4 ม.ค. 2555
สำราญ น้องรัก
ตอนนี้พี่อยู่ที่หาดใหญ่ อีกวันสองวันจะกลับกรุงเทพฯ ว่าจะเขียนอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวมานำเสนอน้องดังที่รับปากไว้ แต่ยุ่งๆ อยู่หลายเรื่อง แต่รับปากแล้วว่าจะเขียนก็ต้องเขียน ซึ่งก่อนอื่นขอให้น้องอ่านข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 ม.ค. 55 เสียก่อน พี่ก๊อบปี้มาทั้งหมด
“ปัตตานี-วงการทหารสูญเสียอีกแล้ว หลังจากโจรใต้กดระเบิด 15 กก. สังหาร ร.ท.และ ส.อ.ดับคาที่ ขณะกำลังเดินทางออกไปมอบกระเช้าปีใหม่เพื่อร่วมเทศกาลแห่งความสุขที่สถานีอนามัย
วันนี้ (3 ม.ค.) พ.ต.อ.อดุลย์ ปีแนบาโง ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสายบ้านคลองช้าง-บ้านเขาวัง ม.3 ต.ตรัง จึงรายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก. นำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ท.ประธาน ตลับทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี 25, ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและชุดพิสูจน์หลักฐาน
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่เกือบ 4 เมตร ลึก 1.5 เมตร ห่างกัน 3 เมตรพบซากรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กล 456 ปัตตานี ในสภาพถูกแรงระเบิดจนเละเป็นเศษ เหลือแต่ซากชิ้นส่วนรถกระจายไปทั่วบริเวณ ภายในรถพบศพ ร.ท.ดิเรกสิน รัตนสิน อายุ 27 ปี ผบ.ร้อย ร.15312 ฉก.ปัตตานี 25 สภาพถูกแรงระเบิดจนกระดูกหักแขนขาเกือบขาด ห่างกันประมาณ 5 เมตร พบศพ ส.อ.ยุทธยา จำปามี อายุ 27 ปี สภาพขาขาด ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบสายไฟยาว ประมาณ 100 เมตรลากเข้าไปในป่า ชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ ส.อ.ยุทธยา ขับรถพา ร.ท.ดิเรกสิน ออกจากฐานเพื่อนำกระเช้าของขวัญไปร่วมงานเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีอนามัยกระเสาะ อ.มายอ ปรากฏว่ามาถึงที่เกิดเหตุห่างจากฐานประมาณ 1 กิโลเมตร คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 15 กก.ฝังไว้ใต้ถนน จนเกิดระเบิดขึ้นกลางรถพอดี ทำให้รถกระเด็นลอยตกข้างทางสภาพพังยับเยิน ส่วน ส.อ.ยุทธยากระเด็นลอยไปตกห่างจากตัวรถประมาณ 5 เมตร
หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วม RKK ในพื้นที่หมายจะก่อเหตุตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังจับแกนนำ RKK ได้ 2 รายเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับประวัติ ร.ท.ดิเรกสิน รัตนสิน อายุ 27 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ จบนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 45 จปร.รุ่น 56 เมื่อปี 2551 จากนั้นสมัครใจมาปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบรรจุราชการครั้งแรกที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี โดยปฏิบัติภารกิจสนาม สังกัด ฉก.ปัตตานี 24 ที่ อ.โคกโพธิ์ ในตำแหน่ง ผบ.หมวดปืนเล็ก จากนั้นเมื่อปี 2553 ได้ติดยศร้อยโทในตำแหน่งปัจจุบัน”
สำราญคงจำได้ว่าวันที่ 4 ม.ค. 2547 วันที่โจรใต้ปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง นราธิวาส นั่นคือวันแรกที่ไฟใต้คุโชน วันที่ 3 ม.ค. 2555 จึงเป็นวันส่งท้ายก่อนครบรอบ 7 ปี พี่อ่านข่าวนี้แล้วนอกจากเศร้าแล้วอย่างอื่นไม่รู้จะทำอะไร ที่ช้ำใจไปกว่าเศร้าก็คือในฐานะเราเป็นคนใต้ พี่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายด้ามขวานของเราเลย..
