xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิขึ้นวอ” กับ “บันทึกเสด็จเตี่ย?!”

เผยแพร่:   โดย: ปิยะโชติ อินทรนิวาส

2 ภาพนี้เป็นเหตุการณ์ที่หน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ด้วยกันทั้งคู่ มีระยะเวลาห่างกันเพียงปีกว่า แต่ให้อารมณ์แตกต่างแบบคนละขั้ว
จากกรณีฉาวโฉ่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มอบรางวัล นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโคลนนิ่งนักโทษหนีคดีทักษิณ ชินวัตร แบบที่ผู้รับไม่ค่อยใส่ใจไยดีเท่าไหร่ ถึงกรณีที่กำลังฉาวฉานและถูกต่อต้านอย่างหนัก โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ขึ้นป้ายขนาดมหึมาเชลียร์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ศิษย์เก่าที่เพิ่งได้นั่งแท่นเป็นรัฐมนตรี

แน่นอนทั้ง 2 เหตุการณ์คือ ภาพชัดที่สะท้อนความอ่อนแอของระบบการศึกษาไทยในทุกระดับ แถมกำลังถูกกลุ้มรุมทำร้ายจากน้ำมือบรรดาผู้บริหารการศึกษา และนักวิชาการจำนวนมาก ด้วยการทำตัวสยบยอมให้กับนักการเมืองสามานย์

อันที่จริงก็ไม่น่าแปลกใจอะไรกับ 2 เหตุการณ์นี้ เนื่องจากระบอบทักษิณที่ถูกสถาปนาขึ้นกินบ้านกินเมืองมานับสิบปี ได้เจาะทะลวงเข้าไปบ่อนเซาะทำลายแทบจะทุกระบบอันเป็นโครงสร้างสำคัญค่อยค้ำยันสังคมไทย แม้กระทั่งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ในเวลานี้ก็ถูกโยกคลอนเสียจนน่าเป็นห่วง

แทนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยจะเป็นเหมือนแปลงบ่มเพาะกล้าพันธุ์ดีป้อนให้กับสังคม แล้วผู้บริหารสถาบันการศึกษาและครูบาอาจารย์จะช่วยกันรดน้ำพรวนดินให้กล้าพันธุ์ดีเติบใหญ่สมวัย เพื่อในอนาคตประเทศไทยจะได้มีแต่พืชพรรณที่ดีๆ แพร่ขยายแตกดอกออกผลสร้างคุณค่าต่อสรรพสัตว์และให้ร่มเงาสวยงามไปทั้งแผ่นดิน แต่หลายปีมานี้กลับกลายเป็นตรงกันข้าม

ปี 2553 ขณะที่นายณัฐวุฒิเป็นหนึ่งในแกนนำไพร่แดงที่นำฝูงชนผู้บ้าคลั่งออกตระเวนชุมนุมในสถานที่ต่างๆ จนเกิดการปั่นป่วนไปทั่ว พร้อมๆ กับยุยงให้เผาบ้านเผาเมืองด้วยวาทกรรมที่ติดหูคนที่ว่า...

“เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง”

แล้วเหตุการณ์ก็จบลงด้วยเกิดการเผาบ้านเผาเมืองอย่างโจ๋งครึ่มทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ช่วงนั้นศิษย์เก่าโรงเรียนเบจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ได้ออกมาเคลื่อนไหวและล่ารายชื่อต่อต้านการกระทำดังกล่าว พร้อมกับมีป้ายผ้าขนาดยาวเหยียดเขียนข้อความด้วยลายมือไปแขวนไว้หน้าโรงเรียนว่า...

ลูกสมเด็จพ่อ ร. 5 ศิษย์พ่อท่านม่วง-เบญจมฯ นครฯ ขอ “อัปเปหิ” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกจากสายสัมพันธ์แห่งเลือดขาว-แดง นับแต่บัดนี้

ตอนนั้น อ.สุจินต์ พิมพ์เสน อดีต ผอ.หลายโรงเรียนรวมถึงโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ผู้เป็นกำลังสำคัญปลุกปั้นให้มีชื่อเสียงบนเวทีโต้คารมมัธยมศึกษา ต่อมาได้ไต่เต้าเป็นซุปตาร์สภาโจ๊ก ซึ่งก็รักนายณัฐวุฒิเหมือนลูก ได้บอกกับลูกศิษย์รักว่า ...

“ณัฐวุฒิ หยุดเถอะลูก”

แต่คำตอบกลับที่ผู้มีพระคุณได้รับคือ...

