xs
xsm
sm
md
lg

ฝนกระหน่ำคืน"เคานต์ดาวน์" หาดใหญ่จม สงขลา-นราฯ-ปัตตานี-ยะลาอ่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.สงขลา น้ำป่าไหลทะลัก หลังฝนตกหนักคืนเคานต์ดาวน์ หาดใหญ่ ขึ้นธงแดงแจ้งเตือน 8 ชุมชน ให้ประชาชนเตรียมรับมือมวลน้ำที่จะเข้าท่วมตัวเมืองในช่วงกลางคืน ส่วนที่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา อ่วมตามกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สงขลาว่า วันขึ้นปีใหม่ปีนี้ (1 ม.ค.55) เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในพื้นที่ 8 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอของ จ.สงขลาแล้ว หลังจากที่ฝนได้ตกหนักติดต่อกันมา 2 วัน โดยเฉพาะตลอดคืนวันที่ 31 ธ.ค.54 ได้เกิดตกหนักติดต่อกันต่อเนื่องจนถึงเช้าวันเริ่มต้นปีใหม่ การเฉลิมฉลองเคาต์ดาวน์ช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ จึงนองไปด้วยสายฝนที่กระหน่ำหนัก

สำหรับอำเภอที่ถูกน้ำท่วมประกอบด้วย อ.เมืองสงขลา อ.สะเดา อ.จะนะ อ.หาดใหญ่ อ.นาทวี อ.นาหม่อม อ.สะบ้าย้อย และ อ.คลองหอยโข่ง โดยปริมาณฝนที่หนักมากที่สุดคือพื้นที่ อ.สะเดา วัดได้ 301 มิลลิเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 7 โมงเช้าของเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. จนถึง 7 โมงเช้าของวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นน้ำที่จะไหลลงคลองอู่ตะเภา กลางเมืองหาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจสภาพความเสียหายของทั้ง 8 อำเภอ และเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยหลายพื้นที่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมกระทันหัน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เช่น ในพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 7 ของ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ น้ำป่าจากเขาแก้วเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนน และบ้านเรือนของชาวบ้านแบบไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านต้องเคลื่อนย้ายรถยนต์และทรัพย์สินที่จำเป็นไปไว้ที่สูง เนื่องจากปริมาณน้ำยังไหลทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีฝนตกหนักติดต่อกัน

อีกทั้งมีรายงานงานว่า ขณะนี้ถนนกาญจนวานิช เส้นทางสายหลักจาก อ.หาดใหญ่ สู่ อ.สะเดา และด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ถูกน้ำท่วมหนักบริเวณเขตเทศบาลตำบลทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้แล้ว

ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่ตัดสินใจเปลี่ยนธงสัญลักษณ์การเตือนน้ำท่วม จากสีเขียว ที่หมายถึงสถานการณ์ปกติ เป็นสีเหลือง ที่หมายถึงจะต้องเตรียมอพยพ 24 ชั่วโมง

** ขึ้นธงแดงเตือนน้ำทะลักหาดใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วานนี้(1 ม.ค.) ถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สงขลา ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ได้ร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ พร้อมกับเผยว่า มวลน้ำก้อนแรกจะไหลเข้าท่วมในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ ในเวลาประมาณ 19.00 น. บริเวณชุมชนจันทร์วิโรจน์ ชุมชนจันทร์ประทีบ และ ชุมชนรัตนวิบูลย์ ส่วนมวลน้ำก้อนที่สอง จะไหลเข้าท่วมในเวลาประมาณ 22.00 น. ในพื้นที่ 5 ชุมชนริมคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำร.1 คือ ชุมชนเทศาพัฒนา ชุมชนวัดหาดใหญ่ในชุมชนตลาดพ่อพรหม ชุมชนซอย 41 เพชรเกษม และชุมชนคลอง ร.1 จึงได้ขึ้นธงแดง เตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำทะลักเข้าท่วม
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในชุมชนจันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่กว่า 100 คน ได้รวมตัวชุมนุม ที่บริเวณสะพานจันทร์วิโรจน์ เพื่อเตรียมพังกระสอบทรายที่เทศบาลนำมาสร้างเป็นคันกั้นน้ำป้องกันน้ำ บริเวณถนนนิพัทธ์ภักดี ให้ไหลลงคลองจันทร์วิโรจน์ เพื่อป้องกันน้ำที่ทะลักมาจากคลองหวะ ไหลเข้าท่วมพื้นที่ตัวเมืองหาดใหญ่ชั้นใน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจการค้า เนื่องจากกลัวว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในชุมชนหลายร้อยหลังคาเรือน เพราะน้ำในคลองระบายได้ช้าประกอบกับน้ำจากคลองหวะ ได้ไหลทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เทศบาลนครหาดใหญ่ ต้องเข้าเจรจากับกลุ่มชาวบ้าน โดยสัญญาว่า หากระดับน้ำที่ไหลมาจากคลองหวะสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ จะยอมนำกระสอบทรายออกทันที และจะเร่งหาทางนำกระสอบทรายเข้าไปกั้นบริเวณชุมชนจันทร์วิโรจน์ ไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน

