ASTVผู้จัดการรายวัน – “พีน่ากรุ๊ป” ผุดบริษัทลูก ทุ่ม 500 ล้านบาท ลุยคอมมูนิตี้มอลล์โฉมใหม่ ซันโตรีนี่ สไตล์ อะมิวส์ชอปปิ้ง นำร่องที่ชะอำ แหวกแนวด้วยเครื่องเล่นดึงลูกค้าเข้าศูนย์ฯ
นางสาวนัสวีร์ ตันติจิรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีม พลาซ่า ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ในเครือพีน่าเฮ้าส์กรุ๊ป เปิดเผยว่า พีน่าเฮ้าส์กรุ๊ปไม่ได้ขยายุธุรกิจในด้านการ์เมนต์มานานแล้ว แต่ได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทำให้เราเติบโตดี ไม่หวือหวา แต่กำไรดี ซึ่งนโยบายก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจและต่อยอดธุรกิจใหม่ๆทั้งในแง่ของการเป็นผู้รับจัดจำหน่ายและการรับไลเซ่นส์ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า รวมทั้งการต่อยอดธุรกิจรีเทลด้วย รวมทั้งภายใน 5 ปีอาจจะมีการขยายุธุรกิจร้านอาหารในเชิงแมสมากขึ้นด้วย จากปัจจุบันมีหลายแบรดน์เช่น เดอะวัลเลย์กริลล์ ร้านกาแฟคอฟฟี่บ็อกซ์ ร้านเกรพสตอรี่ เป็นต้น
ล่าสุดได้ตั้งบริษัท ธีม ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม ที่มีรูปแบบพรีเมียมเอาท์เลทมอลล์อยู่แล้วจำนวน 6 สาขา โดยใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท พัฒนาโครงการ ซันโตรีนี่ พาร์ค ชะอำ พื้นที่ 60 ไร่ บนถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพมหานคร ห่างจกากรุงเทพฯ 190 กิโลเมตร พัฒนาเป็นคอนเซ็ปท์ อะมิว์ ชอปปิ้ง เอ็กซพีเรียนซ์ สถาปัตยกรรมสไตล์กรีซ มี พื้นที่ร้านค้าเฉลี่ย 12-72 ตารางเมตร ปัจจุบันมีลูกค้าเช่าแล้ว 60% ส่วนอีก 40% มีเป้าหมายรองรับร้านค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ร้านแฮนด์เมด ร้านศิลปะเป็นหลัก มีค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 กว่าบาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
จุดเด่นที่แตกต่างคือ มีสวนสนุกในโครงการมี เครื่องเล่น 6 ชนิด เช่น ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รีเวิร์สบันจี้ ไจแอนท์สลิง เป็นต้น ซึ่งส่วนของเครื่องเล่นคงต้องเสียค่าบริการเล็กน้อย
“เราเริ่มโครงการที่ชะอำก่อนเพราะตัวเลขยอดขายสาขาเอาท์เลทของเราที่นี่เติบโตอย่างมาก 20% และกว่า 70% เป็นคนกรุงเทพฯที่มาท่องเที่ยว จากจำนวนกว่า 4 ล้านคนต่อปีที่มาเที่ยวที่ชะอำ และหัวหิน มีรถยนต์ผ่านหน้าโครงการมากกว่า 120,000 คันในวันหยุด เรามองแล้วเป็นทำเลที่มีศักยภาพอย่างมาก และใกล้กับพรีเมียมเอาท์เลทมอลล์ของเราเองด้วย เรา จึงลงทุนตรงนี้เป็นแห่งแรก ส่วนสาขาต่อไปก็แล้วแต่ทำเลและพื้นที่ ซึ่งราเองก็มีเอาท์เล็ทมอลล์อยู่ 6 แห่งคือที่ ชะอำ เขาใหญ่ อุดรธานี ภูเก็ต พัทยา กระบี่ และเตรียมจะเปิดที่อยุธยาเดือนกุมภาพันธ์นี้ และกว่า 70น่เติบโตอย่างมาก 20ัุ่ก
มนี้ นมีหลายรนเน เดอะวัลลเยืกริลล์ ร้นกาแฟคอฟฟี่บ็อกซ์ ร้านเกรพสตอรี่
ี จุดเด่นที่แตกต่าง
นอกจากนั้นในส่วนของที่ไม่ใช่การพัฒนาที่ดิน ก็อยู่ระหว่างการเจรจากับสินค้าแบรนด์เนม ทั้งการรับจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิต ซึ่งปีที่แล่วเพิ่งได้รับสิทธิ์แบรนด์ทิมเบอร์แลนด์ ทำตลาดในไทยสัญญา 5 ปี แทนรายเดิม จากเดิมที่มีแบรนด์ตัวเองเช่น พีน่า เท็นแอนด์โก และไลเซ่นส์เช่น แลมเพจ เป็นต้น
