ASTVผู้จัดการรายวัน - "วิฑูรย์" ประธานกอน.เรียกโรงงานน้ำตาล-ชาวไร่เคลียร์ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายหลังเห็นต่างก่อนนัดถก กอน. 23 ธ.ค.นี้ หวังสรุปราคาขั้นสุดท้ายและขั้นต้นปี 54/55 "ชาวไร่" ขู่ถ้าไม่มีข้อสรุปชง ครม. 27 ธ.ค.นี้เจอดีแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(21 ธ.ค.) นาย วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.)ได้เรียกตัวแทนจากโรงงานน้ำตาลทรายและชาวไร่อ้อยเข้าพบเพื่อให้ได้ข้อยุติราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูกาลผลิตปี 53/54 ที่ยังตกลงไม่ได้เพื่อที่จะสรุปนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ทันก่อนสิ้นปีนี้เพื่อประกาศราคาทั้งราคาขั้นสุดท้ายและขั้นต้นฤดูกาลผลิต ปี 54/55 โดยจะมีการประชุม กอน.อีกครั้งในวันที่ 23 ธ.ค.นี้เพื่อสรุปเสนอ ครม.วันที่ 27 ธ.ค.
นายกำธร กิตติโชคทรัพย์ ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวหลังเข้าพบประธาน กอน.ว่า ชาวไร่ยืนยันตามมติคณะกรรมการบริหาร(กบ.)ที่เฉลี่ยทั่วประเทศราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 53/54 จะสูงกว่าขั้นต้นที่ 147 บาทต่อตัน (ขั้นต้นอยู่ที่ 945 บ.ต่อตัน) ขณะที่ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูกาลผลิตปี 54/55 ชาวไร่อ้อยต้องการเพิ่มอีก 200 บาทต่อตันจากที่กอน.เห็นชอบที่ 1,000 บาทต่อตัน โดยทั้งหมด กอน.จะต้องสรุปวันที่ 23 ธ.ค.เพื่อเสนอ ครม. 27 ธ.ค.นี้ หากไม่จบชาวไร่ลุยแน่
สำหรับผลผลิตอ้อยฤดูกาลผลิตปี 54/55 ที่กำลังเปิดหีบขณะนี้มองว่าจะไม่ได้ตามที่ประเมินไว้ระดับ 99.5 ล้านตันแน่นอนเนื่องจาก พบว่าอ้อยเจอทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งผสมกันไป โดยภาคเหนือน้ำท่วมแต่ภาคกลางตอนล่างกลับเจอภัยแล้งเฉพาะเขต 7 ก็น่าจะลดลงถึง 10% ดังนั้นคาดว่าผลผลิตอ้อยมีโอกาสจะต่ำกว่า ปีที่แล้วซึ่งอยู่ระดับ 95 ล้านตัน
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มน้ำตาลมิตรผล กล่าวว่า กรณีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงกติกาน่าจะหารือกันก่อน ส่วนขั้นต้นนั้นโรงงานต้องการเห็นชาวไร่ได้รับราคาที่สูงอยู่แล้วแต่ฝ่ายราชการ จะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ดูความเหมาะสมด้วย
คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.น้ำตาลตะวันออก จำกัด และในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตน้ำตาลและชีวพลังงานไทย กล่าวว่า ถ้าฝ่ายรัฐเห็นว่าสิ่งที่ดำเนินการแล้วเป็นธรรม เป็นประโยชน์ชาติโรงงานไม่ปฏิเสธ ดังนั้นต้องการเห็น กอน.มองการพัฒนาไปข้างหน้าเพราะไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลเป็นอันดับ 2
แหล่งข่าวจาก กอน.กล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปที่จะให้โรงงานจ่ายราคาอ้อยขั้นสุดท้ายไปก่อนแล้วตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูข้อเท็จจริงแล้วจึงนำไปหักลบในราคาขั้นสุดท้ายปี 54/55 โดยปัญหาราคาขั้นสุดท้ายดังกล่าวอยู่ที่การคำนวณ ราคาโมลาส(กากน้ำตาล)ที่โรงงานต้องการยึดกติกาเดิมที่คิดเฉพาะราคาส่งออก แต่ชาวไร่ต้องการคิดราคาตามข้อเท็จจริงที่ขณะนี้ส่วนใหญ่ขายในประเทศและไม่มีต้นทุนขนส่งซึ่งส่วนต่างดังกล่าวอยู่ที่ 8 บาทต่อตันหรือคิดเป็น เงิน 800 ล้านบาท ขณะที่ขั้นต้นปี 54/55 กบ. ได้เห็นชอบส่วนเพิ่มให้ชาวไร่เพียง 158 บาทต่อตันคงจะต้องดูว่าที่สุดจะยืนมติเดิมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(21 ธ.ค.) นาย วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.)ได้เรียกตัวแทนจากโรงงานน้ำตาลทรายและชาวไร่อ้อยเข้าพบเพื่อให้ได้ข้อยุติราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูกาลผลิตปี 53/54 ที่ยังตกลงไม่ได้เพื่อที่จะสรุปนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ทันก่อนสิ้นปีนี้เพื่อประกาศราคาทั้งราคาขั้นสุดท้ายและขั้นต้นฤดูกาลผลิต ปี 54/55 โดยจะมีการประชุม กอน.อีกครั้งในวันที่ 23 ธ.ค.นี้เพื่อสรุปเสนอ ครม.วันที่ 27 ธ.ค.
