ทลายคลังแสงกลุ่มอาร์เคเค ยึดอาวุธสงครามของกลางเพียบ

นราธิวาส - เจ้าหน้าที่กำลัง 3 ฝ่ายทลายคลังแสงกลุ่มแนวร่วมอาร์เคเค ในพื้นที่รือเสาะ ยึดอาวุธปืนสงคราม 6 กระบอกและของกลางอื่นๆ อีกเพียบ ด้านผบ.ทบ.สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ชายแดน ช่วงเทศกาลปีใหม่ให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดรับมือทุกสถานการณ์

วานนี้ (20 ธ.ค.) พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พ.ท.กำธร ศรีเกตุ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ท.ธนิต แสงจันทร์ รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้ร่วมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือ ควบคุมตัวนายอับดุลรอแม ฮาเระ สมาชิกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ที่ถูกจับกุมตัวได้ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 4 ม.2 บ้านบูเก๊ะนากอ ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ พร้อมทั้งได้วิสามัญนายรุสลัน มาเน็ง แกนนำระดับปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคเสียชีวิต เหตุเกิดในช่วงเช้าของเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนายอับดุลรอแม ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยแจ้งเบาะแสแหล่งซุกซ่อนของคลังแสงที่กองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ และ อ.รามัน จ.ยะลา ใช้สำหรับเคลื่อนไหวลอบก่อเหตุร้ายในพื้นที่

เมื่อถึงเป้าหมายนายอับดุลรอแม ได้นำเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปในสวนยางพาราที่มีขนำร้างสร้างอยู่ ซึ่งตั้งอยู่บ้านกูยิ ม.4 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ และได้บอกให้เจ้าหน้าที่ใช้พลั่วสนามทำการขุดดินที่บริเวณใต้ขนำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเนินดินที่ถูกกลบใหม่ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการขุดไปได้ประมาณ 50 เซ็นติเมตร(ซม.)ก็พบของกลางต่างๆ ที่ถูกฝังและหุ้มด้วยผ้ายางกันฝน 3 จุด เจ้าหน้าที่จึงได้ขุดมาตรวจสอบพบว่าของกลางที่ถูกฝังไว้มีเกือบ 100 รายการ และบางส่วนมีการชโลมด้วยน้ำมันหล่อลื่นเพื่อป้องกันสนิม

ของกลางต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม16 จำนวน 4 กระบอก อาวุธปืน เอชเค จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนคาร์บิน 1 กระบอก กระสุนปืน เอ็ม60 จำนวน 53 นัด กระสุนปืนเอ็ม16 จำนวน 43 นัด กระสุนปืนคาร์บิน จำนวน 113 นัด หมวกกันกระสุน 3 ใบ หมวกแก๊ปลายพราง 1 ใบ แผ่นเกราะกันกระสุน 4 แผ่น ปลอกเสื้อกันกระสุน 2 ตัว ปุ๋ยยูเรีย 3 ถุง ประทัดยักษ์ 94 นัด ชิ้นส่วนอาวุธปืน เอชเค ชิ้นส่วนอาวุธปืนเอ็ม16 ซองกระสุนปืน 9 ซอง สปริงปืนเอ็ม 16 และชิ้นส่วนลั่นไกปืน แบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ เวชภัณฑ์เสื้อผ้าต่างๆ ที่ใช้ในการเคลื่อนไหว รองเท้าคอมแบตทหาร และรองเท้าผ้าใบ 11 คู่ ปลอกมีดสปาร์ต้า ไขควง เทปพันสายไฟ เข็มขัดสนาม หมวกกอปิเยาะ หนังสือและเอกสารต่างๆ ที่ใช้ปลุกระดม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางและประสานชุดนิติวิทยาศาสตร์มาทำการตรวจสอบ ดีเอ็นเอ และคราบลายนิ้วมือแฝงและพบว่าอาวุธปืนทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้ส่วนหนึ่งคนร้ายใช้ในการดักลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู สังกัด ฉก.นราธิวาส 30 เสียชีวิต 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2554

ภายหลังตรวจของกลางทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ พ.อ.สมพล ปานกุล เสธ.พล.ร้อย 15 นายวรเชษฐ์ พรหมโอภาษ นายอำเภอรือเสาะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ สภ.รือเสาะ

พ.ต.อ.สะท้านฟ้า เปิดเผยว่า ของกลางที่เจ้าหน้าที่ร่วมตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้ เนื่องจากนายอับดุลรอแม ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หลังถูกจับกุม ซึ่งเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่นายอับดุลรอแม เกิดความสำนึกผิด จึงได้นำเจ้าหน้าที่รีบไปทำการตรวจยึด ก่อนที่กลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เตรียมจะใช้อาวุธปืนและของกลางทั้งหมดดังกล่าว ใช้เคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้

ผบ.ทบ.กำชับคุมเข้มช่วงปีใหม่

วันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรับฟังสรุปข้อมูลภาพรวมของสถานการณ์ และเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ตามกรอบยุทธศาสตร์ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมถึงนโยบาย และมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตเมือง ในย่านชุมชน และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น และยังได้กำชับการปฏิบัติงานแก่หน่วยกำลังทุกภาคส่วน ที่เข้าร่วมในการประชุมด้วย

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้าได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ไม่ว่าทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ รวมทั้งพี่น้องประชาน ให้มีการเพิ่มความระมัดระวัง อย่าประมาท ช่วยกันสอดส่องดูแลในพื้นที่

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ที่มีลักษณะผิดสังเกตหรือ ต้องสงสัย และมีท่าทางพิรุธ หากพบเห็นให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เพื่อเข้าทำการตรวจสอบ โดยเน้นย้ำให้มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดต่างๆ ในพื้นที่ ให้มีความครอบคลุม ตรวจสอบยานพาหนะ บุคคลต้องสงสัย เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน