ASTVผู้จัดการรายวัน - เจ้าสัวซีพีหนุนขึ้นเงินเดือนข้าราชการและปริญญาตรีเป็น 2.2 หมื่นบาท ค่าแรงขั้นต่ำ 500 บาท อ้างดันเศรษฐกิจโต
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ( ซีพี ) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง" 35 ปีหนองหว้ากับการพัฒนาที่ยั่งยืน " เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า เกษตรกรประเทศไทยยังยากจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาล และนักการเมืองมากกว่า 90 % ไม่รู้จักและเข้าใจเกษตรกรอย่างแท้จริง จึงดำเนินนโยบายทางการเกษตรที่ไม่ได้คำนึงถึงเกษตรกร ดังนั้น รัฐบาลน่าจะหันมาส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างถูกต้อง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการตลาด จะทำให้เกษตรกรร่ำรวยขึ้น เพราะในอนาคตแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรมีแต่จะสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชากรมีรายได้สูงขึ้นด้วย
ส่วนนโยบายการเพิ่มค่าแรงว่า ควรให้การสนับสนุนเพราะจะมีส่วนให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น โดยค่าแรงขั้นต่ำควรอยู่ที่ 500 บาท ไม่ใช่ 300 บาท ที่เป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าแรงและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 47 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในรอบ 47 ปี ราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 3-6 เท่าตัว เทียบกับราคาพลังงานปรับขึ้นไปถึง 25 เท่าตัว ทำให้รายได้ประชากรนั้นยังต่ำ ส่วนเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำก็ควรปรับอยู่ที่ 22,000 บาทต่อเดือน
"การปรับค่าแรงและเงินเดือนข้าราชการ ควรปรับเพิ่มขึ้นตามนโยบายที่มี ซึ่งค่าแรงควรเพิ่มเป็น 500 บาทต่อวัน ขณะที่เงินเดือนข้าราชการขั้นต่ำควรจะปรับขึ้นที่ 2.2-2.3 หมื่นบาท จากที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 1.5 หมื่นบาท รวมถึงควรสนับสนุนธุรกิจขนากลาง-เล็กด้วย ซึ่งมีหลายบริษัทที่มีศักยภาพและสามารถพัฒนาได้" นายธนินท์กล่าวและว่า บรรยากาศการลงทุนในประเทศไทย ว่านักลงทุนต่างประเทศ ที่เตรียมขยายการลงทุนในประเทศไทย ต่างชะลอการลงทุน โดยจับตาการเมือง หากการเมืองนิ่ง ก็จะขยายการลงทุน แต่หากการเมืองไม่นิ่งมีโอกาสที่นักลงทุนจะย้ายฐานหรือไปลงทุนที่อินโดนีเซียแทนประเทศไทย โดยเฉพาะนักลงทุน จีน ญี่ปุ่น และประเทศอินเดีย.
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ( ซีพี ) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง" 35 ปีหนองหว้ากับการพัฒนาที่ยั่งยืน " เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า เกษตรกรประเทศไทยยังยากจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาล และนักการเมืองมากกว่า 90 % ไม่รู้จักและเข้าใจเกษตรกรอย่างแท้จริง จึงดำเนินนโยบายทางการเกษตรที่ไม่ได้คำนึงถึงเกษตรกร ดังนั้น รัฐบาลน่าจะหันมาส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างถูกต้อง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการตลาด จะทำให้เกษตรกรร่ำรวยขึ้น เพราะในอนาคตแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรมีแต่จะสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชากรมีรายได้สูงขึ้นด้วย
ส่วนนโยบายการเพิ่มค่าแรงว่า ควรให้การสนับสนุนเพราะจะมีส่วนให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น โดยค่าแรงขั้นต่ำควรอยู่ที่ 500 บาท ไม่ใช่ 300 บาท ที่เป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าแรงและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 47 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในรอบ 47 ปี ราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 3-6 เท่าตัว เทียบกับราคาพลังงานปรับขึ้นไปถึง 25 เท่าตัว ทำให้รายได้ประชากรนั้นยังต่ำ ส่วนเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำก็ควรปรับอยู่ที่ 22,000 บาทต่อเดือน
"การปรับค่าแรงและเงินเดือนข้าราชการ ควรปรับเพิ่มขึ้นตามนโยบายที่มี ซึ่งค่าแรงควรเพิ่มเป็น 500 บาทต่อวัน ขณะที่เงินเดือนข้าราชการขั้นต่ำควรจะปรับขึ้นที่ 2.2-2.3 หมื่นบาท จากที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 1.5 หมื่นบาท รวมถึงควรสนับสนุนธุรกิจขนากลาง-เล็กด้วย ซึ่งมีหลายบริษัทที่มีศักยภาพและสามารถพัฒนาได้" นายธนินท์กล่าวและว่า บรรยากาศการลงทุนในประเทศไทย ว่านักลงทุนต่างประเทศ ที่เตรียมขยายการลงทุนในประเทศไทย ต่างชะลอการลงทุน โดยจับตาการเมือง หากการเมืองนิ่ง ก็จะขยายการลงทุน แต่หากการเมืองไม่นิ่งมีโอกาสที่นักลงทุนจะย้ายฐานหรือไปลงทุนที่อินโดนีเซียแทนประเทศไทย โดยเฉพาะนักลงทุน จีน ญี่ปุ่น และประเทศอินเดีย.
