ASTVผู้จัดการรายวัน-สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือเตรียมลงพื้นที่ 20 ธ.ค. นี้ หารือผู้ประกอบการใน 7นิคมอุตสาหกรรม จี้รัฐชัดเจนแผนโครงสร้างพื้นฐานป้องกันน้ำท่วมซ้ำ ด้านกทท.เตรียมเสนอครม.ขอยกเว้นค่าภาระช่วยเอกชน ยอมสูญรายได้ 50ล้านบาท เดินหน้าปากบารา-แหลมฉบังเฟส 3 ดันไทยฮับขนส่งทางเรือ
นายพิฑูร ตรีวิจิตรเกษม รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (TNSC) เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ภาคการผลิตหยุดชะงักส่งผลให้การส่งออกลดลง ขณะที่การนำเข้าต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถขนส่งสินค้าที่นำเข้ามาออกจากท่าเรือได้ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนและภาระดอกเบี้ยเพิ่ม รวมถึงไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้า ทำให้สูญเสียโอกาสทางการค้า โดยในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ จะเชิญผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุมพร้อมทั้งลงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อกำหนดแผนแก้ปัญหาและป้องกันระยะยาวเสนอรัฐบาล โดยเฉพาะจะเน้นด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนและไม่ให้ย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น
นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า ช่วงน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถนำสินค้าออกจากท่าเรือได้ เพราะเส้นทางคมนาคมขนส่งไม่สะดวก จึงมีสินค้าตกค้างในท่าเรือเกือบ 4,000ตู้ ซึ่งตามระเบียบจะให้พักสินค้าฟรี 3วันเท่านั้น ผู้ประกอบการจึงได้ทำหนังสือถึงกทท.ขอยกเว้นค่าภาระระหว่างวันที่1 ต.ค.-30ธ.ค.2554 ประกอบด้วย ค่าฝากเก็บตู้สินค้า ค่าย้ายตู้ ค่าจัดเรียงตู้ คิดเป็นเงินประมาณ50 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กทท. ก่อนที่จะเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเอกชนโดยตรง ส่วนทางอ้อม กทท.ได้จัดพื้นที่ประมาณ8 ไร่ ให้สมาคมโลจิสติกส์ไทย สำหรับใช้ในการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาค เนื่องจากบริเวณพุทธมณฑลสาย5 ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบริษัทผู้ส่งสินค้าดังกล่าวถูกน้ำท่วม
ทั้งนี้ น้ำท่วมที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณส่งออกและนำเข้าในช่วงเดือนพ.ค.-พ.ย.2554 ลดลงประมาณ 50% ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อผลประกอบการของกทท.ในปี 2555 โดยอัตราการเติบโตลดลงเหลือ6% จากเดิมตั้งไว้ที่ 9% โดยรายได้จะอยู่ระดับ1 หมื่นล้านบาท กำไรเกือบ 3,000ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2554 ที่มีรายได้ 11,371 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,536 ล้านบาท โดยเดือนธ.ค.นี้ปริมาณตู้สินค้าท่าเรือกรุงเทพยังลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ38%
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวง รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “Thai Ports And Shipping 2011” วานนี้ (13 ธ.ค.) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเดินเรือLogistics Center การขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือภูมิภาค ว่า การส่งออกทางเรือเป็นสิ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นท่าเรือที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพจะทำให้ไทยเป็น Gate Wayการส่งออกทางเรือในภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งโครงการก่อสร้างท่าเรือปากบาราซึ่งสามารถเชื่อมกับโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน (แลนด์บริดจ์) สามารถกระจายสินค้าไปยังยุโรป จีน ญี่ปุ่นได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสร็จแล้วอยู่ระหว่างการดำเนินการเพิ่มเติมตามมติครม.
นายพิฑูร ตรีวิจิตรเกษม รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (TNSC) เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ภาคการผลิตหยุดชะงักส่งผลให้การส่งออกลดลง ขณะที่การนำเข้าต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถขนส่งสินค้าที่นำเข้ามาออกจากท่าเรือได้ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนและภาระดอกเบี้ยเพิ่ม รวมถึงไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้า ทำให้สูญเสียโอกาสทางการค้า โดยในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ จะเชิญผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุมพร้อมทั้งลงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อกำหนดแผนแก้ปัญหาและป้องกันระยะยาวเสนอรัฐบาล โดยเฉพาะจะเน้นด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนและไม่ให้ย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น
นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า ช่วงน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถนำสินค้าออกจากท่าเรือได้ เพราะเส้นทางคมนาคมขนส่งไม่สะดวก จึงมีสินค้าตกค้างในท่าเรือเกือบ 4,000ตู้ ซึ่งตามระเบียบจะให้พักสินค้าฟรี 3วันเท่านั้น ผู้ประกอบการจึงได้ทำหนังสือถึงกทท.ขอยกเว้นค่าภาระระหว่างวันที่1 ต.ค.-30ธ.ค.2554 ประกอบด้วย ค่าฝากเก็บตู้สินค้า ค่าย้ายตู้ ค่าจัดเรียงตู้ คิดเป็นเงินประมาณ50 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กทท. ก่อนที่จะเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเอกชนโดยตรง ส่วนทางอ้อม กทท.ได้จัดพื้นที่ประมาณ8 ไร่ ให้สมาคมโลจิสติกส์ไทย สำหรับใช้ในการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาค เนื่องจากบริเวณพุทธมณฑลสาย5 ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบริษัทผู้ส่งสินค้าดังกล่าวถูกน้ำท่วม
ทั้งนี้ น้ำท่วมที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณส่งออกและนำเข้าในช่วงเดือนพ.ค.-พ.ย.2554 ลดลงประมาณ 50% ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อผลประกอบการของกทท.ในปี 2555 โดยอัตราการเติบโตลดลงเหลือ6% จากเดิมตั้งไว้ที่ 9% โดยรายได้จะอยู่ระดับ1 หมื่นล้านบาท กำไรเกือบ 3,000ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2554 ที่มีรายได้ 11,371 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,536 ล้านบาท โดยเดือนธ.ค.นี้ปริมาณตู้สินค้าท่าเรือกรุงเทพยังลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ38%
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวง รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “Thai Ports And Shipping 2011” วานนี้ (13 ธ.ค.) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเดินเรือLogistics Center การขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือภูมิภาค ว่า การส่งออกทางเรือเป็นสิ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นท่าเรือที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพจะทำให้ไทยเป็น Gate Wayการส่งออกทางเรือในภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งโครงการก่อสร้างท่าเรือปากบาราซึ่งสามารถเชื่อมกับโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน (แลนด์บริดจ์) สามารถกระจายสินค้าไปยังยุโรป จีน ญี่ปุ่นได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสร็จแล้วอยู่ระหว่างการดำเนินการเพิ่มเติมตามมติครม.