00 ในที่สุดก็มีการยืนยันจากเจ้าตัวคือ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เรียกว่าคนสนิท ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะมานั่งเก้าอี้ เลขาฯมท.1 ของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ แทน อารีย์ ไกรนารา ความหมายก็คือมาเป็นรมต.น้อย หรือเป็น รมต.ตัวจริงนั่นแหละ และความหมายของคนสนิท สำหรับ ผดุงแล้วก็คือ “คนรับใช้” ที่ซื่อสัตย์ต่อแม้วนั่นเอง
00 เมื่อบวกเก้าอี้ของผดุงเข้าไปอีกคนหนึ่งที่มหาดไทย ก็ถือว่าครบเครื่องหลังจาก ได้ส่งเพื่อนสนิทอย่าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต มาคุมกลาโหม ส่ง อารักษ์ ชลธาร์นนท์ จากไทยคมฯมาเป็น รมว.พลังงาน ต่ออายุให้ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็น รมว.ต่างประเทศ อ้อลืมไปให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเป็น นายกฯนกแก้ว เมื่อเป็นแบบนี้ประเทศไทยก็กลายสภาพเป็นบริษัทของ ทักษิณ เรียบร้อยแล้ว พี่น้องเอ๋ย เวรกรรม !!
00 แถลงยืนยันจากปากของ นลินี ทวีสิน เจ้าตัวเองไปแล้วว่าไม่ลาออกจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯ หลังจากถูกขึ้นบัญชีดำจากทางการสหรัฐฯฐานไปคบค้าทำธุรกิจกับ “ทรราชย์มูกาเบ้” แห่งซิมบับเว เถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือถูกห้ามเข้าประเทศ เพียงแค่เรียกว่า “แซงชั่น” ห้ามทำธุรกรรมทางการค้ากับสหรัฐและนักธุรกิจของสหรัฐเท่านั้น เออ เอากับหล่อนสิ ก็ไม่ว่ากันจะเดินหน้าดันทุรัง ตะแบงแบบศรีธนญชัย กันต่อไป โดยไม่แคร์ความรู้สึกของสังคมกันไปเรื่อยๆก็เอา จะชูคอหน้าด้านกันแบบ “สะสมแต้ม” ไปเรื่อยๆก็เชิญ
00 แม้ว่าหากจะพิจารณากันเฉพาะกม.ภายในก็ไม่ผิดหรอกที่อ้างว่าไม่ขัดกับ รธน.ในเรื่องคุณสมบัติ แต่ขณะเดียวกันในเรื่องของความสง่างาม ภาพลักษณ์ของคนที่เป็น รมต.โดยเฉพาะภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ และผลกระทบต่อประเทศ แม้ว่าเราจะบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องไปสนใจสหรัฐฯ เพราะ “ไม่ใช่พ่อ” อย่างที่ ทักษิณ ชินวัตร ชอบใช้คำนี้เมื่อไม่ถูกใจอะไร แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่าเรายังต้องพึ่งพาเขาอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องการลงทุน เพราะเมื่อถูกขึ้นบัญชีห้ามคบค้า ห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจด้วย ซึ่งทำให้น่ากังวลว่ามีผลเกี่ยวเนื่องไปถึงรัฐบาลแค่ไหน แต่ทำเอา “เกร็ง”ไปตามๆกัน และงานนี้ก็ “ไม่ใช่ข่าวลือ” แต่เป็นการยืนยันซ้ำออกมาจากสถานทูตสหรัฐในประเทศไทยเสียด้วย
