xs
xsm
sm
md
lg

รัฐประหารล้มรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

สถานภาพของรัฐบาลเข้าสู่สภาวะสั่นคลอนจนกล่าวได้ว่า เวลานี้เกิดกระแสพูดกันมากว่า อาจเกิดรัฐประหาร หรือไม่ก็มีกระบวนการล้มรัฐบาลตามแผน ๙ ขั้นขึ้นแล้ว

กระแสแรกคือ ชนวนแรกว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ซึ่งทำให้มีการพูดถึงการแก้ไขพ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๒๑ ซึ่งอาจเป็นการสร้างกระแสเสี้ยมให้รัฐบาลกับกองทัพโดยยกกรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารมาเป็นเหตุ

ปม พ.ร.บ.กลาโหมที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงเมื่อครั้งรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ นั้นก็เพื่อป้องกันการล้วงลูกจากฝ่ายการเมืองโดยการแต่งตั้งโยกย้ายผบ.เหล่าทัพต้องใช้มติจากสภากลาโหม

การเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากฝ่ายรัฐบาล มาจากทหารซึ่งเป็นเพื่อนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เช่น พ.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี และพล.อ.มะ โพธิ์งาม เป็นต้น และผู้ที่ให้ความเห็นได้จะแจ้งที่สุดคือพล.อ.จงศักดิ์ พานิชกุล ซึ่งได้ออกมาเคลื่อนไหวให้มีการเคลื่อนไหวแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหมโดยชี้ว่ารัฐบาลทำงานลำบาก

พรรคเพื่อไทยสามารถแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับนี้ได้โดยให้ครม.เสนอเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา

แต่เรื่องนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ออกมาคัดค้านโดยกล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะยังไม่เห็นว่ากองทัพจะไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลแต่อย่างใด ดังนั้น จะใช้ความไม่พอใจส่วนตัวมาแก้ไขกฎหมายเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายการเมือง โดยอ้างว่าได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนแล้วสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ได้ เพราะกฎหมายหลายฉบับที่ออกมาเป็นผลพวงจากฝ่ายการเมืองที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต

หากมีประเด็นว่ากองทัพไม่สนองนโยบายรัฐบาล ทำให้มีปัญหาในการบริหารก็สามารถปรับปรุงให้เกิดความพอดีได้ แต่ไม่ใช่ว่าการเมืองจะต้องเข้าไปวุ่นวายทุกเรื่อง

หากคิดว่าจะแก้พ.ร.บ.กลาโหมจริง ก็ต้องบอกให้ชัดว่ามีปัญหาอะไร ในสมัยตนเป็นนายกรัฐมนตรีมีการเปลี่ยนนโยบายที่กระทบอำนาจกองทัพโดยตรงในเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้จากการทหารนำการเมืองไปเป็นการเมืองนำการทหารก็ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากกองทัพ แต่วันนี้ถ้ารัฐบาลไม่พอใจเพราะอยากให้ฝ่ายการเมืองตั้งคนได้ตามใจชอบก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ส่งสัญญาณให้แนวร่วมด้วยเพราะในการหาเสียงเคยบอกว่าต้องอาศัยความนุ่มนวลทำให้เกิดความปรองดองกัน

ส่วนที่อ้างว่าพ.ร.บ.กลาโหมเป็นผลไม้พิษที่เกิดหลังการรัฐประหารนั้น ต้องย้อนดูด้วยว่ากฎหมายเหล่านี้เกิดขึ้นจากพิษสงของนักการเมืองที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตจึงต้องหาความพอดี ทั้งนี้ไม่ต้องการเห็นอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นจากแรงกดดันของกองทัพ

ด้านพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนไม่กังวลว่าการเมืองจะนำประเด็นว่ามีการกดดันเคลื่อนไหวไปสู่การแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหม ขอให้เห็นใจเพราะทหารมีภารกิจคนละอย่าง และถ้าเกิดสงครามขึ้นมาก็จำเป็นต้องมีการสั่งกำลังพลออกไปรบเหมือนสั่งคนไปตาย ถ้าตั้งคนไม่ได้ก็สั่งกันไม่ได้ จะทำอย่างไร และการมีพ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาต้องมีเหตุผลและหลักการ ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนการเคลื่อนไหวต่างๆ ตนไม่อยากไปขัดแย้งกับใครทั้งนั้น ประเด็นคือ ต้องการให้บ้านเมืองก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ได้ดีเสียก่อน การจะมีหรือไม่มีพ.ร.บ.รวมทั้งการแต่งตั้งจะเป็นอย่างไรก็ให้ดูจากที่เขาทำงานหรือควบคุมและทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้หรือไม่ “ถ้าเห็นผมไม่ทำประโยชน์ก็ย้ายผมได้” ผบ.ทบ.กล่าวและเสริมด้วยว่า ผมนำกองทัพได้ดีหรือไม่ กองทัพอ่อนแอหรือเปล่า ถ้าหากทำให้กองทัพอ่อนแอก็คงต้องโดนลงโทษ

เมื่อสื่อมวลชนถามว่ากังวลหรือไม่ว่าทหารจะถูกโจมตีจนทำให้กดดันและออกมาปฏิวัติ พล.อ.ประยุทธก็กล่าวว่าแล้วใครจะปฏิวัติ กองทัพก็มีกองทัพเดียวแต่ถ้าคุมกำลังก็กองทัพบก ไม่เห็นจะมีใครมาตั้งหน้าตั้งตาปฏิวัติ

ทางพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหมเพราะทำให้เกิดการลักลั่นในการบริหารแผ่นดิน พ.ร.บ.นี้ตราขึ้นมาไม่รู้ว่ามีจุดมุ่งหมายอะไร เพราะไปล็อคอำนาจในการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ของกระทรวงให้ผูกขาดอยู่ในตัว เป็นการตัดตอนอำนาจทางการบริหารของรัฐบาลและนายกฯ ที่ต้องสั่งการได้ทุกกระทรวง

โฆษกพรรคเพื่อไทยยังออกมาระบุถึงขบวนการล้มล้างรัฐบาลโดยมีแผน ๙ ขั้น ว่าหลังจากเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปก็มีคนกินปูนร้อนท้องออกมาตอบโต้ที่ผ่านมาไม่มีใครเชื่อว่าจะมีการยึดอำนาจกันหลังจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ๓๗๗ เสียง แต่มันก็มีกระบวนการปลุกระดมล้มอำนาจประชาชนเกิดขึ้น ยืนยันว่าเชื้อชั่วไม่มีวันตาย วันนี้รัฐบาลกำลังบริหารประเทศได้ดี มีแนวโน้มจะอยู่ยาวเพราะนโยบายเร่งด่วน ๑๕ ข้อของรัฐบาลทำไปแล้ว ๘ ข้อภายในเวลาช่วง ๑ เดือน ขณะที่การแก้ปัญหาน้ำท่วมก็เดินมาถูกทางแล้ว

ครับ การที่ปัญหาพ.ร.บ.กลาโหม กำลังเป็นปมประเด็นขัดแย้งระหว่างทหารกับรัฐบาล และมีการตอบโต้กันไปมา จนถึงกับท้าทายกันให้ปลดผบ.ทบ.นี้ หลายคนจึงหวั่นว่าอาจมีกระแสรัฐประหารเกิดขึ้นและแผนการล้มรัฐบาล ๙ ขั้นที่ว่ามีการจ้องทำลายรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น จึงทำให้เวลานี้จึงพูดกันว่ารัฐบาลเผชิญปัญหารัฐประหารล้มรัฐบาลอยู่ในขณะนี้และน่าอันตรายมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น