ASTV ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยงบการเงินบริษัทจดทะเบียนงวด 9 เดือน ปี 2554 หลังจากบางส่วนที่ได้รับการผ่อนผันนำส่งงบการเงินช้ากว่ากำหนดเนื่องจากปัญหาอุทกภัยนำส่งงบการเงินแล้ว พบบริษัทจดทะเบียนใน SET รวม 442 แห่ง คิดเป็น 93.64% จากทั้งหมด 472 แห่ง สามารถทำกำไรสุทธิรวมสูงถึง 518,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายรวมถึง 6,428,534 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24.89%
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) มีกำไรสุทธิ 386 บริษัท คิดเป็น 87.33% ของบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด ในจำนวนนี้มีบริษัทจดทะเบียน 33 แห่ง สามารถทำกำไรสุทธิสะสมงวด 9 เดือนมากกว่าปีที่ 2553 ทั้งปี ขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนใน SET มียอดขายเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,240,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิรวม 154,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.42%
“ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในงวด 9 เดือนยังมีตัวเลขอัตราการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและมีกำไรรวมสูงสุดต่อเนื่องจากงวดปี 2553 ถึงงวดครึ่งปีแรกของปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงพื้นฐานอันแข็งแกร่งของภาคธุรกิจและการเติบโตของยอดขายในแทบทุกหมวดธุรกิจ อย่างไรก็ตามผลประกอบการงวด 9 เดือนนี ยังไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบจ.ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ” นายจรัมพรกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานงวด 9 เดือนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
โดยจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขณะที่หมวดธุรกิจ ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับ จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร และ หมวดวัสดุก่อสร้าง
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน mai งวด 9 เดือนแรก ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินรวม 68 บริษัท จากทั้งหมด 70 บริษัท มียอดขายรวม 52,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 34.94% และมีกำไรสุทธิรวม 2,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 37.85% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.65% ลดลงจาก 22.46%
ทั้งนี้บริษัทจดทะเบียนใน mai ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรกคือ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) และ บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) ขณะที่ในไตรมาส 3 ปี 2554 มีกำไรสุทธิรวม 987 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 17.78% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากยอดขายรวมเพิ่มขึ้นถึง 36.75% และมีบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่สามารถทำกำไรสุทธิสะสมงวด 9 เดือนแรกของปีได้สูงกว่ายอดรวมตลอดทั้งปีในปีก่อนหน้าถึง 8 บริษัท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) มีกำไรสุทธิ 386 บริษัท คิดเป็น 87.33% ของบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด ในจำนวนนี้มีบริษัทจดทะเบียน 33 แห่ง สามารถทำกำไรสุทธิสะสมงวด 9 เดือนมากกว่าปีที่ 2553 ทั้งปี ขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนใน SET มียอดขายเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,240,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิรวม 154,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.42%
“ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในงวด 9 เดือนยังมีตัวเลขอัตราการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและมีกำไรรวมสูงสุดต่อเนื่องจากงวดปี 2553 ถึงงวดครึ่งปีแรกของปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงพื้นฐานอันแข็งแกร่งของภาคธุรกิจและการเติบโตของยอดขายในแทบทุกหมวดธุรกิจ อย่างไรก็ตามผลประกอบการงวด 9 เดือนนี ยังไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบจ.ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ” นายจรัมพรกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานงวด 9 เดือนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
โดยจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขณะที่หมวดธุรกิจ ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับ จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร และ หมวดวัสดุก่อสร้าง
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน mai งวด 9 เดือนแรก ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินรวม 68 บริษัท จากทั้งหมด 70 บริษัท มียอดขายรวม 52,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 34.94% และมีกำไรสุทธิรวม 2,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 37.85% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.65% ลดลงจาก 22.46%
ทั้งนี้บริษัทจดทะเบียนใน mai ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรกคือ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) และ บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) ขณะที่ในไตรมาส 3 ปี 2554 มีกำไรสุทธิรวม 987 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 17.78% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากยอดขายรวมเพิ่มขึ้นถึง 36.75% และมีบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่สามารถทำกำไรสุทธิสะสมงวด 9 เดือนแรกของปีได้สูงกว่ายอดรวมตลอดทั้งปีในปีก่อนหน้าถึง 8 บริษัท