เชียงราย- กลุ่มครูเมืองพ่อขุนฯ ชุมนุมประท้วงสหกรณ์ฯซ้ำ จี้เปิดประชุมวิสามัญถกปัญหาขนเงินสมาชิกไปร่วมลงทุนซื้อหวย แต่ถูกเอกชนเบี้ยว ส่อสูญเงินร่วม 500 ล้านบาท
วานนี้( 27 ธ.ค.) กลุ่มครูอาจารย์ ที่เป็นสมาชิกออมทรัพย์ครูเชียงราย จำกัด ประมาณ 300 คน ได้รวมตัวชุมนุมกันบริเวณลานศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อเรียกร้องให้สหกรณ์ จ.เชียงราย ในฐานะนายทะเบียน ให้แจ้งสหกรณ์ครูฯเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาถอดถอนคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ
คณะครูที่ชุมนุมกัน เห็นว่า กรรมการสหกรณ์ฯ ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย กรณีสหกรณ์ฯได้ไปลงทุนร่วมกับบริษัทจัมโบ้ ซัพพลาย แอนด์เซอร์วิส จำกัด ในการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่ปี 2553 และมีสัญญาถึง พ.ย.2556 แต่เดือน ก.ค.54 ที่ผ่านมา บริษัทแจ้งยกเลิกสัญญา และไม่คืนเงินค้ำประกันที่สหกรณ์จ่ายให้รวมรายได้อื่นๆ รวมกันประมาณ 478 ล้านบาท หลังจากได้นำเงินไปประกันกับเอกชนจำนวน 556.9 ล้านบาท แต่เอกชนบอกเลิกสัญญากลางคัน โดยแกนนำครูแจ้งว่า ถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้องจะไปยื่นหนังสือต่อจังหวัดและสหกรณ์จังหวัด
จากนั้นแกนนำหลายคน เช่น นายนิวัฒน์ จรุงจิตต์ ประธานสหพันธ์ครูเชียงราย และรองประธานสมาพันธ์ครูภาคเหนือ 16 จังหวัด ,นายสมบัติ จักรสมศักดิ์ กรรมการสหพันธ์ฯ และรองเลขาธิการสมาพันธ์ฯ ,นายวิราช ป้อมบ้านต้า รองเลขาธิการสหพันธ์ฯ ได้ผลัดกันขึ้นกล่าวปราศรัยถึงการดำเนินการของคณะกรรมการสหกรณ์ ที่มีนายวิสิษฐ์ ศรีนุช เป็นประธานคณะกรรมการสหกรณ์ฯ
พวกเขาต้องการให้มีการเปิดประชุมวิสามัญขึ้น หลังจากที่คณะครูกลุ่มนี้เคยชุมนุมและไปยื่นหนังสือที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นตามระเบียบจึงต้องเปิดประชุมวิสามัญภายใน 30 วัน แต่ที่ผ่านมามีความพยายามยื้อให้ไปประชุมควบรวมกับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 14 ม.ค.55 ซึ่งจะมีวาระอื่นๆ รวมอยู่เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าก่อนการชุมนุมเพียงเล็กน้อย สหกรณ์จังหวัดได้ส่งหนังสือถึงคณะครูว่า ได้แจ้งให้สหกรณ์ฯจัดการประชุมวิสามัญได้ในวันที่ 6 ม.ค.55 ซึ่งตรงกับหลักเกณฑ์ทำให้คณะครูที่ชุมนุมกันยุติการชุมนุมไปในที่สุด
นายนิวัฒน์ จรุงจิตต์ ประธานสหพันธ์ครูเชียงราย และรองประธานสมาพันธ์ครูภาคเหนือ 16 จังหวัดกล่าวว่า เมื่อได้หนังสือแจ้งเรื่องการเปิดประชุมวิสามัญแล้วพวกเราก็จะผลักดันเพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการถอดถอนคณะกรรมการต่อไป เพราะเห็นว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาชิกสหกรณ์ฯอย่างมาก ทั้งๆ ที่เคยทักท้วงกันมาแล้วตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ การประชุมวิสามัญจะเป็นผลดีเพราะทำให้มีการดำเนินการเรื่องนี้โดยตรง แต่หากประชุมสามัญใหญ่ประจำปีจะมีวาระอื่นๆ อีกมาก ขณะเดียวกัน ครั้งนี้หลังจากเรื่องพิจารณาถอดถอนจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดใหม่ไปพร้อมๆ กันด้วย
นายสมบัติ จักรสมศักดิ์ กรรมการสหพันธ์ฯ และรองเลขาธิการสมาพันธ์ฯ กล่าวว่า สหกรณ์ มีทุนดำเนินการกว่า 10,000 ล้านบาท และหุ้นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนสมาชิกก็มีกว่า 10,000 คน ซึ่งถือเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันมีตัวแทน 1 ต่อ 20 หรือประมาณ 550 คนในการประชุมวิสามัญ ซึ่งคาดหวังว่าในการประชุมวิสามัญตัวแทนสมาชิกทั้งหมดจะร่วมกันถอดถอนคณะกรรมการทั้ง 15 คน เพราะสร้างความเสียหายอย่างมากและเลือกตัวแทนใหม่เข้าไปดำเนินการและแก้ไขปัญหาเก่าๆ
ขณะที่นายวิราช กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีผู้รับผิดชอบต่องบประมาณที่หายไปกว่า 478 ล้านบาท ยังไม่มีใครรับสภาพหนี้ และแม้ว่าจะมีการของบประมาณจากสหกรณ์ 300,000 บาทไปทำเรื่องฟ้องร้องกับเอกชน ก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว ดังนั้น หากปล่อยเรื่องราวยืดเยื้อก็จะทำให้หนี้สินตกเป็นภาระของสมาชิกสหกรณ์ฯ ซึ่งถือเป็นผลเสียอย่างมาก ขณะที่คนทำให้เกิดความเสียหายกลับลอยนวล