ASTVผูัจัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเครื่องหมาย SP หุ้น " เอสเอ็มซี พาวเวอร์ " เนื่องจากยังไม่ส่งงบการเงินปี 54 ทั้ง 3 ไตรมาส แม้จะส่งงบการเงินปี 53 ครบหมดแล้ว พบมีผลงานขาดทุนเพิ่มขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ตลท. แจ้งว่าตามที่บริษัทได้ประกาศให้บริษัท เอสเอ็มซี พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนพร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 54 และขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 54 รวมทั้งคงเครื่องหมาย "SP"(Suspension) สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SMC เนื่องจากไม่ได้นำส่ง งบการเงินไตรมาสที่ 3สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 53 และงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 53 ฉบับที่ ก.ล.ต. สั่งแก้ไขตามระยะเวลาที่กำหนด นั้น
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ SMC ได้นำส่งงบการเงินฉบับที่แก้ไขตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต. ดังกล่าวมายังตลาดหลักทรัพย์แล้ว อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ยังคงสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SMCโดยคงเครื่องหมาย SP ต่อไป เนื่องจาก SMC ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม54 ,ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 และไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 54 มายังตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งยังไม่ได้แก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนให้เป็นไปตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
นายกฤษณ สุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ SMC แจ้งว่าผลประกอบการตามงบการเงินรวมสำหรับงวดปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 53 บริษัท เอสเอ็มซีพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ มีผลขาดทุน 284 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลขาดทุน 159 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52 มีสาเหตุจากบริษัทย่อย ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เดวา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 52
โดยผลงานงวดดังกล่าวบริษัทมีรายได้รวม 372 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและรายได้จากงานก่อสร้าง 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 139 ล้านบาทของงวดเดียวกันในปี 52 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 152% เนื่องจากบริษัทฯและบริษัทย่อยมีการรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และต้นทุนค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมเพิ่มขึ้น
ขณะที่ไตรมาส 3 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 139.56 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 71 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ตลท. แจ้งว่าตามที่บริษัทได้ประกาศให้บริษัท เอสเอ็มซี พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนพร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 54 และขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 54 รวมทั้งคงเครื่องหมาย "SP"(Suspension) สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SMC เนื่องจากไม่ได้นำส่ง งบการเงินไตรมาสที่ 3สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 53 และงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 53 ฉบับที่ ก.ล.ต. สั่งแก้ไขตามระยะเวลาที่กำหนด นั้น
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ SMC ได้นำส่งงบการเงินฉบับที่แก้ไขตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต. ดังกล่าวมายังตลาดหลักทรัพย์แล้ว อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ยังคงสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SMCโดยคงเครื่องหมาย SP ต่อไป เนื่องจาก SMC ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม54 ,ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 และไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 54 มายังตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งยังไม่ได้แก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนให้เป็นไปตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
นายกฤษณ สุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ SMC แจ้งว่าผลประกอบการตามงบการเงินรวมสำหรับงวดปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 53 บริษัท เอสเอ็มซีพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ มีผลขาดทุน 284 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลขาดทุน 159 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52 มีสาเหตุจากบริษัทย่อย ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เดวา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 52
โดยผลงานงวดดังกล่าวบริษัทมีรายได้รวม 372 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและรายได้จากงานก่อสร้าง 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 139 ล้านบาทของงวดเดียวกันในปี 52 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 152% เนื่องจากบริษัทฯและบริษัทย่อยมีการรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และต้นทุนค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมเพิ่มขึ้น
ขณะที่ไตรมาส 3 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 139.56 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 71 ล้านบาท