ASTVผู้จัดการรายวัน-"เหลิม"ปัดกลั่นแกล้ง "ครรชิต" ชี้หลักฐานชัด จึงต้องออกหมายจับ ส่วนตำรวจยังเดินหน้าเรียกหาปืนของกลาง หากไม่ส่งจะออกหมายเรียกอีกรอบ และอาจขอสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมติดตามสาว "กุ๊ก" ต้นตอยิงเอาชีวิต "นิพิฎฐ์"เผยเจ้าตัวไม่ทราบหนังสือเรียกวัตถุพยาน เหตุอยู่คนละบ้านกับแม่ แนะให้มายื่นที่สภาฯ ดีกว่า เจอแน่ ยันมีแผนสู้ต่อสู้คดี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงคดีสังหารนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จ.สมุทรสาคร เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) ว่า ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนจากภาพกล้องวงจรปิดที่ตนเคยนำไปเปิดเผยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามหลักฐาน ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง หรือสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือชู้สาว ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจสอบสวน
พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า คดียิงนายอุดรมีความคืบหน้าไปมาก และไม่ได้มีความซับซ้อน ขณะที่การสอบปากคำพยานได้จำนวนหลายปากแล้ว แต่ยังเหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น
ส่วนกรณีการเรียกตรวจวัตถุพยานหรืออาวุธปืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือเรียกตรวจไป 7 กระบอก ซึ่งหนึ่งในนั้นมีของนายครรชิต ทับสุวรรณ ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย และขณะนี้มีคนนำมาให้แล้ว 1 กระบอก ส่วนกรณีที่นายครรชิตปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับหนังสือเรียกสอบปืนจากตำรวจ ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ส่งไปให้แล้วทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งหากในบ่ายวานนี้ (3 ม.ค.) ยังไม่มีการส่งมอบปืนมาให้อีก ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกอีกครั้ง ในวันนี้ (4 ม.ค.) รวมทั้ง อาจจะมีการพิจารณาเพื่อเรียกตัวนายครรชิตเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ด้วย
“เจ้าหน้าที่ทำงานเพื่อเร่งคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ โดยไม่รู้สึกกดดันจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกทั้งพยานที่ได้ให้ปากคำไปแล้ว ก็ยังคงยืนยันในการให้ปากคำเดิม ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก” พ.ต.อ.จำแรงกล่าว
พ.ต.อ.จำแรงกล่าวว่า ในการสอบสวนคดีนี้ เป็นห่วงเรื่องของวัตถุพยานหรือปืนที่เรียกไป ซึ่งขณะนี้ได้มาเพียง 1 กระบอกเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้การติดตามคดีเกิดความล่าช้า เนื่องจากจะต้องรอวัตถุพยานที่มาส่งมอบ และส่งต่อไปให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบ ซึ่งจะต้องเสียเวลาพอสมควร ขณะที่สำนวนของคดีดังกล่าวพร้อมแล้ว เหลือเพียงสรุปวัตถุพยานเท่านั้น
ต่อมาที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ รอง ผบก.ภ.สมุทรสาคร ในฐานะประธานคณะทำงานร่วม และพ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ในฐานะเจ้าของพื้นที่และกำกับดูแลสำนวน ได้มีการติดตามความคืบหน้าของคดี โดยได้เรียกพ.ต.ท.โยธิน เธียรสุขสันต์ สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าของคดีวันเกิดเหตุ เข้ารายงานผลงานสอบสวน
