xs
xsm
sm
md
lg

ตชด.ใจเด็ด! ทั้งที่ถูกยิงสาหัส วิสามัญฯ คนร้ายจี้ร้านทองดับคาที่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สองคนร้ายก่อเหตุอุกอาจบุกเข้าไปในร้ายทองออโรร่า ในห้างบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 จี้จับลูกค้าของร้านเป็นตัวประกัน แล้วอีกคนกวาดทองรูปพรรณกว่า 400 บาทลงถุงกระดาษ จากนั้นพยายามจะหลบหนี ทว่า เจอ ตชด.ที่ถูกส่งมาดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่เข้าขวาง คนร้ายยิงใส่จนบาดเจ็บล้มลง โดยไม่กล้ายิงโต้ตอบเพราะเกรงถูกประชาชน ทำให้คนร้ายหนีไปได้ ขณะที่คนร้ายอีกคนหอบถุงทองมาบรรจบตรงที่นัดหมายกับคนร้ายอีกคนไว้ เห็น ตชด.นอนจมกองเลือดอยู่ ชักยิงใส่อีก 2 นัด แต่ ตชด.ใจเด็ดพลิกตัวกลับมายิงสวนบ้าง เจาะเข้าหน้าอกคนร้ายตายคาที่ ไม่ได้ทองไปแม้แต่บาทเดียว


วันนี้ (29 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง โดยคนร้ายถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ 1 ราย ภายในร้านทองออโรร่า ดีไซน์ จำกัด ห้างบิ๊กซี สาขาสุขาภิบาล 3 เลขที่ 103 ถ.รามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรมเจริญ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รรท.รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รรท.ผบก.น.3 พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.เจษฎา สวยสม รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.มนตรีกองจำปา รองผกก.สส. พ.ต.ท.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด สว.สส. พ.ต.ต.สมคิด ประเชิญสุข สว.สส.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์จากนิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับร้านเคเอฟซี ทางเข้าประตูห้างบิ๊กซี พบประตูกระจกด้านซ้ายแตกเป็นรูกว้าง บริเวณร้านทองออโรร่า ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ประตูทางเข้า ที่ตู้กระจกโชว์ทองมีรูกระสุนปืนจำนวน 2 นัด ฝ้าเพดาน 1 นัด ห่างออกจากตัวห้างด้านข้าง 50 เมตร หลังร้านอาหารเค-เคน สเต็ก พบศพผู้เสียชีวิตไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อกันหนาวไหมพรมสีเขียวเข้ม ทับเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงยีนส์ 2 ชั้น กางเกงยีนส์สีเข้มขายาวชั้นนอก กางเกงข้างในเป็นยีนส์สีซีดขาสั้น สวมถุงมือสีดำ มีหมวกกันน็อกสีดำตกอยู่ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย ทะลุราวรักแร้ 1 นัด เข้าอกขวา 1 นัด และเข้าชายโครงขวาอีก 1 นัด ใกล้ศพพบปืนลูกโม่ .38 สีดำรมควัน มีปลอกกระสุนจำนวน 5 ปลอก ห่างออกไปมีถุงกระดาษใส่สร้อยทองรูปพรรณจำนวนหลายสิบเส้น น้ำหนักรวม 400 บาท มูลค่าราว 9.6 ล้านบาท จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบปลอกกระสุน .380 และ 9 มม.จำนวนรวมกันทั้งหมด 18 ปลอก

ใกล้กันพบร่าง ด.ต.เชี่ยวชาญ เจริญสิริ อายุ 42 ปี สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 จ.สุรินทร์ ที่มาช่วยเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอนจมกองเลือด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงเข้าบริเวณเชิงกราน กระสุนฝังใน 4 นัด และบริเวณต้นขาอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ รักษาบาดแผลในเบื้องต้น ก่อนจะรีบนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการด่วน

