นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR แจงเหตุการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ของบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด (บริษัทย่อย) และถูกธนาคารฟ้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดโดยมียอดคงค้างตามบัญชี ณ วันที่ 30 ก.ย. 54 จำนวน 1,253.11 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกันมาหลายปีจนทำให้เอกรัฐโซล่าร์มีผลขาดทุนเกินทุน ณ วันที่ 30 ก.ย. 54 จำนวน 559.97 ล้านบาท มีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน 1,468.82 ล้านบาท และเมื่อ 26 พ.ค. 54 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดี แต่บริษัทไม่ได้เข้าฟังคำพิพากษาอยู่ระหว่างรอรับทราบผลคดีจากศาลปัจจุบันที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารและผู้สนใจร่วมทุน
โดยการดำเนินงานต่อไปของเอกรัฐโซล่าร์ขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการหาผู้ร่วมลงทุนและการเจรจากับธนาคารและผลสิ้นสุดของคดี ซึ่ง งบการเงินเอกรัฐโซล่าร์ ได้จัดทำขึ้นตามข้อสมมติฐานว่าจะยังคงดำเนินงานต่อเนื่องจึงยังมิได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ในราคาที่อาจจำหน่ายได้และปรับปรุงหนี้สินตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนและจัดประเภทบัญชีใหม่ซึ่งอาจจำเป็นถ้าเอกรัฐโซล่าร์ไม่สามารถดำเนินงานต่อเนื่องต่อไปนั้นและเมื่อ 28 พ.ย.54 บริษัทได้แจ้งคำพิพากษาในคดีดังกล่าวบริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่ม ดังนี้
1. เหตุที่AKR และเอกรัฐโซล่าร์ ผิดนัดชำระหนี้ จนทำให้ถูกธนาคารฟ้องให้ชำระหนี้ทั้งหมด และต่อมาศาลพิพากษาให้ร่วมกันชำระหนี้ภายใน30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำพิพากษา เพราะเอกรัฐโซล่าร์ ซึ่งถือหุ้นโดย AKR 99.99 % ได้ทำการกู้ยืมเงินจากธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์แต่เนื่องจากความล่าช้าในการนำหลักทรัพย์ของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยจึงทำให้ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้คืนให้แก่ธนาคารตามเงื่อนไข
ใน 9 มิ.ย. 52 AKR และ เอกรัฐโซล่าร์ ได้รับสำเนาคำฟ้องจากศาล ลงวันที่ 3 มิ.ย. 52 จึงได้เร่งดำเนินการหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวโดย 26 ต.ค. 53 AKR ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับ Devonshire Capital (HK) Limited และบริษัท อินฟินิตี้ โซล่าร์ จำกัดซึ่งต่อมา 6 มี.ค. 54 นักลงทุนทั้งสองไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาร่วมทุนสัญญาร่วมทุนจึง ถูกยกเลิกไป ณ ปัจจุบัน บริษัทและ เอกรัฐโซล่าร์ ยังคงดำเนินงานตามปกติ และยังมิได้จ่ายคืนเงินกู้คืนแก่ ธนาคาร แต่ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสรรหาพันธมิตรและบริษัทได้ดำเนินการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับทางธนาคาร ซึ่งคาดว่า ณะที่ที่ปรึกษาทางการเงินดำเนินการสรรหาพันธมิตรและบริษัทยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารธนาคารจะยังไม่ดำเนินการบังคับคดีกับทางบริษัทและ เอกรัฐโซล่าร์ จนกว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องของพันธมิตรหรือข้อสรุปจากการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
2. ตามที่ผู้สอบบัญชีได้ให้ข้อสังเกตว่างบการเงินของ เอกรัฐโซล่าร์ ยังไม่ได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ในราคาที่อาจจำหน่ายได้ และปรับปรุงหนี้สินตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนซึ่งอาจจำเป็นถ้า เอกรัฐโซล่าร์ ไม่สามารถดำเนินงานต่อเนื่องต่อไป เพราะปัจจุบันยังคงดำเนินกิจการอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินการแต่ผลขาดทุนสุทธิเกิดขึ้นเนื่องจากกำไรขั้นต้นไม่สามารถชดเชยค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ได้ซึ่งในปี 55 มีเป้าหมายในการเร่งรัดยอดขายให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายคงที่
โดยอดีต เอกรัฐโซล่าร์ มีช่องทางการตลาดอยู่ในประเทศแถบยุโรป แต่จากสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้ประเทศในแถบยุโรปมีกำลังการซื้อที่ลดลงบริษัทย่อยจึงมุ่งเน้นทำการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งมีกำลังการซื้อที่ค่อนข้างสูง และมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนขนส่งและคุณภาพของสินค้าซึ่งหากสามารถเพิ่มรายได้จากการขายสินค้าได้เพียงพอก็จะชดเชยต้นทุนคงที่ได้และไม่เกิดผลขาดทุนขึ้น ส่วนผลกระทบที่มีต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทในงบการเงินรวม นั้นเป็นการปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ในราคาที่อาจจำหน่ายได้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อบริษัทมีการจำหน่ายเงินลงทุนใน เอกรัฐโซล่าร์ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ยังคงดำเนินการอยู่ ดังนั้นการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายดังกล่าวจึงยังไม่เกิดขึ้น และการปรับปรุงหนี้สินตามกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ได้ตั้งสำรองมูลหนี้ต่างๆ ไปแล้วทั้งจำนวน จึงคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในงบการเงินรวมแต่อย่างใด