พ.ต.อ.จำแรงกล่าวว่า ตามที่ได้ส่งหนังสือ สภ.เมืองสมุทรสาคร กำหนดให้ส่งอาวุธปืน ในวันที่ 3 ม.ค. จากผู้ต้องหา และผู้ครอบครองปืนขนาด.40 รายอื่นๆ ในเขตสมุทรสาคร ที่กองทะเบียนอำเภอ ระบุช่วงคคีฆ่าแกนนำถ่านหิน พบว่า มีทั้งสิ้น 7 กระบอก แม้ไม่ครบ แต่ก็มีจำนวนหนึ่งส่งเข้ามาพิสูจน์หลักฐานร่วมในคดีนี้แล้ว และถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ก็ไม่หนักใจ อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ เชื่อว่าสามารถสรุปสำนวนดังกล่าวได้แน่นหนา สามารถส่งฟ้องผู้ต้องหาได้ แม้หากทางศาลไม่อนุมัติหมายค้นบ้าน แต่อาจจะลองยื่นศาลขอหมายค้นดูอีกครั้งก็เป็นได้
ทั้งนี้ ล่าสุดนี้ยังได้สั่งการให้ พ.ต.ท.โยธิน เธียรสุขสันต์ สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร เร่งทำผังภาพรวมของการก่อเหตุ และพื้นที่ปั๊มน้ำมันโดยรวม อาทิ ระบุตำแหน่ง ระหว่างเกิดเหตุการณ์สังหารและตำแหน่งจุดพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อไว้ใช้งานอย่างละเอียดแล้ว ในสภาพแผ่นใหญ่พอสมควร เนื่องจากในรูปสำนวนคดีล่าสุดนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมได้ก็แทบจะดำเนินการส่งฟ้องเอาผิดได้สบายๆ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในการหารือครั้งนี้ที่ประชุมได้นำรูปสาวกุ๊ก (ชื่อเล่น) ต้นตอชนวนเหตุกระทบกระทั่ง ถึงขั้นลงไม้ลงมือยิงกันถึงชีวิต ซึ่งล่าสุดตำรวจยังควานหาเจ้าตัวไม่พบ พร้อมกันนี้ ยังมีเสียงครหาแคลงใจของบรรดาประชาชนและจากสื่อ กรณีเหตุการณ์คดีนี้ น่าแปลกใจ ไม่มีภาพวงจรปิดหรือหลักฐานจากการบันทึกภาพคนร้ายออกเผยแพร่ และไม่ให้เล็ดลอดออกสู่หน้าสื่อสิ่งพิมพ์เช่นเดียวกับที่ผ่านมา
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ทีมทนายความนายครรชิต กล่าวถึงการขอตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่แม่ของนายครรชิตไม่รับหนังสือเรียกวัตถุพยาน ทำให้ตำรวจเตรียมออกหมายค้นว่า ก่อนที่ตนลงมาพื้นที่ ตนได้บอกนายครรชิตว่าช่วงรอยต่อของปีเก่าและปีใหม่จะมีหมายค้นออกมา และไม่ได้ค้นที่เดียว จะค้นเป็นชุดแบบปูพรม ปัญหา คือ นยครรชิตไม่ได้รับหมายหรือหนังสือของตำรวจว่าจะให้ทำอย่างไร ส่วนที่แม่นายครรชิตไม่เซ็นรับหนังสือนั้น ตนไม่ทราบ เพราะนายครริคตอยู่คนละบ้านกับแม่ เจ้าตัวจึงไม่ทราบ
"ได้แนะนำกับนายครรชิตว่า เมื่อตำรวจต้องการอาวุธหรือรถ ต้องอำนวยความสะดวก และให้ความร่วมมือกับตำรวจในทุกเรื่อง นายครรชิตเขาก็ยินดี ที่จริงเขาไม่ได้อยู่กับแม่ วันนี้ถ้าไม่ขัดข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาสภาฯ ได้ เพราะมีการประชุมสภาฯ มีเอกสารก็ส่งมา จะเซ็นรับและอำนวยความสะกวดในการตรวจค้น ไม่ต้องไปให้ข่าวผ่านสื่อ"นายนิพิฎฐ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเช่นนี้จะต่อสู้คดีแบบใด นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ในทางคดีการต่อสู้ เรามีแผนอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา เอาเป็นว่า รูปคดีของฝ่ายตรงข้าม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เปิดเผยหมดแล้ว เป็นทั้งวีซีดี และภาพ แต่รูปคดีในการต่อสู้ของเรา ฝ่ายโน้นยังไม่ทราบ เพราะเราจะเอาไปเปิดเผยในชั้นศาล แต่คนเขาเชื่อ เพราะร.ต.อ.เฉลิมพูดฝ่ายเดียว
