“สุขุมพันธุ์” ควง “ยิ่งลักษณ์” พร้อม “พล.อ.ประยุทธ์” ตรวจการระบายน้ำพื้นที่ชั้นใน เล็งระบายน้ำลงคลองลาดพร้าว-แสนแสบ-ประเวศ สู่คลองพระโขนง ก่อนจะผันน้ำออกเจ้าพระยา โดยอุโมงค์และประตูระบายน้ำพระโขนง ด้านผบ.ทบ.ห่วงสถานการณ์น้ำที่คลองหนึ่ง-สอง ขณะที่ กทม.ขออาสาสมัครกรอกทรายที่ ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซอยสายไหม 43 เหตุต้องตั้งกระสอบทรายเพิ่มอีก 1 แถว จำนวน 300,000 กระสอบ ภายในคืนนี้
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เวลา 12.00 น. : นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 สถานีสูบน้ำพระโขนง เพื่อหารือและวางแนวทางในการเร่งระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสถานีสูบน้ำพระโขนงจะทำการสูบน้ำจากคลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ และคลองประเวศ ลงสู่คลองพระโขนง ก่อนจะผันน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยอุโมงค์และประตูระบายน้ำพระโขนง มีประสิทธิภาพในระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมประมาณ 215 ลบ.ม./วินาที กทม.ได้เดินเครื่องสูบน้ำอย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด พร้อมทั้งเปิดประตูระบายน้ำทุกแห่ง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำแล้ว แต่ในส่วนของประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนายังไม่สามารถเปิดประตูได้เต็มที่ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณเลียบคลอง อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า หากเกิดภาวะน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ จะไม่ท่วมพร้อมกันทั้ง 50 เขต และจะท่วมไม่นานเหมือนจังหวัดอื่นๆ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมระบบระบายน้ำของ กทม.ว่า มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้ดี พร้อมทั้งให้ กทม.ประสานความร่วมมือกับกองทัพในการบริหารการจัดการน้ำร่วมกัน รวมทั้งให้ กทม.สำรวจแนวคั้นกั้นน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่จังหวัดนนทบุรี จนถึงพื้นที่ของ กทม.ให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำ
ด้านผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ขณะนี้ห่วงสถานการณ์น้ำบริเวณคลองหนึ่ง คลองสอง ซึ่งเชื่อมคลองรังสิต เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเขตสายไหม ทั้งนี้จากการบินสำรวจพบว่าน้ำจากทุ่งรังสิตได้ไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ ด้านตะวันออก
ขณะที่น้ำในพื้นที่ตะวันตกของ กทม.กำลังระบายสู่แม่น้ำท่าจีน ขณะเดียวกันระดับน้ำที่อยุธยามีแนวโน้มลดลง 1-2 ซม.ซึ่งกองทัพจะมีการปรับกำลังทหารที่ทำงานรอบนอกพื้นที่กรุงเทพฯ เข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามจุดสำคัญต่อไป
ขอแรงอาสาสมัครร่วมบรรจุกระสอบทรายแนวป้องกันเขตสายไหม
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแจ้งว่า กทม.ต้องการอาสาสมัครจำนวนมากช่วยบรรจุกระสอบทราย ณ ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซอยสายไหม 43 เนื่องจากแนวคันกั้นน้ำเขตสายไหมต้องตั้งกระสอบทรายเพิ่มอีก 1 แถว จำนวน 300,000 กระสอบ ภายในคืนนี้
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เวลา 12.00 น. : นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 สถานีสูบน้ำพระโขนง เพื่อหารือและวางแนวทางในการเร่งระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสถานีสูบน้ำพระโขนงจะทำการสูบน้ำจากคลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ และคลองประเวศ ลงสู่คลองพระโขนง ก่อนจะผันน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยอุโมงค์และประตูระบายน้ำพระโขนง มีประสิทธิภาพในระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมประมาณ 215 ลบ.ม./วินาที กทม.ได้เดินเครื่องสูบน้ำอย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด พร้อมทั้งเปิดประตูระบายน้ำทุกแห่ง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำแล้ว แต่ในส่วนของประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนายังไม่สามารถเปิดประตูได้เต็มที่ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณเลียบคลอง อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า หากเกิดภาวะน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ จะไม่ท่วมพร้อมกันทั้ง 50 เขต และจะท่วมไม่นานเหมือนจังหวัดอื่นๆ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมระบบระบายน้ำของ กทม.ว่า มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้ดี พร้อมทั้งให้ กทม.ประสานความร่วมมือกับกองทัพในการบริหารการจัดการน้ำร่วมกัน รวมทั้งให้ กทม.สำรวจแนวคั้นกั้นน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่จังหวัดนนทบุรี จนถึงพื้นที่ของ กทม.ให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำ
ด้านผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ขณะนี้ห่วงสถานการณ์น้ำบริเวณคลองหนึ่ง คลองสอง ซึ่งเชื่อมคลองรังสิต เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเขตสายไหม ทั้งนี้จากการบินสำรวจพบว่าน้ำจากทุ่งรังสิตได้ไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ ด้านตะวันออก
ขณะที่น้ำในพื้นที่ตะวันตกของ กทม.กำลังระบายสู่แม่น้ำท่าจีน ขณะเดียวกันระดับน้ำที่อยุธยามีแนวโน้มลดลง 1-2 ซม.ซึ่งกองทัพจะมีการปรับกำลังทหารที่ทำงานรอบนอกพื้นที่กรุงเทพฯ เข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามจุดสำคัญต่อไป
ขอแรงอาสาสมัครร่วมบรรจุกระสอบทรายแนวป้องกันเขตสายไหม
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแจ้งว่า กทม.ต้องการอาสาสมัครจำนวนมากช่วยบรรจุกระสอบทราย ณ ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซอยสายไหม 43 เนื่องจากแนวคันกั้นน้ำเขตสายไหมต้องตั้งกระสอบทรายเพิ่มอีก 1 แถว จำนวน 300,000 กระสอบ ภายในคืนนี้