xs
xsm
sm
md
lg

ปปช.สอบงาบถุงยังชีพ จับรองอธิบดีปภ.กับพวกขึ้นเขียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป.ป.ช.มีมติตั้งกรรมการไต่สวนคดีทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ เตรียมเรียกสอบรองอธิบดี ปภ.และผู้เกี่ยวข้องรวม 14 ราย ส่วนที่สภากระทู้ถุงยังชีพเดือด ด่ากันลั่น "หมอวรงค์" งัดหลักฐานจับโกหก "พิชัย" ตายคาสภา ตะเพิดพ้นเก้าอี้ รมว.พลังงาน ด้าน"พิชัย"แจงผู้ว่าฯยืนยันถูกปชป.บีบ ลงทุนกราบเท้าขอโทษ เครียดจัด ชี้แจงขัดแย้งกันเอง หลุด"ยงยุทธ" รู้เห็นแต่ต้น

วานนี้ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกป.ป.ช. แถลงข่าวภายหลังการประชุมถึงกรณีการไต่สวนคดีทุจริตถุงยังชีพว่า ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนโดยมีกรรมการป.ป.ช. 2 คน คือ นายประสาท พงศ์ศิวาภัย และนายภักดี โพธิศิริ เ ป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยตั้งข้อกล่าวหา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และข้าราชการปภ. และได้ไต่สวนมีหลักฐานจำนวนหนึ่งแล้ว

ต่อมาในวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งผลการสืบสวนกรณีการทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพมาให้ ป.ป.ช. พร้อมระบุว่า ข้าราชการปภ.จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย ผู้อำนวยการกอง และนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการอีก 9 คน เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ ฮั้วประมูล

นายกล้านรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อนำข้อมูลของดีเอสไอ มาพิจารณารวมกับข้อมูลหลักฐานจากการไต่สวนของคณะอนุกรรมการป.ป.ช.แล้ว กรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติให้ตั้งกรรมการไต่สวนความผิด กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วจำนวน 14 ราย โดย 10 รายเป็นข้าราชการ ที่ดีเอสไอตรวจสอบพบหลักฐานความผิด และเพิ่มเติมอีก 4 ราย ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดย 2 ราย เป็นข้าราชการระดับสูงกว่าที่ดีเอสไอตรวจสอบพบความผิด โดยเป็นข้าราชการระดับรองอธิบดี ปภ. 1 ราย และรักษาการ ผอ.สำนักอีก 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยหลังจากนี้ จะเรียกบุคคลทั้ง 14 ราย เข้ารับทราบการไต่สวนของป.ป.ช. และหากพบว่า มีบุคคลหรือหน่วยงานอื่นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจไต่สวนเพิ่มเติมได้

**"หมอวรงค์"จับผิด"พิชัย"กลางสภา

ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กระทู้สด ถามนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เรื่องการปรับขึ้นราคาพลังงานและการแจกถุงยังชีพว่า กรณีถุงยังชีพที่ รมว.พลังงาน ระบุว่า ผู้ว่าฯพิษณุโลก ถูกบังคับจากพรรคประชาธิปัตย์ และทางผู้ว่าฯ ก็ทำหนังสือยืนยันมาถึงรมว.มหาดไทยว่า พรรคประชาธิปัตย์บังคับขอถุงยังชีพ ทำไมผู้ว่าฯ ถึงรู้สึกอึดอัด แปลกว่า คนในรัฐบาลบังคับให้ออกหนังสือหรือไม่ หรือผู้ว่าฯ ออกมาเอง เพราะเกรงว่าจะถูกโยกย้าย จึงขอถามรัฐมนตรีที่เคยระบุว่าต้องการกระจายถุงยังชีพให้ทั่วถึง ตามแผนที่กำหนดไว้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ทำให้แผนผิดหมด ดังนั้นรัฐมนตรีพลังงาน มีแผนแจกถุงยังชีพ อย่างไร

นายพิชัย ชี้แจงว่า เรื่องนี้ผู้ว่าฯโทรมาบอกว่า กราบเท้าขอโทษ ผิดไปแล้ว สมควรตาย เพราะพรรคประชาธิปัตย์บังคับ เพราะฉะนั้นตนยืนยันว่า ผู้ว่าฯไม่ได้โกหก หรือเตี๊ยมกันไว้

ส่วนแผนการแจกถุงยังชีพ มีรายละเอียดชัดเจน แจกไปถึง 1.6 แสนชุด หลังจากตนชี้แจงในวันที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้เดินผ่านห้องอาหารที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านนั่งอยู่ ได้ตะโกนถามเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ตน และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ที่เดินมาด้วยกันว่า หลุดขนาดนี้เลยหรือ

นพ.วรงค์ ได้ถามต่อว่า ผู้ว่าฯไม่เคยพูดตามที่รัฐมนตรีพูด โดยวันนี้รัฐมนตรีสับสนกังวลใจ เพราะมีเอกสารฉบับหนึ่ง ลงวันที่ 22 พ.ย. 54 ที่พลังงานจังหวัดทำถึงปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ยังมีถุงยังชีพของปตท.สผ. อยู่ ทำให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เข้าพบผู้ว่าฯ ว่ามีถุงยังชีพยังไม่ได้แจก อาจจะทำให้สิ่งของเสียได้ ผู้ว่าฯ จึงได้มอบถุงยังชีพให้ตนช่วยแจก

ทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นว่า รัฐมนตรีพลังงานพูดโกหก กล่าวเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี ไม่เหมาะที่จะเป็นรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้มีรายงานไปถึงกระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.54 และผู้ว่าฯ ก็ได้อนุญาตแล้ว

ด้านนายพิชัย ชี้แจงว่า ขอยืนยันว่า พูดจริง ไม่ว่าจะสาบานอย่างไร ขอยืนยันว่าผู้ว่าฯ ถูกบังคับ เอกสารที่นพ.วรงค์ นำมามีปัญหา ไม่มีเลขทะเบียนของกระทรวง เป็นเรื่องแปลกประหลาด มีได้อย่างไร เป็นเอกสารเดียวกัน ลงเลขเดียวกัน แต่เอกสารที่ตนมี ลงวันที่ 18 พ.ย.54 แต่ข้อความในเอกสารเป็นคนละอย่างกัน มีการแก้ข้อความ และไม่มีการพูดถึงอาหารในถุงยังชีพจะเน่า และเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว พบข้อมูลไม่ถูกต้อง ยืนยันไม่มีของเสีย ตนไม่ใช่คนกะล่อน แต่ในเอกสารระบุไว้ อย่างนั้น

นพ.วรงค์ กล่าวว่า กรณีที่เอกสารไม่เหมือนกัน แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงเอกสาร และตนขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธชินราช ที่คุ้มครอง และที่ทำให้ตนได้เอกสารอีกฉบับหนึ่ง ที่จับโกหกนายพิชัย คือหนังสือทางสำนักงานพลังงานจังหวัด ลงวันที่ 25 พ.ย.54 ส่งถึงรัฐมนตรี เพื่อรายงานว่าผู้ตรวจฯ ได้มาพบผู้ว่าฯ แสดงว่ารัฐมนตรีโกหก กล่าวเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี ทำลักษณะจงใจทำ ทำให้เป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ จะรับผิดชอบการโกหก กล่าวร้ายในสภาอย่างไร

นายพิชัย กล่าวว่า ทางผู้ว่าฯ บอกมาอย่างไร ตนก็พูดไปอย่างนั้น ซึ่งเอกสารที่ตนได้รับ วันที่18 พ.ย.54 ออกก่อนเอกสารของ นพ.วรงค์ ในวันที่ 25 พ.ย.54 ดังนั้น ตนจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ตนไม่ใช่นักการเมืองซี้ซั้ว หรือ มั่ว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงว่า ที่นายพิชัยบอกว่า ตนตะโกนใส่ในห้องอาหาร ไม่เป็นความจริง แค่เป็นการพูดแซวกันเล่นๆ เพราะมีคนหลายคนไม่พอใจจากคำพูดของนายพิชัย แต่ก็ได้บอกไปว่า อย่าไปถือสาบุคลิก แต่อย่ามากล่าวเท็จ มันไม่ดี โกหกกับพวกตนไม่เป็นไร แต่อย่ากล่าวเท็จกับประชาชน และตนเพิ่งทราบว่าคนที่ทำอะไรตลกไปหมด แต่ไม่มีอารมณ์ขัน

ขณะที่นายพิชัย กล่าวตอบโต้ว่า ที่นายอภิสิทธิ์ บอกว่าแหย่เล่น แต่ความรู้สึกตนไม่คิดว่าเป็นการพูดเล่น เพราะหน้าตาจริงจังมาก ถ้าเข้าใจผิด ก็ขอโทษด้วย ดังนั้นถ้าแหย่เล่นขอให้ยิ้มด้วย

** "พิชัย"แจงปากสั่น หลุดมท.1 รู้

ผู้สื่อข่าวรายงาน ตลอดการชี้แจงนายพิชัย มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด และสับสนในการให้ข้อมูล ทำให้มีหลายประเด็นขัดแย้งกันเอง เช่น กรณีอ้างว่า ผู้ว่าฯโทรหาภายหลัง กลับบอกว่ามี รมว.มหาดไทย รับรู้เรื่องดังกล่าวด้วย ขณะที่ชี้แจงไม่มีการบีบให้ผู้ว่าฯ ทำหนังสือถึงปลัดมหาดไทย เพราะไม่มีอำนาจ

นอกจากนี้ การชี้แจงในเรื่องเอกสารก็ไม่มีการหักล้างเอกสารฉบับที่ 2 ที่ นพ.วรงค์ นำมาแสดง แถมยังยอมรับด้วยว่า ได้รับเอกสารฉบับดังกล่าว เนื้อหาเหมือนกับที่ นพ.วรงค์ ระบุ จึงได้ให้มีการตรวจสอบว่า ทำไมเนื้อหาจึงไม่ตรงกัน รวมถึงประเด็นถุงยังชีพ ที่ตอนแรกระบุว่า เป็นของกระทรวงพลังงาน แต่เมื่อถูกโต้แย้งว่า เป็นของปตท.สผ. สุดท้ายก็ยอมรับว่า เป็นของปตท.สผ. ที่มอบให้กับกระทรวงพลังงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น