ต่อข้อถามว่า ถึงเวลานี้ นายครรชิตมีอาการเครียดหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า นายครรชิตไม่เครียด ตนก็บอกเขาว่าอย่าไปทำอะไรที่ทำให้อีกฝายเสียความรู้สึก หรือประชาชนไม่สบายใจ เราต้องเคารพเขาให้มากๆ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงคดีสังหารนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จ.สมุทรสาคร เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) ว่า ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนจากภาพกล้องวงจรปิดที่ตนเคยนำไปเปิดเผยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามหลักฐาน ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง หรือสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือชู้สาว ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจสอบสวน
พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า คดียิงนายอุดรมีความคืบหน้าไปมาก และไม่ได้มีความซับซ้อน ขณะที่การสอบปากคำพยานได้จำนวนหลายปากแล้ว แต่ยังเหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น
ส่วนกรณีการเรียกตรวจวัตถุพยานหรืออาวุธปืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือเรียกตรวจไป 7 กระบอก ซึ่งหนึ่งในนั้นมีของนายครรชิต ทับสุวรรณ ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย และขณะนี้มีคนนำมาให้แล้ว 1 กระบอก ส่วนกรณีที่นายครรชิตปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับหนังสือเรียกสอบปืนจากตำรวจ ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ส่งไปให้แล้วทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งหากในบ่ายวานนี้ (3 ม.ค.) ยังไม่มีการส่งมอบปืนมาให้อีก ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกอีกครั้ง ในวันนี้ (4 ม.ค.) รวมทั้ง อาจจะมีการพิจารณาเพื่อเรียกตัวนายครรชิตเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ด้วย
“เจ้าหน้าที่ทำงานเพื่อเร่งคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ โดยไม่รู้สึกกดดันจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกทั้งพยานที่ได้ให้ปากคำไปแล้ว ก็ยังคงยืนยันในการให้ปากคำเดิม ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก” พ.ต.อ.จำแรงกล่าว
พ.ต.อ.จำแรงกล่าวว่า ในการสอบสวนคดีนี้ เป็นห่วงเรื่องของวัตถุพยานหรือปืนที่เรียกไป ซึ่งขณะนี้ได้มาเพียง 1 กระบอกเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้การติดตามคดีเกิดความล่าช้า เนื่องจากจะต้องรอวัตถุพยานที่มาส่งมอบ และส่งต่อไปให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบ ซึ่งจะต้องเสียเวลาพอสมควร ขณะที่สำนวนของคดีดังกล่าวพร้อมแล้ว เหลือเพียงสรุปวัตถุพยานเท่านั้น
ต่อมาที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ รอง ผบก.ภ.สมุทรสาคร ในฐานะประธานคณะทำงานร่วม และพ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ในฐานะเจ้าของพื้นที่และกำกับดูแลสำนวน ได้มีการติดตามความคืบหน้าของคดี โดยได้เรียกพ.ต.ท.โยธิน เธียรสุขสันต์ สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าของคดีวันเกิดเหตุ เข้ารายงานผลงานสอบสวน