นายกำธร กิตติโชคทรัพย์ ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวหลังเข้าพบประธาน กอน.ว่า ชาวไร่ยืนยันตามมติคณะกรรมการบริหาร(กบ.)ที่เฉลี่ยทั่วประเทศราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 53/54 จะสูงกว่าขั้นต้นที่ 147 บาทต่อตัน (ขั้นต้นอยู่ที่ 945 บ.ต่อตัน) ขณะที่ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูกาลผลิตปี 54/55 ชาวไร่อ้อยต้องการเพิ่มอีก 200 บาทต่อตันจากที่กอน.เห็นชอบที่ 1,000 บาทต่อตัน โดยทั้งหมด กอน.จะต้องสรุปวันที่ 23 ธ.ค.เพื่อเสนอ ครม. 27 ธ.ค.นี้ หากไม่จบชาวไร่ลุยแน่
สำหรับผลผลิตอ้อยฤดูกาลผลิตปี 54/55 ที่กำลังเปิดหีบขณะนี้มองว่าจะไม่ได้ตามที่ประเมินไว้ระดับ 99.5 ล้านตันแน่นอนเนื่องจาก พบว่าอ้อยเจอทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งผสมกันไป โดยภาคเหนือน้ำท่วมแต่ภาคกลางตอนล่างกลับเจอภัยแล้งเฉพาะเขต 7 ก็น่าจะลดลงถึง 10% ดังนั้นคาดว่าผลผลิตอ้อยมีโอกาสจะต่ำกว่า ปีที่แล้วซึ่งอยู่ระดับ 95 ล้านตัน
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มน้ำตาลมิตรผล กล่าวว่า กรณีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงกติกาน่าจะหารือกันก่อน ส่วนขั้นต้นนั้นโรงงานต้องการเห็นชาวไร่ได้รับราคาที่สูงอยู่แล้วแต่ฝ่ายราชการ จะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ดูความเหมาะสมด้วย
คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.น้ำตาลตะวันออก จำกัด และในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตน้ำตาลและชีวพลังงานไทย กล่าวว่า ถ้าฝ่ายรัฐเห็นว่าสิ่งที่ดำเนินการแล้วเป็นธรรม เป็นประโยชน์ชาติโรงงานไม่ปฏิเสธ ดังนั้นต้องการเห็น กอน.มองการพัฒนาไปข้างหน้าเพราะไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลเป็นอันดับ 2
แหล่งข่าวจาก กอน.กล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปที่จะให้โรงงานจ่ายราคาอ้อยขั้นสุดท้ายไปก่อนแล้วตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูข้อเท็จจริงแล้วจึงนำไปหักลบในราคาขั้นสุดท้ายปี 54/55 โดยปัญหาราคาขั้นสุดท้ายดังกล่าวอยู่ที่การคำนวณ ราคาโมลาส(กากน้ำตาล)ที่โรงงานต้องการยึดกติกาเดิมที่คิดเฉพาะราคาส่งออก แต่ชาวไร่ต้องการคิดราคาตามข้อเท็จจริงที่ขณะนี้ส่วนใหญ่ขายในประเทศและไม่มีต้นทุนขนส่งซึ่งส่วนต่างดังกล่าวอยู่ที่ 8 บาทต่อตันหรือคิดเป็น เงิน 800 ล้านบาท ขณะที่ขั้นต้นปี 54/55 กบ. ได้เห็นชอบส่วนเพิ่มให้ชาวไร่เพียง 158 บาทต่อตันคงจะต้องดูว่าที่สุดจะยืนมติเดิมหรือไม่
