ASTVผู้จัดการรายวัน-“เพรียวพันธ์” สั่งตรงเร่งคลี่คลายคดีคนขับเก๋งวีออสกราดยิงใส่ม็อบชาวสวนยางพารา ด้าน ผกก.สภ.รัตภูมิ เผยจากวิถีกระสุนคาดไม่ต้องการเจาะจงยิงใครโดยเฉพาะ ขณะที่แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้นำผู้บาดเจ็บเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุ
ความคืบหน้าคดีคนขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9694 สงขลา เกิดความไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ทำให้การจราจรติดขัด ได้ชักอาวุธปืนพกสั้นกราดยิงกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 คน คือ ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.นั้น
วานนี้ (11 ม.ค.) พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อม พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.รัตภูมิ ได้ร่วมประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้าของคดีและแนวทางการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้สั่งการมายัง พล.ต.ท.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภาค 9 ให้เร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด
พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.รัตภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นใคร แต่จากการประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นการก่อกวนหรือมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกแซง แต่มาจากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่ขับรถเก๋งผ่านมายังสถานที่ชุมนุมปิดถนนและถูกขัดขวาง จึงอาจจะเกิดความโมโห และลดกระจกรถลงมายิงใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งจากการตรวจวิถีกระสุนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาการ พบว่าเป็นการยิงในลักษณะกดลงต่ำกับพื้นและไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่จึงถูกกระสุนแฉลบเข้าใส่ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้พุ่งเป้าที่จะยิงเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้บาดเจ็บ ที่ระบุว่าวิถีของการยิงพุ่งลงต่ำ แสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่ต้องการที่จะเอาถึงตาย แต่เพียงแค่ยิงขู่จากอารมณ์โมโห
ขณะนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะมีเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ส่วนป้ายทะเบียนเป็นป้ายปลอม เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เบาะแสของผู้ก่อเหตุรายนี้มากนัก ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนแกะรอยและสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ แต่ก็พอมีแนวทางที่จะคลี่คลายคดีนี้บ้างแล้ว
นายปรีชา สุขเกษม หนึ่งในแกนนำเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.รัตภูมิกล่าวว่า ได้นำผู้บาดเจ็บที่ออกจากโรงพยาบาลทั้ง 5 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุรายนี้ และต้องการเรียกร้องให้ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลช่วยเหลือเยียวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนด้วย
ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เข้าเยี่ยมปลอบขวัญผู้ชุมนุมประท้วงราคายางที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง 3 ราย ซึ่งยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้แก่นายสมบูรณ์ สร้อยปักขิน อายุ 61 ปี ผู้ชุมนุมประท้วงจาก อ.นาทวี ซึ่งถูกกระสุนบริเวณแผ่นหลัง กระสุนฝังใน กำลังรอการผ่าตัด นายภัทรวิน แก้วเรือง อายุ 26 ปี ผู้ชุมนุมประท้วงจาก อ.รัตภูมิ ถูกระสุน 2 นัด บริเวณโคนขาขวาและเท้า กระสุนฝังในทั้ง 2 นัด รอการผ่าตัดเช่นกัน และ ส.ต.ท. เอกพงษ์ พลภากิจ อายุ 26 ปี ตำรวจสังกัด ตชด.43 ซึ่งกลับจากทำงานและแวะดูเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ถูกกระสุนทะลุโคนขาขวา เบื้องต้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบเงินปลอบขวัญรายละ 3,000 บาท และได้กำชับทางโรงพยาบาลในการดูแลรักษาอย่างเต็มที่
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.45 น.เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมผู้ประท้วงราคายาง ปิดถนนประท้วงบริเวณสี่แยกคูหา อ.รัตภูมิ มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9694 สงขลา เกิดความไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ทำให้การจราจรติดขัด ได้ชักอาวุธปืนพกสั้นกราดยิงกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 คน คือ ด.ต.สมคิด เกตุนวล ตำรวจสังกัด สภ.อ.รัตภูมิ และผู้ชุมนุมอีก 8 คน โดยขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 3 คนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษาเสถียรภา
พราคายาง หลังจากที่นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางไปเจรจากับเกษตรกรที่รวมตัวประท้วงที่ จ.สงขลา พร้อมรับเงื่อนไขจากเกษตรกรชาวสวนยางว่า จะทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น รวมถึงจะพิจารณาวิธีการดูแลราคายางไม่ให้ผันผวนมากในระยะยาว
นายธีระ กล่าวว่า ภายหลังการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพาราในภาคใต้ ได้มีการหารือกันถึงปัญหา โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะรับซื้อผลผลิตยางในตลาดเข้ามาเก็บไว้จำนวน 2 แสนตัน และขายในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าภายใน 2 เดือนราคาจะปรับถึง 120 บาทต่อกิโลกรัม ตามที่เกษตรกรเรียกร้อง
ขณะที่เกษตรชาวสวนยางต้องการให้รัฐบาลแก้ไข คือ ดูแลราคายางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ให้ได้กิโลกรัมละ 120 บาท ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จากเดิม 5 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 1.40 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงการยกเลิกสัญญาซื้อขายยางพารากับจีนที่กิโลกรัมละ 105 บาทด้วย