พ.ต.อ.จำแรงกล่าวว่า ตามที่ได้ส่งหนังสือ สภ.เมืองสมุทรสาคร กำหนดให้ส่งอาวุธปืน ในวันที่ 3 ม.ค. จากผู้ต้องหา และผู้ครอบครองปืนขนาด.40 รายอื่นๆ ในเขตสมุทรสาคร ที่กองทะเบียนอำเภอ ระบุช่วงคคีฆ่าแกนนำถ่านหิน พบว่า มีทั้งสิ้น 7 กระบอก แม้ไม่ครบ แต่ก็มีจำนวนหนึ่งส่งเข้ามาพิสูจน์หลักฐานร่วมในคดีนี้แล้ว และถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ก็ไม่หนักใจ อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ เชื่อว่าสามารถสรุปสำนวนดังกล่าวได้แน่นหนา สามารถส่งฟ้องผู้ต้องหาได้ แม้หากทางศาลไม่อนุมัติหมายค้นบ้าน แต่อาจจะลองยื่นศาลขอหมายค้นดูอีกครั้งก็เป็นได้
ทั้งนี้ ล่าสุดนี้ยังได้สั่งการให้ พ.ต.ท.โยธิน เธียรสุขสันต์ สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร เร่งทำผังภาพรวมของการก่อเหตุ และพื้นที่ปั๊มน้ำมันโดยรวม อาทิ ระบุตำแหน่ง ระหว่างเกิดเหตุการณ์สังหารและตำแหน่งจุดพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อไว้ใช้งานอย่างละเอียดแล้ว ในสภาพแผ่นใหญ่พอสมควร เนื่องจากในรูปสำนวนคดีล่าสุดนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมได้ก็แทบจะดำเนินการส่งฟ้องเอาผิดได้สบายๆ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในการหารือครั้งนี้ที่ประชุมได้นำรูปสาวกุ๊ก (ชื่อเล่น) ต้นตอชนวนเหตุกระทบกระทั่ง ถึงขั้นลงไม้ลงมือยิงกันถึงชีวิต ซึ่งล่าสุดตำรวจยังควานหาเจ้าตัวไม่พบ พร้อมกันนี้ ยังมีเสียงครหาแคลงใจของบรรดาประชาชนและจากสื่อ กรณีเหตุการณ์คดีนี้ น่าแปลกใจ ไม่มีภาพวงจรปิดหรือหลักฐานจากการบันทึกภาพคนร้ายออกเผยแพร่ และไม่ให้เล็ดลอดออกสู่หน้าสื่อสิ่งพิมพ์เช่นเดียวกับที่ผ่านมา
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ทีมทนายความนายครรชิต กล่าวถึงการขอตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่แม่ของนายครรชิตไม่รับหนังสือเรียกวัตถุพยาน ทำให้ตำรวจเตรียมออกหมายค้นว่า ก่อนที่ตนลงมาพื้นที่ ตนได้บอกนายครรชิตว่าช่วงรอยต่อของปีเก่าและปีใหม่จะมีหมายค้นออกมา และไม่ได้ค้นที่เดียว จะค้นเป็นชุดแบบปูพรม ปัญหา คือ นยครรชิตไม่ได้รับหมายหรือหนังสือของตำรวจว่าจะให้ทำอย่างไร ส่วนที่แม่นายครรชิตไม่เซ็นรับหนังสือนั้น ตนไม่ทราบ เพราะนายครริคตอยู่คนละบ้านกับแม่ เจ้าตัวจึงไม่ทราบ
"ได้แนะนำกับนายครรชิตว่า เมื่อตำรวจต้องการอาวุธหรือรถ ต้องอำนวยความสะดวก และให้ความร่วมมือกับตำรวจในทุกเรื่อง นายครรชิตเขาก็ยินดี ที่จริงเขาไม่ได้อยู่กับแม่ วันนี้ถ้าไม่ขัดข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาสภาฯ ได้ เพราะมีการประชุมสภาฯ มีเอกสารก็ส่งมา จะเซ็นรับและอำนวยความสะกวดในการตรวจค้น ไม่ต้องไปให้ข่าวผ่านสื่อ"นายนิพิฎฐ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเช่นนี้จะต่อสู้คดีแบบใด นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ในทางคดีการต่อสู้ เรามีแผนอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา เอาเป็นว่า รูปคดีของฝ่ายตรงข้าม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เปิดเผยหมดแล้ว เป็นทั้งวีซีดี และภาพ แต่รูปคดีในการต่อสู้ของเรา ฝ่ายโน้นยังไม่ทราบ เพราะเราจะเอาไปเปิดเผยในชั้นศาล แต่คนเขาเชื่อ เพราะร.ต.อ.เฉลิมพูดฝ่ายเดียว
ต่อข้อถามว่า ถึงเวลานี้ นายครรชิตมีอาการเครียดหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า นายครรชิตไม่เครียด ตนก็บอกเขาว่าอย่าไปทำอะไรที่ทำให้อีกฝายเสียความรู้สึก หรือประชาชนไม่สบายใจ เราต้องเคารพเขาให้มากๆ