** รถไฟหาดใหญ่-ปาดังฯหยุดวิ่ง

เส้นทางรถไฟ หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ถูกตัดขาดแล้ว เนื่องจากน้ำท่วมรางในพื้นที่เขตเทศบาล ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จนไม่สามารถวิ่งผ่านได้ รถไฟขบวนขนส่งสินค้า ต้องจอดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ ส่วนขบวนรถไฟระหว่างประเทศ บัตเตอร์เวอร์ธ - กรุงเทพฯ ที่เดินทางมาจากมาเลเซีย เข้าสู่สถานีหาดใหญ่ ในช่วงเย็นของวันนี้ ต้องจอดที่สถานีปาดังเบซาร์ ส่วนการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังให้บริการตามปกติ

รายงานข่าวระบุว่า น้ำท่วมครั้งนี้ มีชาวบ้านเสียชีวิต จากการจมน้ำแล้ว 1 ราย ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบล พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

** นราธิวาส 8 อำเภอวิกฤติ

ส่วนที่ จ.นราธิวาส หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่ปลูกสร้างอยู่ในที่ราบลุ่ม รวมไปถึงถนนสายหลักในพื้นที่ 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.จะแนะ, อ.ศรีสาคร , อ.สุไหงปาดี , อ.เจาะไอร้อง , อ.บาเจาะ, อ.รือเสาะ, อ.สุคิริน และอำเภอเมือง ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย ในภาพรวม 50-70 ซ.ม. ถนนสายหลักในบางอำเภอ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากลำคลองในแต่ละพื้นที่อำเภอมีวัชพืชหนาแน่น จนไม่สามารถจะระบายน้ำลงสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติได้สะดวก

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพื้นที่น้ำท่วมในเขตเทศบาล ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี พบว่า มีปริมาณน้ำท่วมขังสูง จนชาวบ้านบางครอบครัวเริ่มใช้เรือเป็นพาหนะแทน และจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ที่ปิดบ้านเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัด สถานศึกษาและสถานที่ราชการถูกน้ำท่วมขังจำนวนหลายแห่ง และคาดว่าหากสภาวะฝนยังไม่หยุดตก มีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำท่วมขังจะขยายวงกว้างเป็นทวีคูณ ทั้งนี้ จ.นราธิวาส ได้ประกาศให้พื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.จะแนะ , อ.ศรีสาคร , อ.สุไหงปาดี , อ.เจาะไอร้อง , อ.บาเจาะ, อ.รือเสาะ และ อ.ระแงะ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว

นายสามารถ วราดิศัย รอง ผวจ.นราธิวาส ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี ให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าถ้าฝนยังไม่หยุดตก จะทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมหนักอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละพื้นที่ออกสำรวจ ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนแล้ว

**น้ำป่าหลากท่วมปัตตานี

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ในวันนี้ (1 ม.ค.) ว่า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปัตตานี ได้ประกาศแจ้งพื้นที่น้ำป่าไหลหลาก และเกิดน้ำท่วมแล้วใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยะรัง อ.แม่ลาน อ.กะพ้อ อ.ปะนาเระ และ อ.สายบุรี โดยในเบื้องตนมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 2,000 ครัวเรือน ขณะที่ได้ประกาศแจ้งเตือนทั้ง 12 อำเภอ ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว

นอกจากนี้ ถนนทางหลวง 4 เลน สาย 418 ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรหลักช่วงเขตรอยต่อระหว่าง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี - ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเส้นทาง จนต้องปิดถนนฝั่งขาออกรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งทางหน่วยทหาร ได้จัดกำลังมาคอยอำนวยความสะดวก และอนุญาตให้รถวิ่งผ่านฝั่งขาเข้าได้เพียงช่องทางเดียว และหากฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง คาดว่าถนนสายช่วงดังกล่าวจะมีน้ำไหลหลากแรงเข้าท่วมสูงเพิ่มขึ้นจนไม่สามารถใช้การได้อย่างแน่นอน

ส่วนที่ ม.5 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง น้ำป่า และน้ำจากแม่น้ำปัตตานี ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 300 ครัวเรือน ถนนเข้าออกหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำสูงประมาณ 30-60 ซม. ประชาชนได้นำสิ่งของขึ้นไปไว้บนที่สูง เช่นเดียวกับอีกหลายอำเภอ ที่ในขณะนี้ จังหวัดได้รับรายงานว่า มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและถนนหลายสาย และยังมีความเป็นไปได้สูงที่ระดับน้ำจะขยายวงกว้างขึ้นอีก หากฝนยังตกหนักอย่างนี้ต่อไป ประกอบกับน้ำเหนือจาก จ.ยะลา ที่ไหลลงมาสมทบ

** ผู้ว่าฯยะลาสั่งเร่งอพยพ

วานนี้ (1 ม.ค.) นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายพงศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรี นครยะลา นายเวโรจน์ สายทองแท้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา ได้เดินทางไปอำนวยความช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งได้สั่งการเบื้องต้นด้านการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่บริเวณชุมชนหมู่บ้านเมืองทอง ถนนธนวิถี 5 ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับหมู่ที่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา และในพื้นที่ชุมชนย่านตลาดเก่า และภายในชุมชน มัรกัสยะลา (ศูนย์ดะวะห์) จ.ยะลา หมู่ที่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลาขณะนี้แม่น้ำปัตตานี และบึงแบเมาะ ได้ไหลเข้าเอ่อท่วมในพื้นที่ราบลุ่มในเขตเทศบาลนครยะลา โดยกระแสน้ำไหลได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวต้องเร่งอพยพสิ่งของภายในบ้านเป็นการด่วน ในขณะที่ทางเทศบาลนครยะลา ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวนหลายเครื่อง เพื่อเร่งสูบน้ำอย่างเร่งด่วน

นายเดชรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดยะลาได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์ เครื่องมือในการช่วยเหลือเบื้องต้น ให้กับพี่น้องประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมเป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งได้มีการประกาศ แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่เสี่ยงภัย ให้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ขึ้นในที่สูง และระมัดระวังอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้า ปลั๊กไฟที่อยู่ต่ำ และระมัดระวังสัตว์ร้ายต่างๆ ที่อาจเข้ามารบกวน และทำร้าย ในช่วงที่น้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ สำหรับความเสียหายในเบื้องต้น ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รายงานให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา สรุปได้ดังนี้คือ มีน้ำท่วมคลอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.เมืองยะลา ได้แก่ ต.สะเตงนอก ต.ยุโป ต.ท่าสาป และ ต.ลำใหม่ อ.ยะหา ได้แก่ ต.บาโร๊ะ ต้องอพยพ 20 ครัวเรือน ต.ปะแต ชาวบ้านเดือดร้อน 153 ครัวเรือน และดินสไลด์ทับบ้าน 1 หลัง เสียหายบางส่วน อ.รามัน ต.โกตาบารู รถเล็กผ่านไม่สะดวก ต.กายูบอเกาะ หมู่ที่ 3 และ ม.6 ต.อาซ่อง ม.1,2,5 ต.ท่าธง หมู่ 2,3,7 ต.เกะรอ หมู่ที่ 1,4,7 และ ต.จะกว๊ะ หมู่ 4,5 อ.บันนังสตา ได้แก่ ต.ตลิ่งชัน ต.บาเจาะ และ ต.บันนังสตา อ.กรงปินัง ต.กรงปินัง และสะเอ๊ะ

**ใต้ฝั่งตอ.ระวังฝนหนัก-น้ำท่วม-ดินถล่ม

ด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ออกคำเตือนว่า วันที่ 1-2 ม.ค.55 จะมีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่ข้างต้น จึงขอแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบ และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างใกล้ชิด ขณะที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำ 3 สายหลักของ จ.นราธิวาส มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะที่คลองตันหยงมัส ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 3 เซนติเมตร
กำลังโหลดความคิดเห็น