ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันมั่นใจปี 55 ท่องเที่ยวยังเติบโตต่อเนื่อง แม้ตลาดยุโรปจะชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ภาพรวมอันดามันยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต (ททท.) เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตตลอดปี 2554 ว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตดีมากตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นมาจนถึงปลายปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วตลอดแม้ในช่วงโลว์ซีซันที่เป็นหน้าฝนของภูเก็ตตัวเลขนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด อย่างในเดือนพ.ค.-ก.ค. ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น 20-30% ทำให้บางพื้นที่ท่องเที่ยวของภูเก็ต เช่น หาดป่าตองไม่มีช่วงโลว์ซีซัน เพราะอัตราเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ สูง
ถัดมาในเดือนต.ค.-พ.ย.เป็นช่วงต้นๆของช่วงไฮซีซันและประเทศไทยประสบปัญหามหาอุทกภัย แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าภูเก็ตไม่ได้ลดลง ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตกลับเพิ่มขึ้นถึง 30%
ทั้งนี้ เนื่องจากภูเก็ตมีเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำทั้งจากยุโรปและเอเชียบินตรงเข้ามาสัปดาห์ละ 360 เที่ยวบิน โดยไม่ต้องแวะที่กรุงเทพฯ ทำให้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต นอกจากนี้ สายการบินต่างๆ ยังได้ทำการบินเส้นทางภายในประเทศเชื่อมระหว่างภูเก็ตกับภาคต่างๆ เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี อุบลราชธานี และพัทยา (อู่ตะเภา) เป็นต้น
การท่องเที่ยวของภูเก็ตเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10 % โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีอัตราการเติบโตสูงมากๆในขณะนี้ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีน ที่ตัวเลขเพิ่มขึ้น 111% จากเดิมที่เข้ามาภูเก็ต ในปี 2553 อยู่ที่ 107,441 คน ปี 2554 นี้เพิ่มเป็น 227,431 คน นักท่องเที่ยวกลุ่มรัสเซียเพิ่มขึ้น 103% ปี 2553 เข้ามา 78,562 เพิ่มเป็น 160,050 คน ในปี 2554 นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย เกาหลี กลุ่มสแกนดิเนเวีย และ ยุโรป ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี สร้างรายได้ให้ภูเก็ตถึง 108,000 ล้านบาท
นางบังอรรัตน์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของภูเก็ตในปี 2555 ว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ตอาจจะได้รับผลกระทบจากตลาดยุโรปที่ชะลอตัว จากปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมของยุโรปที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของภูเก็ตอาจจะชะลอการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางท่องเที่ยวแต่ใช้จ่ายน้อยลง โดยเฉพาะกลุ่มยุโรปตะวันตก แต่ในส่วนของกลุ่มสแกนดิเนเวียยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดเอเชีย ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดจีน รัสเซีย ที่มีการเติบโตสูงมากในขณะนี้ รวมไปถึงตลาดเกาหลี ฮ่องกง เป็นต้น
ส่วนการกระตุ้นตลาด ททท.มีโครงการที่จะออกไปทำโรดโชว์ส่งเสริมการขยายในตลาดหลักของภูเก็ต เช่น ออสเตรเลีย กลุ่มประเทศในอาเซียน มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น
ด้านนายประพฤทธิ์ ข้อเพชร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาบริเวณเขาหลัก ตลอดไปจนถึงหาดบางเหนียง หาดบางสักและหาดอื่นๆในบริเวณนั้นในปีนี้ โดยภาพรวมแล้วคิดว่าตลาดยุโรปน่าจะมีการชะลอตัวบ้าง จากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปที่มีการหดตัวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งปัญหานี้จะทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวหรือไม่ก็เดินทางในที่ท่องเที่ยวที่ราคาถูกกว่าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะตลาดจากเยอรมนีซึ่งเป็นตลาดหลักของเขาหลักน่าจะเป็นตลาดที่มีปัญหามากที่สุด และคิดว่าตลาดนี้น่าจะลดลงไม่ต่ำกว่า 50% จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนตลาดในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียนั้นคิดว่าน่าที่จะอยู่ในภาวะที่ทรงตัว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้พยายามที่จะทำโปรโมชันดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของเขาหลักเดินทางเข้ามาเหมือนทุกปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งหาตลาดใหม่ๆเข้ามาทดแทนตลาดเดิมที่คาดว่าจะมีปัญหาในปีหน้า โดยได้ทำตลาดเพิ่มในส่วนของประเทศเบลเยียม ฝรั่งเศส โปแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และตลาดในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น
ขณะที่นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ในปี 2555 ว่า หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางและกรุงเทพฯคลี่คลายลง จนทุกพื้นที่เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ก็เชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจังหวัดกระบี่ ก็เป็นจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ใฝ่ฝันที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพักผ่อน เนื่องจากจังหวัดกระบี่ มีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งบนบก และทางทะเล
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วยที่จะเป็นตัวชี้วัดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง เช่น เหตุการณ์น้ำท่วม วิกฤตเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆ หากไม่มีปัจจัยลบที่กล่าวมาก็เชื่อว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ในปี 2555 จะสดใส มียอดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าปี 2553 ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 3 ล้านคน ประมาณ 10-20 % หรือ 3.3 ล้านคน โดยจังหวัดกระบี่มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลักที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากสแกนดิเนเวีย และยุโรป ร้อยละ 70% ส่วนที่เหลือก็เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งจากแถบเอเชีย ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และนักท่องเที่ยวคนไทย นอกจากนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดใหม่ๆอย่าง รัสเซีย ก็มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่เพิ่มมากขึ้น