“อาจารย์เคยเห็นเงินร้อยล้านหรือเปล่า ผมเคยเห็นและจับต้องได้ด้วย”

ปี 2555 พลันที่นายณัฐวุฒิได้แปลงโฉมจากไพร่เป็นอำมาตย์ บริเวณหน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช กลับปรากฏป้ายไวนิลขนาดความยาวราว 50 เมตร สูงกว่า 2 เมตร พิมพ์สี่สีอย่างดีมีทั้งภาพและข้อความว่า...

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ขอแสดงความยินดีกับ ฯพณฯ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เป็นห้วงอารมณ์ที่แตกต่างกันราวสุดปลายฟ้ากับก้นเหวลึก แม้ศิษย์เก่าสถาบันแห่งนี้จำนวนมากจะยังรู้สึกนึกคิดเหมือนเดิม คือ นอกจากจะไม่เห็นด้วยที่ศิษย์โจกแดงสันดานไพร่นำคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง และด่ากราดผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองชนิดกระทบไปยังเบื้องสูง แต่เรื่องราววุ่นวายนอกจากจะยากจบแล้ว ยังกลับมีแนวโน้มบานปลายขยายวงเสียด้วย

การขึ้นป้ายป้อยอหน้าโรงเรียนทำให้เป็นที่ขุ่นข้องหมองใจของชาวนครฯ และคนใต้จำนวนมาก โดยเฉพาะศิษย์เก่านัดรวมตัวเคลื่อนไหวกันแล้ว แต่แทนที่ป้ายเจ้าปัญหาจะถูกปลด กลับมีแก๊งเสื้อแดงนำป้ายในลักษณะเดียวกันไปติดเพิ่มทั้งบริเวณหน้าโรงเรียนและที่อื่นๆ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีข่าวว่าผู้ใหญ่ในวงการศึกษาของพื้นที่บางคนรับบัญชาจากนักการเมือง สั่งการไม่ให้ผู้บริหารโรงเรียนปลดป้ายออก ซึ่งก็ต้องจับตากันใกล้ชิดต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา

สำหรับนายณัฐวุฒิหรือไอ้เต้นของเพื่อนๆ เกิดเมื่อ 4 มิถุนายน 2518 ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เป็นบุตรคนสุดท้องของนายสำเนา-นางปรียา มีพี่ชายคือ นายเจตนันท์ มีปู่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.ป่าระกำ อ.ปากพนังชื่อ นายเปี่ยม และมีตาเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านเช่นกันที่ ม.8 ต.สิชล อ.สิชล ชื่อ นายชอบ นาคแก้ว

จบประถมที่โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ มัธยมที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ จากนิด้า สมรสกับนางสิริสกุล ใสสะอาด หรือน้องแก้ม มีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ ด.ช.นปก (นะ-ปก) แม้จะแปลว่าฟ้าคุ้มครอง แต่ที่จริงมาจากชื่อย่อ นปก.ที่คนส่วนมากมักให้นิยามว่า นรกป่วนกรุง แต่ที่จริงมาจากคำว่าแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ที่ตอนหลังเปลี่ยนเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.) และมีบุตรสาวอีกคนชื่อ ด.ญ.ชาดอาภรณ์ แปลตรงตัวว่า เสื้อแดง

แม้วันนี้จะนั่งเป็นเสนาบดีและมีภาพลักษณ์ของอำมาตย์เต็มตัวแล้ว แต่นายณัฐวุฒิยังยืนยันว่าเป็นคนเดิม ซึ่งเข้าใจเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากยังคงเป็นโจกแดง ไพร่ตัวพ่อ และแกนนำ นปช.ที่พร้อมจะแดงทั้งแผ่นดิน และเชื่อว่าคนเกือบทั้งประเทศยังมั่นใจว่าความเป็น “แดงไพร่” ที่ยากจะแปรเปลี่ยน

เมื่อได้เห็นภาพนายณัฐวุฒิเข้าเฝ้าฯ ในหลวงเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้ผมนึกถึง “บันทึกเสด็จเตี่ย” ขึ้นมาทันที และเชื่อว่าหลายคนก็คิดไม่ต่าง โดยเฉพาะคนใต้ด้วยแล้ว ที่ว่า...

“เจอบันทึกนี้ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรู้ว่า กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยมหาราช ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้บรรพบุรุษได้เอาเลือดเอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้ อี มันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤๅกระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตร ให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่า อาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาผืนแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น