ASTVผู้จัดการรายวัน – “ชนินทร์” มือดีการตลาด โบกมือลาค่ายบิ๊กโตล่าแล้ว หันตั้งบริษัทออพติมัสรุกธุกริจที่ปรึกษาด้านการตลาด พร้อมลุยตลาดเครื่อดื่ม เล็งวางตลาดต้นปีหน้า เจาะกลุ่มฟังชันนัลดริงค์
นายชนินทร์ เทียนเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออพติมัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯดังกล่าวก่อตั้งขึ้นมาใหม่ไม่นานนี้ หลังจากที่ตนเองได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารของ บริษัท อาเจบิ๊กโคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มแบรนด์บิ๊กโคลาและอื่นๆ โดยบริษัทฯใหมดังกล่าวนี้ มีนโยบายการทำธุรกิจ 2 ส่วนคือ
1.การเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และการพัฒนาสินค้าให้กับเจ้าของสินค้า ทั้งที่มีอยู่แล้วแต่เป็นระดับท้องถิ่นที่ต้องการขยายช่องทางกว้างขึ้น รวมทั้งผู้ที่เป็นโออีเอ็มมาก่อนและต้องการที่จะสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการติดต่อเข้ามามาก ไม่วาจะเป็น เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ปุ๋ย เป็นต้น
อีกส่วนคือ 2. การเข้าสู่ธุรกิจเครื่องดื่ม โดยในช่วงแรกนี้ จะใช้บริษัทออพติมัส เข้าไปถือหุ้นในบริษัทใหม่ที่ร่วมกันกับบริษัทที่ทำการค้าต่างประเทศที่เป็นของคนไทย โดยออพติมัสถือหุ้น 51% คาดว่จาะสามารถเปิดตัวบริษัทและสินค้าได้ต้นปี 2555
ทั้งนี้ตลาดเครื่องดื่มที่บริษัทฯจะรุกตลาดนั้นจะอยู่ในกลุ่มของฟังชันนัลดริ้งค์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เช่น อะมิโนโอเคพลัส บิวติดริงค์ เป็นต้น โดยจะเป็นกลุ่ทย่อยที่เรียกว่า วิตะมินดริ้งค์หรือชอตดริ้งค์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สินค้าใหม่ของยบริษัทฯจะเข้าสู่ตลาดด้วยการสร้างความแตกต่างทั้งเรื่องของการผสมวิตะมิน การทำแพคเกจจิ้ง และการใช้สื่อ ซึ่งเบื้องต้นจะวางตลาด 4 รายการในปีหน้า ทยอยออกตั้งแต่ต้นปัหน้าเป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มวางตลาดที่ร้านเซเว่นอีลเลฟเว่นก่อน
โดยบริษัทฯจะลงทุนในเบื้องต้น 20 ล้านบาท และตั้งงบการตลาดไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยสินค้าจะไม่ลงทุนผลิตเองแต่ใช้วิธีการว่าจ้างรายอื่นผลิตให้แบบโออีเอ็ม สินค้าจะอยู่ในระดับกลางขึ้นสูงเฉลี่ยราคาจต่อขวด 30 บาทขึ้นไป เนื่องจากบริษัทฯมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะไม่ทำตลาดในระดับแมสที่มีการแข่งขันรุนแรง คาดหวังส่วนแบ่งรายได้ปีแรกที่ 10% ของตลาด
นายชนินทร์ เทียนเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออพติมัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯดังกล่าวก่อตั้งขึ้นมาใหม่ไม่นานนี้ หลังจากที่ตนเองได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารของ บริษัท อาเจบิ๊กโคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มแบรนด์บิ๊กโคลาและอื่นๆ โดยบริษัทฯใหมดังกล่าวนี้ มีนโยบายการทำธุรกิจ 2 ส่วนคือ
1.การเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และการพัฒนาสินค้าให้กับเจ้าของสินค้า ทั้งที่มีอยู่แล้วแต่เป็นระดับท้องถิ่นที่ต้องการขยายช่องทางกว้างขึ้น รวมทั้งผู้ที่เป็นโออีเอ็มมาก่อนและต้องการที่จะสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการติดต่อเข้ามามาก ไม่วาจะเป็น เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ปุ๋ย เป็นต้น
อีกส่วนคือ 2. การเข้าสู่ธุรกิจเครื่องดื่ม โดยในช่วงแรกนี้ จะใช้บริษัทออพติมัส เข้าไปถือหุ้นในบริษัทใหม่ที่ร่วมกันกับบริษัทที่ทำการค้าต่างประเทศที่เป็นของคนไทย โดยออพติมัสถือหุ้น 51% คาดว่จาะสามารถเปิดตัวบริษัทและสินค้าได้ต้นปี 2555
ทั้งนี้ตลาดเครื่องดื่มที่บริษัทฯจะรุกตลาดนั้นจะอยู่ในกลุ่มของฟังชันนัลดริ้งค์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เช่น อะมิโนโอเคพลัส บิวติดริงค์ เป็นต้น โดยจะเป็นกลุ่ทย่อยที่เรียกว่า วิตะมินดริ้งค์หรือชอตดริ้งค์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สินค้าใหม่ของยบริษัทฯจะเข้าสู่ตลาดด้วยการสร้างความแตกต่างทั้งเรื่องของการผสมวิตะมิน การทำแพคเกจจิ้ง และการใช้สื่อ ซึ่งเบื้องต้นจะวางตลาด 4 รายการในปีหน้า ทยอยออกตั้งแต่ต้นปัหน้าเป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มวางตลาดที่ร้านเซเว่นอีลเลฟเว่นก่อน
โดยบริษัทฯจะลงทุนในเบื้องต้น 20 ล้านบาท และตั้งงบการตลาดไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยสินค้าจะไม่ลงทุนผลิตเองแต่ใช้วิธีการว่าจ้างรายอื่นผลิตให้แบบโออีเอ็ม สินค้าจะอยู่ในระดับกลางขึ้นสูงเฉลี่ยราคาจต่อขวด 30 บาทขึ้นไป เนื่องจากบริษัทฯมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะไม่ทำตลาดในระดับแมสที่มีการแข่งขันรุนแรง คาดหวังส่วนแบ่งรายได้ปีแรกที่ 10% ของตลาด