เช้านี้อ่านนสพ.กรุงเทพธุรกิจ ยิ่งตอกย้ำความเศร้าหนักเข้าไปอีก กรุงเทพธุรกิจสรุปว่า ย่างปีที่ 8 ของไฟใต้ แต่นับเป็น 9 ปีงบประมาณ (รวมถึงงบปี 2555) ประเทศเราใช้งบดับไฟใต้สูงมากถึง 1.61 แสนล้านบาท ขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบยังใส่เกียร์ห้าเดินหน้ารุนแรงสถานเดียว 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตทุกฝ่าย 5,243 ราย แยกเป็นประชาชนทั่วไป 4,215 ราย, ทหาร 351 นาย, ตำรวจ 280 นาย, ครูและบุคลากรการศึกษา 148 ราย, พระ 7 รูป, คนร้าย 242 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บทุกฝ่าย 8,941 นาย..มีเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบ 4,445 คน และสตรีม่าย 2,295 คน
เมื่อปี 2553 ยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ออกกฎหมาย พ.ร.บ.การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 นัยว่าเพื่อให้การบริหารจัดการระหว่างทหาร (กอ.รมน.)และพลเรือน (ศอ.บต.) ชัดเจน เป็นสัดเป็นส่วน แต่เน้นน้ำหนักไปที่ตัวเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) วันนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลได้อ้างเหตุผลการ “บูรณาการ” ยกให้แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กบชต.) เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
ส่วนเลขาธิการ ศอ.บต.ที่พรรคเพื่อไทยส่งตรงคือ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีกรมดีเอสไอ พี่ก็อยากให้สำราญจับตาดูในอีกมุม...คือจากแต่เดิมที่คาดกันว่าจะทำให้ชาว 3 จังหวัดต่อต้าน เพราะชื่อ “ทวี” คือยี่ห้อทักษิณนั้น อะไรๆ มันก็ไม่ตายตัว อย่างที่ทราบๆ กันคือกรณีการที่ทวี สอดส่อง ไฟเขียวให้เปิดโรงเรียนอิสลามบูรพา (ถูกปิดเมื่อ 2550 กรณีมีระเบิดจำนวนมาก) ทำให้มีเสียงเฮเสียงชื่นชมทวี สอดส่อง จากหลายภาคส่วน...
อย่างไรก็ตาม พี่ได้คุยกับพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายคน ได้แต่ส่ายหน้ามองไม่เห็นหนทางสู่ความสงบ และไม่ได้คาดหวังอะไรกับ “ศูนย์บูรณาการปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ของรัฐบาลปูแดงแต่อย่างใด พวกเขาคาดว่าระเบิดความรุนแรงจะยังเกิดขึ้น อิทธิพล มาเฟีย พวกค้ายาเสพติดกับกลุ่มก่อความไม่สงบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนจะยังร่วมมือกันก่อเหตุเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่ายังมีกลุ่มก่อความไม่สงบที่หวังแยกดินแดนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ในระยะหลังได้ลดระดับลงมาเป็นการกดดันให้รัฐไทยยอมให้ชาว 3 จังหวัดปกครองตนเอง...
พี่ยังไม่สามารถทะลุทะลวงข้อมูลหรือรวบรวมเรียบเรียงตอบโจทย์ของน้องที่ว่า...ผลประโยชน์ของพลังงานในอ่าวไทยมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นพลังหนุนหลังของเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่อย่างไร...ต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่ง แต่แน่ล่ะถ้าเรามองทางกายภาพสมมติ 3 จังหวัดถูกเฉือนไปจริงๆ ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หากลากเส้นอาณาเขตลงทะเลรัฐไทยอาจสูญเสียขุมทรัพย์พลังงานไปแน่นอน...แต่เรื่องนี้ถ้าเราซี้ซั้วพูดไปในขณะที่ข้อมูลยังไม่แน่นพออาจถูกมองเป็นพวกขวาสุดโต่งอะไรไปโน่น....ทั้งๆ ที่ในความรู้สึกพี่ๆ คิดว่าวันนี้เรื่อง “ผลประโยชน์พลังงาน” คือเรื่องการเมืองของโลกโดยแท้ อเมริกากับจีนจะฟาดปากกันก็เรื่องนี้เป็นเหตุสำคัญด้วย น้องว่ามั้ย...!!??
