เมื่อเวลา10.00 น.วานนี้ (14 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ
จากนั้น ผบ.ทบ.ได้นำนายกรัฐมนตรี เข้าถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ก่อนจะขึ้นไปรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกองบัญชาการกองทัพบกและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน.)
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบชุดเครื่องเบจญรงค์ เป็นของที่ระลึก และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงถึงการเดินไปตรวจเยียมกองบัญชาการกองทัพบกครั้งนี้ว่ารัฐบาล และกองทัพ ที่มีหน้าที่ในการดูแลงานด้านความมั่นคง ต้องทำงานภายใต้นโยบายหลัก คือ การปกป้องชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นศูนย์กลางในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน
สำหรับในส่วนของ กอ.รมน. ถือเป็นหน่วยงานใหญ่ที่มีความสำคัญ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงนโยบายของรัฐบาล และนำไปสานต่อการทำงานกับกองทัพ รวมทั้งบูรณาการทุกกระทรวง ทบวง กรม เข้าด้วยกัน เพื่อภารกิจที่เป็นวาระแห่งชาติ อาทิ การปราบปรามยาเสพติด การสกัดกั้น รวมถึงศูนย์บำบัดฟื้นฟู
สำหรับปัญหาความมั่นคงในชายแดนภาคใต้ และปัญหารอยต่อของชายแดน ตนได้ให้นโยบาย ให้เน้นพระราชดำรัสของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจ เข้าถึง และ พัฒนา และเน้นการทำความเข้าใจในพื้นที่เพื่อให้เกิดความสงบสุข
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กองทัพบก ถือเป็นหน่วยงานที่มีกำลังพลค่อนข้างมาก นอกจากจะดูแลงานด้านความมั่นคงแล้วจะต้องมีภารกิจหนึ่งคือ การช่วยเหลือ ตามนโยบายของรัฐบาล และการดูแลบรรเทาความทุกข์ของประชาชน เช่น อุทกภัยต่างๆ โดยมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในฐานะที่ตนเป็นผู้นำรัฐบาลได้มีการทำความเข้าใจ เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับกองทัพบกให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
**ไม่ก้าวก่ายกองทัพ ไม่ปลดผบ.ทบ.
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯจะให้ใครเป็นผู้ดูแล กอ.รมน. แทนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยหลักแล้ว ตนเป็น ผอ.รมน. ก็จะมาให้นโยบาย และบางครั้ง ก็จะมอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ จะให้เข้ามาร่วมประชุมกับคณะกรรมการของ กอ.รมน.
เมื่อถามว่าจากการทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มาระยะเวลาหนึ่ง เกิดความไว้วางใจกันหรือยัง และคิดที่จะให้เป็น ผบ.ทบ.ต่อหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ก็ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังคงทำหน้าที่ตรงนี้อยู่
** สนับสนุนงบฯตามความจำเป็น
เมื่อ ถามถึงการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อ และซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่เสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยุทโธปกรณ์ที่เสียไหน อันไหนที่เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน ต้องเร่งจัดสรรงบประมาณ แต่ส่วนไหนที่ไม่เร่งด่วน รอได้ก็ให้จัดสรรลดับความสำคัญ เพราะงบประมาณของเรามีจำกัด ซึ่งตนได้ให้นโยบายการจัดสรรงบประมาณ ว่า สิ่งเร่งด่วนคือการดูแลเยียวประชาชนที่ประสบอุทกภัย สำหรับหน่วยงานต่างๆถ้าสิ่งไหนที่เป็นอุปสรรคไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ต้องนำมาแก้ไข แต่ในส่วนที่จะมีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมต้องกลับมาดูความสำคัญ ความจำเป็น และวัตถุประสงค์ ซึ่งต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง
ที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือจากกองทัพบกในการช่วยเหลือประชาชนจึงขอขอบคุณกองทัพบก ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล ซึ่งตนรู้สึกพอใจ เพราะจุดเด่นของกองทัพคือ กำลังพล และอาวุธที่มีอยู่ ที่สคัญกองทัพบกมีการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ และภาวะฉุกเฉินได้ดี สิ่งนี้ทำให้เราเลือกอความร่วมมือจากกองทัพเป็นแนวหลัก
** ทหารพร้อมรับใช้ตลอด24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการบรรยายสรุปของ กอ.รมน. ที่มี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ได้บรรยายโครงสร้างพื้นฐานของ กอ.รมน. และ สรุปผลงานการทำงานที่ผ่านมา โดยที่ประชุมไม่ได้มีการนำสถานการณ์เหตุการณ์ลอบวางระเบิดในช่วงที่ผ่านมา มาหารือ
ทั้งนี้ ทาง กอ.รมน. อาจจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงปีใหม่อีกครั้ง ถึงจะมีความชัดเจน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ระบุว่า หากมีโอกาสจะมาปรึกษาร่วมกับทาง กอ.รมน.อีก ซึ่งในโอกาสต่อไปทาง กอ.รมน. จะเชิญ นายกรัฐมนตรีไปที่ กอ.รมน. ที่สวนรื่นฤดี
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ผบ.ทบ.ได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลสามารถเรียกใช้ทหารตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีได้ฟังคำนี้แล้วก็รู้สึกพอใจมาก และออกตัวว่า บางครั้งนายกรัฐมนตรี ที่ได้โทรศัพท์หา ผบ.ทบ.ในเวลากลางคืน และรับฟังพร้อมไปปฏิบัติ และ ยังมีการชื่นชมทหารในการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่ผ่านมา ทั้งนี้การพบปะกันครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
** ตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพอากาศ และ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นแท่นรับการเคารพจากทหารกองเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ และวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดากองทัพอากาศ โดยมีพล.อ.อ.อิทธพล ศุภวงศ์ ให้การต้อนรับ
จากนั้น ผบ.ทบ.ได้นำนายกรัฐมนตรี เข้าถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ก่อนจะขึ้นไปรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกองบัญชาการกองทัพบกและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน.)
