“จักรพันธุ์”โต้โปร่งใสนั่งแท่นรองประธานบอร์ด อสมท ตัดสิทธิ์ “แมกซิม่า” ทุกกรณีหากเข้ามาเอี่ยวในอสมท ดึงลูกสาวช่วยงานเป็นเลขาส่วนตัว เผยแผนดันช่อง9แกร่งด้านข่าว คาดเม.ย.นี้ ยลโฉมรูปแบบใหม่ได้
นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะที่แผนพัฒนารายการข่าวได้ร่างเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมนำเสนอในที่ประชุมบอร์ดวันที่ 24 ม.ค.นี้แน่นอน โดยเบื้องต้นของแผนครั้งนี้นั้น จะมุ่งเน้นปรับวิธีการนำเสนอข่าวให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มด้วยการเปลี่ยนฉากวิดีโอวอลล์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก โดยยังคงเป็นการเช่าจากบริษัทเดิมอยู่ ในราคา 5 ล้านบาทต่อปี หรือทั้งปี 60 ล้านบาท จากเดิมที่มีการเช่าใช้อยู่ที่เดือนละ 2 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายครั้งนี้ เรามีแผนที่จะไม่ใช้เงินจากองค์กร แต่จะมาจากสปอนเซอร์รายการเป็นหลัก ตั้งเป้าที่ 4-5 ราย ขณะนี้มีผู้ที่สนใจแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ยังเตรียมเช่าเฮลิคอปเตอร์เสริมทัพในการนำเสนอข่าวอีกส่วนหนึ่งด้วย ที่สำคัญทางด้านบุคคลากรต้องสร้างให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 60 ทีม ทีมละ 2-3 คน ทางฝ่ายข่าวได้ขอเพิ่มอีก 45 อัตราในลักษณะอัตราจ้างเพิ่มเข้ามาเสริมทัพข่าวครั้งนี้ โดยมองว่าเรายังขาดในส่วนของโปรดิวเซอร์ข่าวและครีเอทีฟด้านข่าว ซึ่งจะช่วยให้การนำเสนอข่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ทั้งนี้มองว่าในแง่ของเวลาข่าว ปัจจุบันถือว่าเพียงพอแล้ว การนำเสนอข่าวก็ถือว่าอยู่ในเกนฑ์ที่ดี เพียงแต่เรายังขาดในเรื่องของการนำเสนอให้มีความน่าสนใจเท่านั้น แผนพัฒนารายการข่าวครั้งนี้ จึงเป็นแผนที่จะเข้ามาช่วยให้ข่าวมีความน่าสนใจมากขึ้น ภายใต้การนำเสนอข่าวที่เป็นกลาง เชื่อว่าหากทางที่ประชุบอร์ดไม่มีปัญหาอันใด และอนุมัติให้ดำเนินงานตามแผนนี้แล้ว ภายในเดือนเม.ย.ก็จะได้เห็นรูปโฉมใหม่ของการนำเสนอข่าวจาก อสมท มั่นใจว่าจะทำให้เรามีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว พร้อมนำพากำไรรวมขององค์กร ในปีนี้สู่ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1,600 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม นายจักรพันธุ์ ได้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับ บริษัท แมกซิมา สตูดิโอ จำกัด ด้วยว่า เดิมตนเป็นแค่ลูกจ้างของแมกซิมา ซึ่งบริษัทนี้เป็นของน้องชาย และตนและได้ลาออกมาแล้ว เพื่อเข้ามาทำหน้าที่รองประธานบอร์ด อสมท อย่างโปร่งใส ดังนั้นมั่นใจได้ว่า ในระหว่างที่ตนยังนั่งทำงานที่นี่อยู่ จะไม่มีรายชื่อ แมกซิมา เข้ามาร่วมงานกับ อสมท แน่นอน ถ้ามีก็จะมีการตัดสิทธิ์ออกเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาตามมา ที่สำคัญตนมีความใฝ่ฝันสูงสุดที่จะเข้ามาร่วมบริหารช่องรายการโทรทัศน์ ดังนั้นโอกาสการทำงานในครั้งนี้ ตนจะทำให้ดีที่สุด ที่สำคัญยังได้ดึงลูกสาวเข้ามาช่วยงานด้วย โดยทำหน้าที่เป็นเลขาตน เนื่องจากลูกสาวได้ศึกษามาทางด้านนี้โดยตรง และตนเป็นผู้ให้เงินเดือนเอง ไม่เกี่ยวกับ อสมท แต่อย่างใด
นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะที่แผนพัฒนารายการข่าวได้ร่างเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมนำเสนอในที่ประชุมบอร์ดวันที่ 24 ม.ค.นี้แน่นอน โดยเบื้องต้นของแผนครั้งนี้นั้น จะมุ่งเน้นปรับวิธีการนำเสนอข่าวให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มด้วยการเปลี่ยนฉากวิดีโอวอลล์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก โดยยังคงเป็นการเช่าจากบริษัทเดิมอยู่ ในราคา 5 ล้านบาทต่อปี หรือทั้งปี 60 ล้านบาท จากเดิมที่มีการเช่าใช้อยู่ที่เดือนละ 2 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายครั้งนี้ เรามีแผนที่จะไม่ใช้เงินจากองค์กร แต่จะมาจากสปอนเซอร์รายการเป็นหลัก ตั้งเป้าที่ 4-5 ราย ขณะนี้มีผู้ที่สนใจแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ยังเตรียมเช่าเฮลิคอปเตอร์เสริมทัพในการนำเสนอข่าวอีกส่วนหนึ่งด้วย ที่สำคัญทางด้านบุคคลากรต้องสร้างให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 60 ทีม ทีมละ 2-3 คน ทางฝ่ายข่าวได้ขอเพิ่มอีก 45 อัตราในลักษณะอัตราจ้างเพิ่มเข้ามาเสริมทัพข่าวครั้งนี้ โดยมองว่าเรายังขาดในส่วนของโปรดิวเซอร์ข่าวและครีเอทีฟด้านข่าว ซึ่งจะช่วยให้การนำเสนอข่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ทั้งนี้มองว่าในแง่ของเวลาข่าว ปัจจุบันถือว่าเพียงพอแล้ว การนำเสนอข่าวก็ถือว่าอยู่ในเกนฑ์ที่ดี เพียงแต่เรายังขาดในเรื่องของการนำเสนอให้มีความน่าสนใจเท่านั้น แผนพัฒนารายการข่าวครั้งนี้ จึงเป็นแผนที่จะเข้ามาช่วยให้ข่าวมีความน่าสนใจมากขึ้น ภายใต้การนำเสนอข่าวที่เป็นกลาง เชื่อว่าหากทางที่ประชุบอร์ดไม่มีปัญหาอันใด และอนุมัติให้ดำเนินงานตามแผนนี้แล้ว ภายในเดือนเม.ย.ก็จะได้เห็นรูปโฉมใหม่ของการนำเสนอข่าวจาก อสมท มั่นใจว่าจะทำให้เรามีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว พร้อมนำพากำไรรวมขององค์กร ในปีนี้สู่ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1,600 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม นายจักรพันธุ์ ได้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับ บริษัท แมกซิมา สตูดิโอ จำกัด ด้วยว่า เดิมตนเป็นแค่ลูกจ้างของแมกซิมา ซึ่งบริษัทนี้เป็นของน้องชาย และตนและได้ลาออกมาแล้ว เพื่อเข้ามาทำหน้าที่รองประธานบอร์ด อสมท อย่างโปร่งใส ดังนั้นมั่นใจได้ว่า ในระหว่างที่ตนยังนั่งทำงานที่นี่อยู่ จะไม่มีรายชื่อ แมกซิมา เข้ามาร่วมงานกับ อสมท แน่นอน ถ้ามีก็จะมีการตัดสิทธิ์ออกเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาตามมา ที่สำคัญตนมีความใฝ่ฝันสูงสุดที่จะเข้ามาร่วมบริหารช่องรายการโทรทัศน์ ดังนั้นโอกาสการทำงานในครั้งนี้ ตนจะทำให้ดีที่สุด ที่สำคัญยังได้ดึงลูกสาวเข้ามาช่วยงานด้วย โดยทำหน้าที่เป็นเลขาตน เนื่องจากลูกสาวได้ศึกษามาทางด้านนี้โดยตรง และตนเป็นผู้ให้เงินเดือนเอง ไม่เกี่ยวกับ อสมท แต่อย่างใด