.จะมีการแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้
ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ 0-0.25% นานถึงปี 2557 นั้น ถือเป็นการทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ตามที่สหรัฐฯเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯในขณะนี้ ยังมีความจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ตลาดรับทราบกันดีก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นทางเฟดจึงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
"อย่างดอลลาร์สหรัฐก็รู้กันอยู่ว่า ก็มีทั้งที่เป็น เปิดรับความเสี่ยงและ ปิดความเสี่ยง ขึ้นกับภาวะตลาด และความเสี่ยงในแต่ละช่วง เพราะดอลลาร์สหรัฐฯเองถือเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ดังนั้นเวลามีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ก็จะมีผลทางจิตวิทยาในตลาดเงิน ถ้าคนอยากหนีความเสี่ยงก็วิ่งหาไปดอลลาร์ เงินดอลลาร์ก็จะแข็ง แต่ถ้าคนกล้าที่จะรับความเสี่ยง ก็ออกจากดอลลาร์ เพื่อไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่า เงินดอลลาร์ก็จะอ่อนค่า" นายประสารกล่าว
ด้านนายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจากเม็ดเงินจากมาตรการการฟื้นฟูและเยียวยา ผลกระทบจากน้ำท่วมของรัฐบาล และการใช้จ่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วม เป็นตัวสำคัญที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกฟื้นตัวได้ และมีโอกาสทำให้เศรษฐกิจไทยในนี้จะขยายตัวไม่ต่ำไปกว่า 4.8%.