นางสาวนัสวีร์ ตันติจิรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีม พลาซ่า ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ในเครือพีน่าเฮ้าส์กรุ๊ป เปิดเผยว่า พีน่าเฮ้าส์กรุ๊ปไม่ได้ขยายุธุรกิจในด้านการ์เมนต์มานานแล้ว แต่ได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทำให้เราเติบโตดี ไม่หวือหวา แต่กำไรดี ซึ่งนโยบายก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจและต่อยอดธุรกิจใหม่ๆทั้งในแง่ของการเป็นผู้รับจัดจำหน่ายและการรับไลเซ่นส์ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า รวมทั้งการต่อยอดธุรกิจรีเทลด้วย รวมทั้งภายใน 5 ปีอาจจะมีการขยายุธุรกิจร้านอาหารในเชิงแมสมากขึ้นด้วย จากปัจจุบันมีหลายแบรดน์เช่น เดอะวัลเลย์กริลล์ ร้านกาแฟคอฟฟี่บ็อกซ์ ร้านเกรพสตอรี่ เป็นต้น
ล่าสุดได้ตั้งบริษัท ธีม ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม ที่มีรูปแบบพรีเมียมเอาท์เลทมอลล์อยู่แล้วจำนวน 6 สาขา โดยใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท พัฒนาโครงการ ซันโตรีนี่ พาร์ค ชะอำ พื้นที่ 60 ไร่ บนถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพมหานคร ห่างจกากรุงเทพฯ 190 กิโลเมตร พัฒนาเป็นคอนเซ็ปท์ อะมิว์ ชอปปิ้ง เอ็กซพีเรียนซ์ สถาปัตยกรรมสไตล์กรีซ มี พื้นที่ร้านค้าเฉลี่ย 12-72 ตารางเมตร ปัจจุบันมีลูกค้าเช่าแล้ว 60% ส่วนอีก 40% มีเป้าหมายรองรับร้านค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ร้านแฮนด์เมด ร้านศิลปะเป็นหลัก มีค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 กว่าบาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
จุดเด่นที่แตกต่างคือ มีสวนสนุกในโครงการมี เครื่องเล่น 6 ชนิด เช่น ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รีเวิร์สบันจี้ ไจแอนท์สลิง เป็นต้น ซึ่งส่วนของเครื่องเล่นคงต้องเสียค่าบริการเล็กน้อย
“เราเริ่มโครงการที่ชะอำก่อนเพราะตัวเลขยอดขายสาขาเอาท์เลทของเราที่นี่เติบโตอย่างมาก 20% และกว่า 70% เป็นคนกรุงเทพฯที่มาท่องเที่ยว จากจำนวนกว่า 4 ล้านคนต่อปีที่มาเที่ยวที่ชะอำ และหัวหิน มีรถยนต์ผ่านหน้าโครงการมากกว่า 120,000 คันในวันหยุด เรามองแล้วเป็นทำเลที่มีศักยภาพอย่างมาก และใกล้กับพรีเมียมเอาท์เลทมอลล์ของเราเองด้วย เรา จึงลงทุนตรงนี้เป็นแห่งแรก ส่วนสาขาต่อไปก็แล้วแต่ทำเลและพื้นที่ ซึ่งราเองก็มีเอาท์เล็ทมอลล์อยู่ 6 แห่งคือที่ ชะอำ เขาใหญ่ อุดรธานี ภูเก็ต พัทยา กระบี่ และเตรียมจะเปิดที่อยุธยาเดือนกุมภาพันธ์นี้ และกว่า 70น่เติบโตอย่างมาก 20ัุ่ก
มนี้ นมีหลายรนเน เดอะวัลลเยืกริลล์ ร้นกาแฟคอฟฟี่บ็อกซ์ ร้านเกรพสตอรี่
ี จุดเด่นที่แตกต่าง
นอกจากนั้นในส่วนของที่ไม่ใช่การพัฒนาที่ดิน ก็อยู่ระหว่างการเจรจากับสินค้าแบรนด์เนม ทั้งการรับจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิต ซึ่งปีที่แล่วเพิ่งได้รับสิทธิ์แบรนด์ทิมเบอร์แลนด์ ทำตลาดในไทยสัญญา 5 ปี แทนรายเดิม จากเดิมที่มีแบรนด์ตัวเองเช่น พีน่า เท็นแอนด์โก และไลเซ่นส์เช่น แลมเพจ เป็นต้น