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบชุดเครื่องเบจญรงค์ เป็นของที่ระลึก และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงถึงการเดินไปตรวจเยียมกองบัญชาการกองทัพบกครั้งนี้ว่ารัฐบาล และกองทัพ ที่มีหน้าที่ในการดูแลงานด้านความมั่นคง ต้องทำงานภายใต้นโยบายหลัก คือ การปกป้องชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นศูนย์กลางในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน
สำหรับในส่วนของ กอ.รมน. ถือเป็นหน่วยงานใหญ่ที่มีความสำคัญ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงนโยบายของรัฐบาล และนำไปสานต่อการทำงานกับกองทัพ รวมทั้งบูรณาการทุกกระทรวง ทบวง กรม เข้าด้วยกัน เพื่อภารกิจที่เป็นวาระแห่งชาติ อาทิ การปราบปรามยาเสพติด การสกัดกั้น รวมถึงศูนย์บำบัดฟื้นฟู
สำหรับปัญหาความมั่นคงในชายแดนภาคใต้ และปัญหารอยต่อของชายแดน ตนได้ให้นโยบาย ให้เน้นพระราชดำรัสของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจ เข้าถึง และ พัฒนา และเน้นการทำความเข้าใจในพื้นที่เพื่อให้เกิดความสงบสุข
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กองทัพบก ถือเป็นหน่วยงานที่มีกำลังพลค่อนข้างมาก นอกจากจะดูแลงานด้านความมั่นคงแล้วจะต้องมีภารกิจหนึ่งคือ การช่วยเหลือ ตามนโยบายของรัฐบาล และการดูแลบรรเทาความทุกข์ของประชาชน เช่น อุทกภัยต่างๆ โดยมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในฐานะที่ตนเป็นผู้นำรัฐบาลได้มีการทำความเข้าใจ เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับกองทัพบกให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
**ไม่ก้าวก่ายกองทัพ ไม่ปลดผบ.ทบ.
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯจะให้ใครเป็นผู้ดูแล กอ.รมน. แทนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยหลักแล้ว ตนเป็น ผอ.รมน. ก็จะมาให้นโยบาย และบางครั้ง ก็จะมอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ จะให้เข้ามาร่วมประชุมกับคณะกรรมการของ กอ.รมน.
เมื่อถามว่าจากการทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มาระยะเวลาหนึ่ง เกิดความไว้วางใจกันหรือยัง และคิดที่จะให้เป็น ผบ.ทบ.ต่อหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ก็ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังคงทำหน้าที่ตรงนี้อยู่
** สนับสนุนงบฯตามความจำเป็น
เมื่อ ถามถึงการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อ และซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่เสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยุทโธปกรณ์ที่เสียไหน อันไหนที่เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน ต้องเร่งจัดสรรงบประมาณ แต่ส่วนไหนที่ไม่เร่งด่วน รอได้ก็ให้จัดสรรลดับความสำคัญ เพราะงบประมาณของเรามีจำกัด ซึ่งตนได้ให้นโยบายการจัดสรรงบประมาณ ว่า สิ่งเร่งด่วนคือการดูแลเยียวประชาชนที่ประสบอุทกภัย สำหรับหน่วยงานต่างๆถ้าสิ่งไหนที่เป็นอุปสรรคไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ต้องนำมาแก้ไข แต่ในส่วนที่จะมีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมต้องกลับมาดูความสำคัญ ความจำเป็น และวัตถุประสงค์ ซึ่งต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง
ที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือจากกองทัพบกในการช่วยเหลือประชาชนจึงขอขอบคุณกองทัพบก ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล ซึ่งตนรู้สึกพอใจ เพราะจุดเด่นของกองทัพคือ กำลังพล และอาวุธที่มีอยู่ ที่สคัญกองทัพบกมีการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ และภาวะฉุกเฉินได้ดี สิ่งนี้ทำให้เราเลือกอความร่วมมือจากกองทัพเป็นแนวหลัก
** ทหารพร้อมรับใช้ตลอด24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการบรรยายสรุปของ กอ.รมน. ที่มี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ได้บรรยายโครงสร้างพื้นฐานของ กอ.รมน. และ สรุปผลงานการทำงานที่ผ่านมา โดยที่ประชุมไม่ได้มีการนำสถานการณ์เหตุการณ์ลอบวางระเบิดในช่วงที่ผ่านมา มาหารือ
ทั้งนี้ ทาง กอ.รมน. อาจจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงปีใหม่อีกครั้ง ถึงจะมีความชัดเจน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ระบุว่า หากมีโอกาสจะมาปรึกษาร่วมกับทาง กอ.รมน.อีก ซึ่งในโอกาสต่อไปทาง กอ.รมน. จะเชิญ นายกรัฐมนตรีไปที่ กอ.รมน. ที่สวนรื่นฤดี
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ผบ.ทบ.ได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลสามารถเรียกใช้ทหารตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีได้ฟังคำนี้แล้วก็รู้สึกพอใจมาก และออกตัวว่า บางครั้งนายกรัฐมนตรี ที่ได้โทรศัพท์หา ผบ.ทบ.ในเวลากลางคืน และรับฟังพร้อมไปปฏิบัติ และ ยังมีการชื่นชมทหารในการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่ผ่านมา ทั้งนี้การพบปะกันครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
** ตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพอากาศ และ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นแท่นรับการเคารพจากทหารกองเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ และวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดากองทัพอากาศ โดยมีพล.อ.อ.อิทธพล ศุภวงศ์ ให้การต้อนรับ