จากการสอบสวน นางสกุลรัตน์ อภิวัฒนโชติ อายุ 43 ปี ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน ยืนตัวสั่นให้การว่า ขณะกำลังจะไปเปลี่ยนทองที่ร้าน เมื่อไปถึงพบพนักงาน 4 คนให้บริการ ขณะกำลังเลือกทองอยู่ มีคนร้าย 2 คนใส่ชุดสีดำทั้งชุด สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำเดินตรงเข้ามา หนึ่งในคนร้ายเข้ามาล็อกคอไว้แล้วบอกว่า “อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรหรอก” จากนั้นยิงปืน 2 นัด นัดแรกยิงขึ้นเพดาน นัดที่สองยิงไปที่ตู้กระจกโชว์ทองจนเป็นรู จากนั้นคนร้ายอีกคนได้อ้อมเข้าไปในเคาน์เตอร์ไปกวาดทองในตู้ใส่ถุงกระดาษที่เตรียมมา แล้วคนร้ายที่ล็อกคอไว้ได้พาเดินออกไปด้วย เมื่อไปถึงประตูปรากฏว่าประตูเปิดช้า คนร้ายจึงเอาด้ามปืนฟาดเข้าที่กระจกประตูแตก จึงสามารถเปิดประตูได้ และเมื่อออกจากประตูห้างบิ๊กซีได้แล้ว คนร้ายลากไปยังลานจอดรถทางขวามือของห้าง

นางสกุลรัตน์ให้การต่อว่า ระหว่างที่คนร้ายจะพาไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีขาว-น้ำเงิน ทะเบียน 131 ไม่ทราบจังหวัดและหมวดตัวอักษร ที่คนร้ายเตรียมมา คนร้ายสะดุดล้มลงทำให้หลุดจากการถูกล็อก และจังหวะดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ยินคนร้องว่ามีการชิงทรัพย์ จึงรีบวิ่งเข้ามาขัดขวาง กระทั่งเกิดการยิงต่อสู้กันหลายนัด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่กล้ายิงสวนเพราะเห็นว่ามีตัวประกันอยู่ จึงถูกคนร้ายยิงจนล้มลง แล้วคนร้ายจึงขึ้นจักรยานยนต์สตาร์ทเครื่องหลบหนีไป

ขณะเดียวกัน คนร้ายอีกคนที่ถือถุงทองวิ่งออกจากห้างตามมา แต่ได้วิ่งอ้อมร้านค้าเพื่อจะไปจุดนัดพบเพื่อขึ้นรถหลบหนี แต่เมื่อไปถึงกลับพบเจ้าหน้าที่นอนเจ็บอยู่ จึงตรงไปควักปืนยิงเข้าใส่จำนวน 2 นัด ก่อนจะหันหลังเดินไป ทางเจ้าหน้าที่ได้พลิกตัวแล้วควักปืนยิงใส่จำนวน 1 นัด คนร้ายพยายามควักปืนออกมาต่อสู้ แต่ได้ล้มลง พร้อมถุงกระดาษใส่ทองตกลงพื้นในที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตลง

ขณะที่ น.ส.นิภารัตน์ สายพราว อายุ 26 ปี พนักงานร้านทองออโรร่าให้การว่า คนร้ายที่สวมหมวกกันน็อกแล้วล็อกคอลูกค้าออกไปด้านนอก จำรูปพรรณสัณฐานได้ว่าสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ไม่เห็นใบหน้าเพราะสวมหมวกกันน็อก เมื่อเห็นคนร้ายหยิบปืนขึ้นมา ด้วยความตกใจรีบวิ่งไปหมอบอยู่ด้านหลังร้านทันที

ด้าน พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่มีการวางมาตรการป้องกันโดยประสานเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านค้า และ แหล่งชุมชน โดยกำหนดกำลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม วันละ 200 นาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็คาดการณ์ได้ถูกต้อง

“ถือว่า ด.ต.เชี่ยวชาญ ทำหน้าที่ได้อย่างน่ายกย่อง ไม่ถือเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะคนร้ายทั้ง 2 คนมีอาวุธปืน และได้ยิงต่อสู้จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ที่วิสามัญฯ คนร้ายเสียชีวิต ถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว” ผบช.น.กล่าว

พล.ต.ท.วินัยกล่าวต่อว่า ส่วนอาวุธปืนในที่เกิดเหตุของคนร้ายจะนำไปตรวจสอบอีกครั้ง เพราะเคยมีประวัติคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ก่อเหตุในหลายพื้นที่โดยเฉพาะย่านดอนเมือง และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้าง และบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้ายอีกคน ขณะนี้ขอเวลาทางเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนอาการ ด.ต.เชี่ยวชาญ เจริญสิริ นั้นทราบว่าปลอดภัยแล้ว
พล.ต.ท.วินัย ตรวจสภาพศพคนร้าย โดยมีถุงทองหนัก 400 บาทกองอยู่ข้างๆ
พล.ต.ท.วินัย สอบถามเหตุการณ์

พนักงานของร้านเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

กำลังโหลดความคิดเห็น