ASTVผู้จัดการรายวัน – “แล็ปสตอรี่” รุกขายผ่านยเว๊บไซต์ สู้ภัยน้ำท่วม หลังเป็นเอ็กซ์คลูซีฟกับวัตสัน คาดปีหน้าครบกำหนดเล็งขยายช่องทางใหม่อีก
นางถวายรินทร์ ลำเลียงพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทราเพาเวอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชสำอาง “แล็ปสตอรี่” จากประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มสู่การขายผ่านออนไลน์ www.labstorythailand.com อย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะเริ่มจริงจังเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานตลาดแล็ปสตอรี่ได้มากขึ้นจากผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต จากเดิมเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 25 -45 ปี ซึ่งล่าสุดมีผู้สมัครเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กของแล็ปสตอรี่ในไทยประมาณ 7,000 คนภายในเวลา 3 เดือน และยังเป็นการแก้ปัญหาผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขนึ้ด้วย ที่ทำให้บริษัทฯมีช่องทางจำหน่ายอื่นแทนหน้าร้านค้าปลีกอย่างเดียว
ทั้งนี้บริษัทฯได้พัฒนาการสั่งซื้อผ่านทางเว๊บไซต์ ซึ่งได้รับสิทธิ์ในการใช้ระบบการชำระเงินออนไลน์กับทางบริษัท เพย์สบาย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ให้บริการรับและส่งเงิน ชำระค่าสินค้า และบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในชื่อ www.paysbuy.com ซึ่งใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลด้วยระบบ Secure Socket Layer ( SSL 128 bits) พร้อมบริการส่งฟรีโดยบริษัทฯเองในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดมอบหมายให้บริษัท อินเตอร์เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ ประมาณ 3 วันสินค้าถึงผู้ซื้อ
จากเดิมที่ผ่านมาเริ่มทำตลาดแล็ปสตอรี่ในไทยผ่านช่องทางร้านวัตสันเท่านั้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปีนี้ ซึ่งขณะนี้มีสินค้าวางจำหน่ายแล้วประมาณ 140 สาขา จากจำนวนทั้งหมดของวัตสันกว่า 190 สาขา และมียอดขายเริ่มต้นที่ 3 แสนบาทในเดือนแรก กระทั่งเดือนพฤศจิกายนมีมากกว่า 8 แสนบาทแล้ว และคาดว่าในเดือนธันวาคมนี้จะมียอดขายผ่านร้านวัตสัน 1 ล้านบาท
ขณะเดียวกันมีแผนเพิ่มพนักงานขายหรือบีเอเป็นประมาณ 100 คนในปีหน้า ซึ่ขณะนี้เริ่มมีแล้วประมาณ 20 กว่าคน กระจายไปตามสาขาของวัตสัน ส่วนในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มชอ่งทางจำหน่ายสู่ร้านค้าปลีกความงามและเวชสำอางอื่นเพี่มขึ้น หลังจากครบกำหนดเอ็กซ์คลูซีฟกับร้านวัตสันในเดือนกรกฎาคมปี 2555
สำหรัยบสินค้าของแล็ปสตอรี่ในไทยมี 2 กลุ่มคือ 1.สกินแคร์ สัดส่วนยอดขาย 80% และ 2. คอสเมติก สัดส่วนยอดขาย 20% คาดว่ายอดขายรวมสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 3.8 ล้านบาท ยังไม่มากนัก เนื่องจากเพิ่งเริ่มดำเนินการกลางปีนี้ ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดขายจะเติบโตอีกมาก เนื่องจากจะมีสินค้ามากขึ้นเช่นจะนำเข้า แล็ปสตอรี่โอเอซิสวอเตอร์ดร็อป เป็นกลุ่มสกินแคร์เข้ามาทำตลาดและมีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น
นางถวายรินทร์ ลำเลียงพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทราเพาเวอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชสำอาง “แล็ปสตอรี่” จากประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มสู่การขายผ่านออนไลน์ www.labstorythailand.com อย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะเริ่มจริงจังเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานตลาดแล็ปสตอรี่ได้มากขึ้นจากผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต จากเดิมเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 25 -45 ปี ซึ่งล่าสุดมีผู้สมัครเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กของแล็ปสตอรี่ในไทยประมาณ 7,000 คนภายในเวลา 3 เดือน และยังเป็นการแก้ปัญหาผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขนึ้ด้วย ที่ทำให้บริษัทฯมีช่องทางจำหน่ายอื่นแทนหน้าร้านค้าปลีกอย่างเดียว
ทั้งนี้บริษัทฯได้พัฒนาการสั่งซื้อผ่านทางเว๊บไซต์ ซึ่งได้รับสิทธิ์ในการใช้ระบบการชำระเงินออนไลน์กับทางบริษัท เพย์สบาย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ให้บริการรับและส่งเงิน ชำระค่าสินค้า และบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในชื่อ www.paysbuy.com ซึ่งใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลด้วยระบบ Secure Socket Layer ( SSL 128 bits) พร้อมบริการส่งฟรีโดยบริษัทฯเองในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดมอบหมายให้บริษัท อินเตอร์เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ ประมาณ 3 วันสินค้าถึงผู้ซื้อ
จากเดิมที่ผ่านมาเริ่มทำตลาดแล็ปสตอรี่ในไทยผ่านช่องทางร้านวัตสันเท่านั้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปีนี้ ซึ่งขณะนี้มีสินค้าวางจำหน่ายแล้วประมาณ 140 สาขา จากจำนวนทั้งหมดของวัตสันกว่า 190 สาขา และมียอดขายเริ่มต้นที่ 3 แสนบาทในเดือนแรก กระทั่งเดือนพฤศจิกายนมีมากกว่า 8 แสนบาทแล้ว และคาดว่าในเดือนธันวาคมนี้จะมียอดขายผ่านร้านวัตสัน 1 ล้านบาท
ขณะเดียวกันมีแผนเพิ่มพนักงานขายหรือบีเอเป็นประมาณ 100 คนในปีหน้า ซึ่ขณะนี้เริ่มมีแล้วประมาณ 20 กว่าคน กระจายไปตามสาขาของวัตสัน ส่วนในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มชอ่งทางจำหน่ายสู่ร้านค้าปลีกความงามและเวชสำอางอื่นเพี่มขึ้น หลังจากครบกำหนดเอ็กซ์คลูซีฟกับร้านวัตสันในเดือนกรกฎาคมปี 2555
สำหรัยบสินค้าของแล็ปสตอรี่ในไทยมี 2 กลุ่มคือ 1.สกินแคร์ สัดส่วนยอดขาย 80% และ 2. คอสเมติก สัดส่วนยอดขาย 20% คาดว่ายอดขายรวมสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 3.8 ล้านบาท ยังไม่มากนัก เนื่องจากเพิ่งเริ่มดำเนินการกลางปีนี้ ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดขายจะเติบโตอีกมาก เนื่องจากจะมีสินค้ามากขึ้นเช่นจะนำเข้า แล็ปสตอรี่โอเอซิสวอเตอร์ดร็อป เป็นกลุ่มสกินแคร์เข้ามาทำตลาดและมีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น