เอาล่ะ ถือว่าเป็นจดหมายแก้ขัดทดแทนงานเขียนที่พี่รับปากเอาไว้ หวังว่าน้องคงสบายดี และคงส่งกำลังใจไปยังพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตลอดจนพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ทำหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย ส่วนข้าราชการที่ฉวยโอกาสผลาญงบ ประกอบการอุตสาหกรรมความมั่นคงอย่างไม่ละลายชั่วกลัวบาป เราก็คงต้องช่วยกันแช่งช่วยกันแฉต่อไป-สวัสดีปีใหม่ ครับ- จากพี่
samr_rod@hotmail.com
สำราญ น้องรัก
ตอนนี้พี่อยู่ที่หาดใหญ่ อีกวันสองวันจะกลับกรุงเทพฯ ว่าจะเขียนอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวมานำเสนอน้องดังที่รับปากไว้ แต่ยุ่งๆ อยู่หลายเรื่อง แต่รับปากแล้วว่าจะเขียนก็ต้องเขียน ซึ่งก่อนอื่นขอให้น้องอ่านข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 ม.ค. 55 เสียก่อน พี่ก๊อบปี้มาทั้งหมด
“ปัตตานี-วงการทหารสูญเสียอีกแล้ว หลังจากโจรใต้กดระเบิด 15 กก. สังหาร ร.ท.และ ส.อ.ดับคาที่ ขณะกำลังเดินทางออกไปมอบกระเช้าปีใหม่เพื่อร่วมเทศกาลแห่งความสุขที่สถานีอนามัย
วันนี้ (3 ม.ค.) พ.ต.อ.อดุลย์ ปีแนบาโง ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสายบ้านคลองช้าง-บ้านเขาวัง ม.3 ต.ตรัง จึงรายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก. นำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ท.ประธาน ตลับทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี 25, ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและชุดพิสูจน์หลักฐาน
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่เกือบ 4 เมตร ลึก 1.5 เมตร ห่างกัน 3 เมตรพบซากรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กล 456 ปัตตานี ในสภาพถูกแรงระเบิดจนเละเป็นเศษ เหลือแต่ซากชิ้นส่วนรถกระจายไปทั่วบริเวณ ภายในรถพบศพ ร.ท.ดิเรกสิน รัตนสิน อายุ 27 ปี ผบ.ร้อย ร.15312 ฉก.ปัตตานี 25 สภาพถูกแรงระเบิดจนกระดูกหักแขนขาเกือบขาด ห่างกันประมาณ 5 เมตร พบศพ ส.อ.ยุทธยา จำปามี อายุ 27 ปี สภาพขาขาด ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบสายไฟยาว ประมาณ 100 เมตรลากเข้าไปในป่า ชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ ส.อ.ยุทธยา ขับรถพา ร.ท.ดิเรกสิน ออกจากฐานเพื่อนำกระเช้าของขวัญไปร่วมงานเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีอนามัยกระเสาะ อ.มายอ ปรากฏว่ามาถึงที่เกิดเหตุห่างจากฐานประมาณ 1 กิโลเมตร คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 15 กก.ฝังไว้ใต้ถนน จนเกิดระเบิดขึ้นกลางรถพอดี ทำให้รถกระเด็นลอยตกข้างทางสภาพพังยับเยิน ส่วน ส.อ.ยุทธยากระเด็นลอยไปตกห่างจากตัวรถประมาณ 5 เมตร
หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วม RKK ในพื้นที่หมายจะก่อเหตุตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังจับแกนนำ RKK ได้ 2 รายเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับประวัติ ร.ท.ดิเรกสิน รัตนสิน อายุ 27 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ จบนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 45 จปร.รุ่น 56 เมื่อปี 2551 จากนั้นสมัครใจมาปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบรรจุราชการครั้งแรกที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี โดยปฏิบัติภารกิจสนาม สังกัด ฉก.ปัตตานี 24 ที่ อ.โคกโพธิ์ ในตำแหน่ง ผบ.หมวดปืนเล็ก จากนั้นเมื่อปี 2553 ได้ติดยศร้อยโทในตำแหน่งปัจจุบัน”
สำราญคงจำได้ว่าวันที่ 4 ม.ค. 2547 วันที่โจรใต้ปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง นราธิวาส นั่นคือวันแรกที่ไฟใต้คุโชน วันที่ 3 ม.ค. 2555 จึงเป็นวันส่งท้ายก่อนครบรอบ 7 ปี พี่อ่านข่าวนี้แล้วนอกจากเศร้าแล้วอย่างอื่นไม่รู้จะทำอะไร ที่ช้ำใจไปกว่าเศร้าก็คือในฐานะเราเป็นคนใต้ พี่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายด้ามขวานของเราเลย..
