วานนี้ (16 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมครม.สัญจรที่ จ.เชียงใหม่ ว่า การประกาศอนุมัติงบประมาณในลักษณะนี้ เหมือนสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เวลาไปแต่ละแห่งแล้วบอกว่า ที่นี่ได้งบประมาณเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทนั้น พอไปอีกจังหวัด หรือไปอีกภาค ก็บอกแบบเดียวกัน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ที่กรอบของการจัดสรรงบประมาณอยู่ดี เพราะฉะนั้นตรงนี้จึงเป็นจุดที่ยังต้องมีการติดตามว่า แต่ละโครงการที่พูดไปแล้วนั้น มีลำดับความสำคัญ กรอบเวลาของการที่จะได้งบประมาณอยู่ที่ไหน อย่างไร บางโครงการต้องถือว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ กรณีรถไฟความเร็วสูงนั้น รัฐบาลที่แล้วก็ประกาศไปแล้วว่า เริ่มต้นกระบวนการ 4 – 5 สาย รวมทั้งกรุงเทพฯ–เชียงใหม่ด้วย ปัญหาคือ จากนี้ไปจะทำให้เกิดขึ้นจริงอย่างไร และการสานต่อโครงการต่างๆ การพัฒนาในพื้นที่ก็คงต้องดูให้เป็นระบบ
" ผมเชื่อว่าต่อจากนี้ไป จะมีการเดินทางไปจังหวัดนั้น ภาคนี้ ประกาศตัวเลขมาก ๆ ในเรื่องงบประมาณ และเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลาย แต่หลายเรื่อง ก็จะเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนที่จะมีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือ น่าจะต้องเห็นชัดเจนขึ้นว่ากรอบเวลาจริงๆ ที่จะทำโครงการ หรือถนนเส้นนั้น คืออะไร จะเสร็จเมื่อไร ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการทำตลาดไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า ส่วนเรื่องการเลือกพื้นที่ไปประชุมครม.สัญจรนั้น ต้องมีคำตอบในเชิงของภาพรวมของยุทธศาสตร์ของการพัฒนา แต่ว่าถ้าไปมุ่งในเชิงฐานเสียง หรืออะไร ก็เป็นการตอกย้ำความแตกแยกโดยไม่จำเป็น
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีครม.สัญจรถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอาใจฐานเสียงในภาคเหนือหรือไม่ โดยกล่าวว่า การประชุมครม.สัญจรจะจัดขึ้นทุกภาค ซึ่งในวันที่ 12 ก.พ. 55 จะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะจัดที่จ.อุดรธานี หรือขอนแก่น ส่วนประมาณวันที่ 18 - 20 มี.ค. 55 จะจัดขึ้นที่ภาคใต้ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะไปจัดประชุมที่จังหวัดใดต่อไป
ส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีประเด็นที่จะอนุมัติงบประมาณแค่ภาคใดภาคหนึ่งตามที่เป็นข่าว ครม.ต้องการที่จะลงพื้นที่จริง ให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่ได้อนุมัติไปแล้ว เป็นการอนุมัติเพียงหลักการ ส่วนรายละเอียดโครงการจะต้องนำเสนอต่อสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งจะอนุมัติตามลำดับความสำคัญของโครงการเพื่อเริ่มดำเนินงานอีกครั้งหนึ่ง
โดยประเด็นที่จะนำเข้าที่ประชุมครม.สัญจรจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จะเน้นในเรื่องการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเป็นหลัก ซึ่งนายกฯ ตนและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลงไปตรวจพื้นที่เอง และจะเร่งรัดไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้งหนึ่งว่า วันสุดท้ายของการจ่ายเงินเยียวยาอุกทกภัย 5,000 บาท จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ (มกราคม) จะช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว.
" ผมเชื่อว่าต่อจากนี้ไป จะมีการเดินทางไปจังหวัดนั้น ภาคนี้ ประกาศตัวเลขมาก ๆ ในเรื่องงบประมาณ และเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลาย แต่หลายเรื่อง ก็จะเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนที่จะมีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือ น่าจะต้องเห็นชัดเจนขึ้นว่ากรอบเวลาจริงๆ ที่จะทำโครงการ หรือถนนเส้นนั้น คืออะไร จะเสร็จเมื่อไร ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการทำตลาดไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า ส่วนเรื่องการเลือกพื้นที่ไปประชุมครม.สัญจรนั้น ต้องมีคำตอบในเชิงของภาพรวมของยุทธศาสตร์ของการพัฒนา แต่ว่าถ้าไปมุ่งในเชิงฐานเสียง หรืออะไร ก็เป็นการตอกย้ำความแตกแยกโดยไม่จำเป็น
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีครม.สัญจรถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอาใจฐานเสียงในภาคเหนือหรือไม่ โดยกล่าวว่า การประชุมครม.สัญจรจะจัดขึ้นทุกภาค ซึ่งในวันที่ 12 ก.พ. 55 จะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะจัดที่จ.อุดรธานี หรือขอนแก่น ส่วนประมาณวันที่ 18 - 20 มี.ค. 55 จะจัดขึ้นที่ภาคใต้ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะไปจัดประชุมที่จังหวัดใดต่อไป
ส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีประเด็นที่จะอนุมัติงบประมาณแค่ภาคใดภาคหนึ่งตามที่เป็นข่าว ครม.ต้องการที่จะลงพื้นที่จริง ให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่ได้อนุมัติไปแล้ว เป็นการอนุมัติเพียงหลักการ ส่วนรายละเอียดโครงการจะต้องนำเสนอต่อสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งจะอนุมัติตามลำดับความสำคัญของโครงการเพื่อเริ่มดำเนินงานอีกครั้งหนึ่ง
โดยประเด็นที่จะนำเข้าที่ประชุมครม.สัญจรจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จะเน้นในเรื่องการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเป็นหลัก ซึ่งนายกฯ ตนและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลงไปตรวจพื้นที่เอง และจะเร่งรัดไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้งหนึ่งว่า วันสุดท้ายของการจ่ายเงินเยียวยาอุกทกภัย 5,000 บาท จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ (มกราคม) จะช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว.