00 ในความเป็นจริงก็ต้องบอกว่าอนาคตของ นลินี จบแล้ว เพียงแต่ว่าเวลานี้คนในพรรคเพื่อไทย ไล่เรียงมาตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นนายกฯนกแก้ว ต่างไม่ต้องการ “เสียหน้า” ต้องการประวิงเวลาออกไปก่อน โดยเฉพาะในช่วงที่ ครม.ใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯและยังไม่ถวายสัตย์ฯ เพราะถ้าให้ออกไปตอนนี้มันก็ยิ่งเสียหาย อาจกลายเป็น “เรื่องอื่น” นั่นคือการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท เสนอทูลเกล้าฯคนที่มีมลทินขึ้นไป ด้วยเหตุนี้จึงต้องบอกว่าสำหรับเธอนั้นจบไปแล้ว อีกทั้งหากย้อนดูแบ็กกราวด์คนอย่างทักษิณที่ยึดประโยชน์มากกว่าความถูกต้อง และ “ได้ไม่คุ้มเสีย” ก็ย่อมต้อง “ตัดทิ้ง” แน่นอน เพียงแต่ว่าให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน
00 เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ต้องรอบคอบให้มากกว่านี้ ต่อไปแทนที่จะพิจารณาเฉพาะคุณสมบัติภายในประเทศแล้ว จะต้องพิจารณาไปไกลถึงต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะเลขาฯครม.อย่าง อำพน กิตติอำพน จะต้องทำการบ้านมากกว่าเดิม เดี๋ยวจะเจอรายการ “ย้อมแม้ว” ซ้ำอีก และถ้าบอกว่าคนที่สร้างภาพลักษณ์ด้วย “อินเตอร์ฯ” ก็ถูกอินเตอร์ฯย้อนศรเข้าให้อย่างจัง
00 นับจากนี้การเมืองไทยก็เริ่มร้อนแรงตามอุณหภูมิภาวะอากาศ โดยเฉพาะการเดินเครื่องแก้ รธน.ที่เป็นภารกิจหลักของ แม้ว ซึ่งเท่าที่จับอาการ ความเคลื่อนไหวดูแล้วจะออกมาทุกทิศทางพร้อมๆกัน ทั้งมาในแบบข้อเสนอของ คอ.นธ.ภายใต้ไอเดียของ “นิติบริกรคนใหม่” อย่าง อุกฤษ มงคลนาวิน ที่ให้ตั้งคณะกรรมการจำนวน 30-40 คนมารวบรัดยกร่าง การล่าชื่อเสื้อแดงเสนอแก้ไข รวมไปถึงการใช้ ส.ส.แก้ไข ม.291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ยกร่าง ซึ่งนาทีนี้เป็นได้ทั้งนั้น แต่ถ้าให้เดาต้องทำให้เร็วที่สุด รอไม่ได้อีกแล้ว เพราะผลงานของรัฐบาลน้องสาวตัวเอง มีแนวโน้มนับวัน “ยิ่งเละ” น้ำมันแพง ข้าวของแพง แม้แต่พวกเดียวกันก็ทนไม่ไหว ดังนั้นต้องรีบทำให้เสร็จโดยไวแบบเสี่ยงเป็น เสี่ยงกัน !!
00 เมื่อบวกเก้าอี้ของผดุงเข้าไปอีกคนหนึ่งที่มหาดไทย ก็ถือว่าครบเครื่องหลังจาก ได้ส่งเพื่อนสนิทอย่าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต มาคุมกลาโหม ส่ง อารักษ์ ชลธาร์นนท์ จากไทยคมฯมาเป็น รมว.พลังงาน ต่ออายุให้ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็น รมว.ต่างประเทศ อ้อลืมไปให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเป็น นายกฯนกแก้ว เมื่อเป็นแบบนี้ประเทศไทยก็กลายสภาพเป็นบริษัทของ ทักษิณ เรียบร้อยแล้ว พี่น้องเอ๋ย เวรกรรม !!