เช้านี้อ่านนสพ.กรุงเทพธุรกิจ ยิ่งตอกย้ำความเศร้าหนักเข้าไปอีก กรุงเทพธุรกิจสรุปว่า ย่างปีที่ 8 ของไฟใต้ แต่นับเป็น 9 ปีงบประมาณ (รวมถึงงบปี 2555) ประเทศเราใช้งบดับไฟใต้สูงมากถึง 1.61 แสนล้านบาท ขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบยังใส่เกียร์ห้าเดินหน้ารุนแรงสถานเดียว 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตทุกฝ่าย 5,243 ราย แยกเป็นประชาชนทั่วไป 4,215 ราย, ทหาร 351 นาย, ตำรวจ 280 นาย, ครูและบุคลากรการศึกษา 148 ราย, พระ 7 รูป, คนร้าย 242 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บทุกฝ่าย 8,941 นาย..มีเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบ 4,445 คน และสตรีม่าย 2,295 คน
เมื่อปี 2553 ยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ออกกฎหมาย พ.ร.บ.การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 นัยว่าเพื่อให้การบริหารจัดการระหว่างทหาร (กอ.รมน.)และพลเรือน (ศอ.บต.) ชัดเจน เป็นสัดเป็นส่วน แต่เน้นน้ำหนักไปที่ตัวเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) วันนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลได้อ้างเหตุผลการ “บูรณาการ” ยกให้แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กบชต.) เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
ส่วนเลขาธิการ ศอ.บต.ที่พรรคเพื่อไทยส่งตรงคือ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีกรมดีเอสไอ พี่ก็อยากให้สำราญจับตาดูในอีกมุม...คือจากแต่เดิมที่คาดกันว่าจะทำให้ชาว 3 จังหวัดต่อต้าน เพราะชื่อ “ทวี” คือยี่ห้อทักษิณนั้น อะไรๆ มันก็ไม่ตายตัว อย่างที่ทราบๆ กันคือกรณีการที่ทวี สอดส่อง ไฟเขียวให้เปิดโรงเรียนอิสลามบูรพา (ถูกปิดเมื่อ 2550 กรณีมีระเบิดจำนวนมาก) ทำให้มีเสียงเฮเสียงชื่นชมทวี สอดส่อง จากหลายภาคส่วน...
อย่างไรก็ตาม พี่ได้คุยกับพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายคน ได้แต่ส่ายหน้ามองไม่เห็นหนทางสู่ความสงบ และไม่ได้คาดหวังอะไรกับ “ศูนย์บูรณาการปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ของรัฐบาลปูแดงแต่อย่างใด พวกเขาคาดว่าระเบิดความรุนแรงจะยังเกิดขึ้น อิทธิพล มาเฟีย พวกค้ายาเสพติดกับกลุ่มก่อความไม่สงบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนจะยังร่วมมือกันก่อเหตุเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่ายังมีกลุ่มก่อความไม่สงบที่หวังแยกดินแดนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ในระยะหลังได้ลดระดับลงมาเป็นการกดดันให้รัฐไทยยอมให้ชาว 3 จังหวัดปกครองตนเอง...
พี่ยังไม่สามารถทะลุทะลวงข้อมูลหรือรวบรวมเรียบเรียงตอบโจทย์ของน้องที่ว่า...ผลประโยชน์ของพลังงานในอ่าวไทยมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นพลังหนุนหลังของเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่อย่างไร...ต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่ง แต่แน่ล่ะถ้าเรามองทางกายภาพสมมติ 3 จังหวัดถูกเฉือนไปจริงๆ ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หากลากเส้นอาณาเขตลงทะเลรัฐไทยอาจสูญเสียขุมทรัพย์พลังงานไปแน่นอน...แต่เรื่องนี้ถ้าเราซี้ซั้วพูดไปในขณะที่ข้อมูลยังไม่แน่นพออาจถูกมองเป็นพวกขวาสุดโต่งอะไรไปโน่น....ทั้งๆ ที่ในความรู้สึกพี่ๆ คิดว่าวันนี้เรื่อง “ผลประโยชน์พลังงาน” คือเรื่องการเมืองของโลกโดยแท้ อเมริกากับจีนจะฟาดปากกันก็เรื่องนี้เป็นเหตุสำคัญด้วย น้องว่ามั้ย...!!??
เอาล่ะ ถือว่าเป็นจดหมายแก้ขัดทดแทนงานเขียนที่พี่รับปากเอาไว้ หวังว่าน้องคงสบายดี และคงส่งกำลังใจไปยังพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตลอดจนพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ทำหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย ส่วนข้าราชการที่ฉวยโอกาสผลาญงบ ประกอบการอุตสาหกรรมความมั่นคงอย่างไม่ละลายชั่วกลัวบาป เราก็คงต้องช่วยกันแช่งช่วยกันแฉต่อไป-สวัสดีปีใหม่ ครับ- จากพี่
samr_rod@hotmail.com