ความคืบหน้าคดีคนขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9694 สงขลา เกิดความไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ทำให้การจราจรติดขัด ได้ชักอาวุธปืนพกสั้นกราดยิงกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 คน คือ ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.นั้น
วานนี้ (11 ม.ค.) พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อม พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.รัตภูมิ ได้ร่วมประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้าของคดีและแนวทางการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้สั่งการมายัง พล.ต.ท.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภาค 9 ให้เร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด
พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.รัตภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นใคร แต่จากการประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นการก่อกวนหรือมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกแซง แต่มาจากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่ขับรถเก๋งผ่านมายังสถานที่ชุมนุมปิดถนนและถูกขัดขวาง จึงอาจจะเกิดความโมโห และลดกระจกรถลงมายิงใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งจากการตรวจวิถีกระสุนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาการ พบว่าเป็นการยิงในลักษณะกดลงต่ำกับพื้นและไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่จึงถูกกระสุนแฉลบเข้าใส่ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้พุ่งเป้าที่จะยิงเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้บาดเจ็บ ที่ระบุว่าวิถีของการยิงพุ่งลงต่ำ แสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่ต้องการที่จะเอาถึงตาย แต่เพียงแค่ยิงขู่จากอารมณ์โมโห
ขณะนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะมีเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ส่วนป้ายทะเบียนเป็นป้ายปลอม เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เบาะแสของผู้ก่อเหตุรายนี้มากนัก ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนแกะรอยและสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ แต่ก็พอมีแนวทางที่จะคลี่คลายคดีนี้บ้างแล้ว
นายปรีชา สุขเกษม หนึ่งในแกนนำเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.รัตภูมิกล่าวว่า ได้นำผู้บาดเจ็บที่ออกจากโรงพยาบาลทั้ง 5 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุรายนี้ และต้องการเรียกร้องให้ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลช่วยเหลือเยียวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนด้วย
ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เข้าเยี่ยมปลอบขวัญผู้ชุมนุมประท้วงราคายางที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง 3 ราย ซึ่งยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้แก่นายสมบูรณ์ สร้อยปักขิน อายุ 61 ปี ผู้ชุมนุมประท้วงจาก อ.นาทวี ซึ่งถูกกระสุนบริเวณแผ่นหลัง กระสุนฝังใน กำลังรอการผ่าตัด นายภัทรวิน แก้วเรือง อายุ 26 ปี ผู้ชุมนุมประท้วงจาก อ.รัตภูมิ ถูกระสุน 2 นัด บริเวณโคนขาขวาและเท้า กระสุนฝังในทั้ง 2 นัด รอการผ่าตัดเช่นกัน และ ส.ต.ท. เอกพงษ์ พลภากิจ อายุ 26 ปี ตำรวจสังกัด ตชด.43 ซึ่งกลับจากทำงานและแวะดูเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ถูกกระสุนทะลุโคนขาขวา เบื้องต้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบเงินปลอบขวัญรายละ 3,000 บาท และได้กำชับทางโรงพยาบาลในการดูแลรักษาอย่างเต็มที่
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.45 น.เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมผู้ประท้วงราคายาง ปิดถนนประท้วงบริเวณสี่แยกคูหา อ.รัตภูมิ มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9694 สงขลา เกิดความไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ทำให้การจราจรติดขัด ได้ชักอาวุธปืนพกสั้นกราดยิงกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 คน คือ ด.ต.สมคิด เกตุนวล ตำรวจสังกัด สภ.อ.รัตภูมิ และผู้ชุมนุมอีก 8 คน โดยขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 3 คนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษาเสถียรภา
พราคายาง หลังจากที่นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางไปเจรจากับเกษตรกรที่รวมตัวประท้วงที่ จ.สงขลา พร้อมรับเงื่อนไขจากเกษตรกรชาวสวนยางว่า จะทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น รวมถึงจะพิจารณาวิธีการดูแลราคายางไม่ให้ผันผวนมากในระยะยาว
นายธีระ กล่าวว่า ภายหลังการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพาราในภาคใต้ ได้มีการหารือกันถึงปัญหา โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะรับซื้อผลผลิตยางในตลาดเข้ามาเก็บไว้จำนวน 2 แสนตัน และขายในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าภายใน 2 เดือนราคาจะปรับถึง 120 บาทต่อกิโลกรัม ตามที่เกษตรกรเรียกร้อง
ขณะที่เกษตรชาวสวนยางต้องการให้รัฐบาลแก้ไข คือ ดูแลราคายางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ให้ได้กิโลกรัมละ 120 บาท ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จากเดิม 5 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 1.40 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงการยกเลิกสัญญาซื้อขายยางพารากับจีนที่กิโลกรัมละ 105 บาทด้วย