3. ชี้แจงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรณีที่บริษัทต้องชำระหนี้ตามคำสั่งศาลฯ และแนวทางดำเนินการเพื่อมิให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งวางแนวทางไว้ 2 แนวทางคือการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนใน เอกรัฐโซล่าร์ ซึ่งบริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนอีกแนวทางคือได้ดำเนินการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับทางธนาคาร และขณะนี้แผนการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาของธนาคาร ซึ่งทั้ง 2 แนวทาง คาดว่าจะทำให้ปัญหาของเอกรัฐโซล่าร์ สามารถแก้ไขลุล่วงไตรมาสแรกปี 55 นี้
โดยการดำเนินงานต่อไปของเอกรัฐโซล่าร์ขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการหาผู้ร่วมลงทุนและการเจรจากับธนาคารและผลสิ้นสุดของคดี ซึ่ง งบการเงินเอกรัฐโซล่าร์ ได้จัดทำขึ้นตามข้อสมมติฐานว่าจะยังคงดำเนินงานต่อเนื่องจึงยังมิได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ในราคาที่อาจจำหน่ายได้และปรับปรุงหนี้สินตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนและจัดประเภทบัญชีใหม่ซึ่งอาจจำเป็นถ้าเอกรัฐโซล่าร์ไม่สามารถดำเนินงานต่อเนื่องต่อไปนั้นและเมื่อ 28 พ.ย.54 บริษัทได้แจ้งคำพิพากษาในคดีดังกล่าวบริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่ม ดังนี้
1. เหตุที่AKR และเอกรัฐโซล่าร์ ผิดนัดชำระหนี้ จนทำให้ถูกธนาคารฟ้องให้ชำระหนี้ทั้งหมด และต่อมาศาลพิพากษาให้ร่วมกันชำระหนี้ภายใน30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำพิพากษา เพราะเอกรัฐโซล่าร์ ซึ่งถือหุ้นโดย AKR 99.99 % ได้ทำการกู้ยืมเงินจากธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์แต่เนื่องจากความล่าช้าในการนำหลักทรัพย์ของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยจึงทำให้ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้คืนให้แก่ธนาคารตามเงื่อนไข
ใน 9 มิ.ย. 52 AKR และ เอกรัฐโซล่าร์ ได้รับสำเนาคำฟ้องจากศาล ลงวันที่ 3 มิ.ย. 52 จึงได้เร่งดำเนินการหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวโดย 26 ต.ค. 53 AKR ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับ Devonshire Capital (HK) Limited และบริษัท อินฟินิตี้ โซล่าร์ จำกัดซึ่งต่อมา 6 มี.ค. 54 นักลงทุนทั้งสองไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาร่วมทุนสัญญาร่วมทุนจึง ถูกยกเลิกไป ณ ปัจจุบัน บริษัทและ เอกรัฐโซล่าร์ ยังคงดำเนินงานตามปกติ และยังมิได้จ่ายคืนเงินกู้คืนแก่ ธนาคาร แต่ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสรรหาพันธมิตรและบริษัทได้ดำเนินการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับทางธนาคาร ซึ่งคาดว่า ณะที่ที่ปรึกษาทางการเงินดำเนินการสรรหาพันธมิตรและบริษัทยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารธนาคารจะยังไม่ดำเนินการบังคับคดีกับทางบริษัทและ เอกรัฐโซล่าร์ จนกว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องของพันธมิตรหรือข้อสรุปจากการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
2. ตามที่ผู้สอบบัญชีได้ให้ข้อสังเกตว่างบการเงินของ เอกรัฐโซล่าร์ ยังไม่ได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ในราคาที่อาจจำหน่ายได้ และปรับปรุงหนี้สินตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนซึ่งอาจจำเป็นถ้า เอกรัฐโซล่าร์ ไม่สามารถดำเนินงานต่อเนื่องต่อไป เพราะปัจจุบันยังคงดำเนินกิจการอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินการแต่ผลขาดทุนสุทธิเกิดขึ้นเนื่องจากกำไรขั้นต้นไม่สามารถชดเชยค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ได้ซึ่งในปี 55 มีเป้าหมายในการเร่งรัดยอดขายให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายคงที่
โดยอดีต เอกรัฐโซล่าร์ มีช่องทางการตลาดอยู่ในประเทศแถบยุโรป แต่จากสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้ประเทศในแถบยุโรปมีกำลังการซื้อที่ลดลงบริษัทย่อยจึงมุ่งเน้นทำการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งมีกำลังการซื้อที่ค่อนข้างสูง และมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนขนส่งและคุณภาพของสินค้าซึ่งหากสามารถเพิ่มรายได้จากการขายสินค้าได้เพียงพอก็จะชดเชยต้นทุนคงที่ได้และไม่เกิดผลขาดทุนขึ้น ส่วนผลกระทบที่มีต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทในงบการเงินรวม นั้นเป็นการปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ในราคาที่อาจจำหน่ายได้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อบริษัทมีการจำหน่ายเงินลงทุนใน เอกรัฐโซล่าร์ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ยังคงดำเนินการอยู่ ดังนั้นการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายดังกล่าวจึงยังไม่เกิดขึ้น และการปรับปรุงหนี้สินตามกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ได้ตั้งสำรองมูลหนี้ต่างๆ ไปแล้วทั้งจำนวน จึงคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในงบการเงินรวมแต่อย่างใด
3. ชี้แจงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรณีที่บริษัทต้องชำระหนี้ตามคำสั่งศาลฯ และแนวทางดำเนินการเพื่อมิให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งวางแนวทางไว้ 2 แนวทางคือการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนใน เอกรัฐโซล่าร์ ซึ่งบริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนอีกแนวทางคือได้ดำเนินการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับทางธนาคาร และขณะนี้แผนการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาของธนาคาร ซึ่งทั้ง 2 แนวทาง คาดว่าจะทำให้ปัญหาของเอกรัฐโซล่าร์ สามารถแก้ไขลุล่วงไตรมาสแรกปี 55 นี้