00 แถลงยืนยันจากปากของ นลินี ทวีสิน เจ้าตัวเองไปแล้วว่าไม่ลาออกจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯ หลังจากถูกขึ้นบัญชีดำจากทางการสหรัฐฯฐานไปคบค้าทำธุรกิจกับ “ทรราชย์มูกาเบ้” แห่งซิมบับเว เถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือถูกห้ามเข้าประเทศ เพียงแค่เรียกว่า “แซงชั่น” ห้ามทำธุรกรรมทางการค้ากับสหรัฐและนักธุรกิจของสหรัฐเท่านั้น เออ เอากับหล่อนสิ ก็ไม่ว่ากันจะเดินหน้าดันทุรัง ตะแบงแบบศรีธนญชัย กันต่อไป โดยไม่แคร์ความรู้สึกของสังคมกันไปเรื่อยๆก็เอา จะชูคอหน้าด้านกันแบบ “สะสมแต้ม” ไปเรื่อยๆก็เชิญ
00 แม้ว่าหากจะพิจารณากันเฉพาะกม.ภายในก็ไม่ผิดหรอกที่อ้างว่าไม่ขัดกับ รธน.ในเรื่องคุณสมบัติ แต่ขณะเดียวกันในเรื่องของความสง่างาม ภาพลักษณ์ของคนที่เป็น รมต.โดยเฉพาะภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ และผลกระทบต่อประเทศ แม้ว่าเราจะบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องไปสนใจสหรัฐฯ เพราะ “ไม่ใช่พ่อ” อย่างที่ ทักษิณ ชินวัตร ชอบใช้คำนี้เมื่อไม่ถูกใจอะไร แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่าเรายังต้องพึ่งพาเขาอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องการลงทุน เพราะเมื่อถูกขึ้นบัญชีห้ามคบค้า ห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจด้วย ซึ่งทำให้น่ากังวลว่ามีผลเกี่ยวเนื่องไปถึงรัฐบาลแค่ไหน แต่ทำเอา “เกร็ง”ไปตามๆกัน และงานนี้ก็ “ไม่ใช่ข่าวลือ” แต่เป็นการยืนยันซ้ำออกมาจากสถานทูตสหรัฐในประเทศไทยเสียด้วย
00 ในความเป็นจริงก็ต้องบอกว่าอนาคตของ นลินี จบแล้ว เพียงแต่ว่าเวลานี้คนในพรรคเพื่อไทย ไล่เรียงมาตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นนายกฯนกแก้ว ต่างไม่ต้องการ “เสียหน้า” ต้องการประวิงเวลาออกไปก่อน โดยเฉพาะในช่วงที่ ครม.ใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯและยังไม่ถวายสัตย์ฯ เพราะถ้าให้ออกไปตอนนี้มันก็ยิ่งเสียหาย อาจกลายเป็น “เรื่องอื่น” นั่นคือการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท เสนอทูลเกล้าฯคนที่มีมลทินขึ้นไป ด้วยเหตุนี้จึงต้องบอกว่าสำหรับเธอนั้นจบไปแล้ว อีกทั้งหากย้อนดูแบ็กกราวด์คนอย่างทักษิณที่ยึดประโยชน์มากกว่าความถูกต้อง และ “ได้ไม่คุ้มเสีย” ก็ย่อมต้อง “ตัดทิ้ง” แน่นอน เพียงแต่ว่าให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน
00 เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ต้องรอบคอบให้มากกว่านี้ ต่อไปแทนที่จะพิจารณาเฉพาะคุณสมบัติภายในประเทศแล้ว จะต้องพิจารณาไปไกลถึงต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะเลขาฯครม.อย่าง อำพน กิตติอำพน จะต้องทำการบ้านมากกว่าเดิม เดี๋ยวจะเจอรายการ “ย้อมแม้ว” ซ้ำอีก และถ้าบอกว่าคนที่สร้างภาพลักษณ์ด้วย “อินเตอร์ฯ” ก็ถูกอินเตอร์ฯย้อนศรเข้าให้อย่างจัง
00 นับจากนี้การเมืองไทยก็เริ่มร้อนแรงตามอุณหภูมิภาวะอากาศ โดยเฉพาะการเดินเครื่องแก้ รธน.ที่เป็นภารกิจหลักของ แม้ว ซึ่งเท่าที่จับอาการ ความเคลื่อนไหวดูแล้วจะออกมาทุกทิศทางพร้อมๆกัน ทั้งมาในแบบข้อเสนอของ คอ.นธ.ภายใต้ไอเดียของ “นิติบริกรคนใหม่” อย่าง อุกฤษ มงคลนาวิน ที่ให้ตั้งคณะกรรมการจำนวน 30-40 คนมารวบรัดยกร่าง การล่าชื่อเสื้อแดงเสนอแก้ไข รวมไปถึงการใช้ ส.ส.แก้ไข ม.291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ยกร่าง ซึ่งนาทีนี้เป็นได้ทั้งนั้น แต่ถ้าให้เดาต้องทำให้เร็วที่สุด รอไม่ได้อีกแล้ว เพราะผลงานของรัฐบาลน้องสาวตัวเอง มีแนวโน้มนับวัน “ยิ่งเละ” น้ำมันแพง ข้าวของแพง แม้แต่พวกเดียวกันก็ทนไม่ไหว ดังนั้นต้องรีบทำให้เสร็จโดยไวแบบเสี่ยงเป็น เสี่ยงกัน !!
