ยะลา -ครอบครัวครูที่ได้รับผลกระทบจากการก่อความไม่สงบ วอนให้เพื่อนครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าประมาท อาจตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ขณะที่ครอบครัวยังไม่ได้รับการเยียวยาจากทางราชการเลย
ร.ต.ต.เผียน ลำนุ้ย วัย 78 ปี ข้าราชการตำรวจบำนาญ และนางบุญภา ลำนุ้ย บิดา มารดา ของ ครูคณิต ลำนุ้ย อดีตครูโรงเรียนบ้านกือเม็ง ซึ่งถูกคนร้ายลอบยิงและเผา ขณะที่ขับขี่จักรยานยนต์กลับมาจากการติวเข้มนักเรียนเพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษของเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 1 ในงาน “ยะลายาลัน มหัศจรรย์เด็กใต้” เหตุเกิดบนถนนสายรามัน-มายอ บ้านสะโต หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง เสียชีวิตคาที่ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.54 ได้นำภาพถ่ายของครูคณิตที่กำลังเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จากพระหัตถ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี 2546 มาดูเพื่อคลายความคิดถึงเนื่องในวันครูแห่งชาติปีนี้ พร้อมกับน้ำตานองหน้าเมื่อถูกถามถึงครูคณิต
ร.ต.ต.เผียน ลำนุ้ย บิดาของครูคณิต เล่าว่า หลังจากที่ต้องสูญเสียลูกชายจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้น ตนและภรรยามีความเครียดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีความคิดถึงลูกอยู่ตลอดเวลา ตนนั้นปัจจุบันกลายเป็นคนเก็บกด ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เพราะไม่อยากพบปะกับใครเกรงว่าเขาจะพูดถึงลูกที่เสียชีวิต เพราะยิ่งจะทำให้ตนคิดถึงลูกมากขึ้น บางครั้งสมองจะลืมไปทุกอย่าง ไม่จำวัน ไม่จำชื่อเพื่อนบ้าน จะจำเพียงอย่างเดียวคือคิดถึงลูก
สำหรับการช่วยเหลือ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการเลย โดยเฉพาะการรับเงินจ้างรายเดือนจากการเยียวยาเดือนละ 4,500 บาท ทำให้ฐานะความเป็นอยู่เดือดร้อนมาก ตนมีลูก 3 คน คนโตเสียชีวิตไปก่อนหน้า ครูคณิตซึ่งเป็นลูกคนที่ 2 เสียชีวิตจากสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ และลูกคนที่ 3 ประกอบอาชีพส่วนตัวที่กรุงเทพมหานคร ก็ต้องอยู่กันสองคนตายาย ปัจจุบันภรรยาต้องไปรับจ้างทำงานในโรงงานไม้ยางใกล้บ้าน รับเงินค่าจ้างเพียงไม่กี่พันบาทต่อเดือน จึงขอวอนให้ทางราชการช่วยมาดูแลและให้เงินเยียวยาตามที่สิทธิ์ควรจะได้รับด้วย
ในวันครูปีนี้ ตนในฐานะที่ต้องสูญเสียลูกที่ทำหน้าที่ครูไปจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ครูทุกคนอย่าประมาท และอย่าเชื่อใจใครที่จะมารับรองความปลอดภัยให้แก่เรา มิฉะนั้นจะตกเป็นอย่างลูกของตน เพราะก่อนที่จะเสียชีวิต ตนได้เตือนลูกอย่าประมาทและให้ระวังตัวมาโดยตลอด แต่ลูกบอกว่าไม่เป็นไร จนสุดท้ายต้องเสียชีวิตไป ตนเป็นอดีตตำรวจในพื้นที่ เคยปะทะกับโจรมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ปลอดภัย เมื่อก่อนตนคิดว่าการเป็นตำรวจมีความเสี่ยงกว่าอาชีพครู แต่ในปัจจุบันครูมีความเสี่ยงไม่แพ้การเป็นตำรวจ
เช่นเดียวกับนางบุญภา มารดา กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า หลังจากสูญเสียลูกชายไปชีวิตในครอบครัวต้องเปลี่ยนไป ตนต้องหารายได้เพียงคนเดียว เนื่องจากสามีกลายเป็นคนเก็บกด เก็บตัวอยู่ในบ้าน ส่วนการช่วยเหลือจากทางราชการยังมาไม่ถึงมือครอบครัว ที่ผ่านมานำเอกสารหลักฐานไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดยะลา กว่า 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงขอวอนให้ช่วยเหลือครอบครัวโดยด่วน ในวันครูวันนี้ตนขอให้ครูทุกคนมีความปลอดภัย และเป็นครูที่ดีของนักเรียน