ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.ภัตตาคาร มั่นใจคริสต์มาสนี้ ธุรกิจร้านอาหารเริ่มกลับมาคึกคัก หลังเจอมรสุมน้ำท่วม คาดต้องใช้เงินฟื้นฟูมากถึง 7 พันล้านบาท กว่า 1 พันร้านค้า ที่ถูกน้ำท่วม ขณะที่ สทน.เผย คนไทยแห่เที่ยวรับไอหนาวแล้ว มั่นใจปีใหม่นี้ตลาดฟื้น 50% วอนหน่วยงานรัฐเร่งจัดสัมมนา ช่วยผู้ประกอบการ
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ธุรกิจร้านอาหารซบเซาไปบ้าง จากผลกระทบของสถานการณ์น้ำท่วม แต่มั่นใจว่าตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะถึงนี้จนถึงเทศกาลปีใหม่ ร้านอาหารจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะเชื่อว่ามีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้จองเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด
ก็จะใช้เวลาช่วงวันหยุดซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุขก็จะพาครอบครัวออกมารับประทานอาหารนอกบ้านหลังจากที่ต้องหยุดกิจกรรมนี้ไปนานเพราะน้ำท่วมไม่สะดวกเดินทาง ทำให้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร น่าจะฟื้นตัวเป็นปรกติในราวไตรมาสแรกปีหน้า
“ ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปี ธุรกิจร้านอาหารจะคึกคักมากอยู่แล้วในทุกๆปี และสำหรับปีนี้มองว่าทั้งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจในภาพรวมของประเทศ จะฟื้นตัวได้เร็วภายในต้นปีหน้า หากต้องไม่มีปัจจัยความวุ่นวายทางการเมืองเข้ามากระทบกับความเชื่อมั่น อีกทั้งรัฐบาลต้องจัดวิธีบริหารจัดการที่ดีหลังน้ำลด”
ใช้เงินเกือบ 7 พันล้านบาทฟื้นธุรกิจ
สำหรับร้านอาหารที่ร้านได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ก่อนสิ้นปี โดยร้านอาหารที่เป็นสมาชิกของสมาคม ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม มีอยู่กว่า 1,000 ร้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางธุรกิจรวมกับเม็ดเงินที่จะใช้ซ่อมแซมร้าน มากกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท เพราะบางรายเสียหายชนิดที่ต้องทำใหม่เกือบทั้งหมดใช้เงินเฉลี่ยร้านละ 20-30 ล้านบาท เช่น ร้านอาหารชื่อดังย่านทวีวัฒนา แต่ทั้งนี้ยอมรับว่ามีผู้ประกอบการบางรายถอดใจประกาศขายกิจการ หรือคิดเป็น 1% ของร้านที่เสียหายทั้งหมด สาเหตุที่ขายทิ้ง เพราะมองว่าที่ตั้งร้านอยู่ตรงทางน้ำไหล จึงไม่ต้องการทำธุรกิจต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านที่ตั้งอยู่ย่านจังหวัดปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม แม้ร้านอาหารจะได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่เชื่อว่ายังไม่กระทบกับการจ้างงาน เพราะส่วนใหญ่จะยินดีที่จะรักษาแรงงานของตัวเองไว้ เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยออกไป จะไม่มีแรงงานมารองรับในช่วงที่กลับมาเปิดให้บริการอีก
คนไทยแห่เที่ยวรับอากาศหนาว
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า สภาพอากาศที่เริ่มเย็นลง เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วในหลายพื้นที่ มีผลให้ นักท่องเที่ยวคนไทย เริ่มกลับมาคึกคักแล้ว โดยเฉพาะ แหล่งท่องเที่ยวตามภูต่างๆ นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง หรือ FIT เพราะเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจด้วยตัวเอง เดสติเนชั่นเป้าหมายอันดับต้นๆ คือ
จังหวัดทางภาคเหนือ ส่วนจังหสัดทางภาคใต้ เฉพาะตลาดคนไทย จะมีจำนวนน้อย แต่เมื่อมองภาพรวม ตลาดคนไทย เที่ยวในประเทศ ยังกลับมาเดินทางท่องเที่ยวได้เพียง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะบางส่วนยังต้องอยู่ซ่อมแซม ทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด
สิ้นปีตลาดฟื้น 50%
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการท่องเที่ยว มองภาพรวมคนไทยเที่ยวในประทเศช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ว่า การเดินทางจะเบาบาง เมื่อเทียบกับช่างปรกติ หรือฟื้นตัวได้เพียง 50% แต่หลังจากเดือนมกราคม เป็นต้นไป จะเข้าสู่ภาวะปรกติ เพราะมาตรการรัฐบาลที่ออกมาเยียวยา เริ่มเห็นผล โดยมั่นใจว่า ตลาดจะฟื้นตัวเต็มที่100% ได้ในช่วงปิดเทอม โดยล่าสุด สมาคม เริ่มจัดทำแพกเกจไหว้พระจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา ที่ทำร่วมกับ การท่องเที่ยวแหงประเทศไทย (ททท.) จะเริ่มขายตั้งแต่ต้นปี 2555
นางสาวมัยรัตน์ กล่าวว่า บริษัทนำเที่ยวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มาก เพราะ กว่า 70% ของลูกค้าเป็นกลุ่มบริษัท ที่จัดทัวร์เพื่อเป็นรางวัลให้แก่พนักงาน และข้าราชการที่จัดประชุมสัมมนา ซึ่งพอหลังน้ำท่วม บริษัทต่างๆก็ตัดงบกิจกรรมในส่วนนี้ไป ส่วนทริปให้รางวัลในช่วงปีใหม่ โดยกลุ่มนี้จะชะลอการเดินทางไปไม่ต่ำกว่า 3 เดือนหลังจากนี้
ดังนั้นจึงได้ส่งจดหมายเรียกร้องไปยังรองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา แล้วว่า ขอความร่วมมือให้หน่วยงานราชการเร่งกระจายงบประมาณเดินทางจัดสัมมนาในประเทศกับบริษัททัวร์ที่จดทะเบียนถูกต้อง เพื่อให้เกิดการเดินทางตั้งแต่ กุมภาพันธ์ -กันยายน ไม่ให้กระจุกตัวเฉพาะช่วงก่อนปิดงบประจำปี หากทำได้แนวทางนี้จะช่วยผู้ประกอบการได้มาก
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ธุรกิจร้านอาหารซบเซาไปบ้าง จากผลกระทบของสถานการณ์น้ำท่วม แต่มั่นใจว่าตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะถึงนี้จนถึงเทศกาลปีใหม่ ร้านอาหารจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะเชื่อว่ามีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้จองเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด
ก็จะใช้เวลาช่วงวันหยุดซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุขก็จะพาครอบครัวออกมารับประทานอาหารนอกบ้านหลังจากที่ต้องหยุดกิจกรรมนี้ไปนานเพราะน้ำท่วมไม่สะดวกเดินทาง ทำให้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร น่าจะฟื้นตัวเป็นปรกติในราวไตรมาสแรกปีหน้า
“ ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปี ธุรกิจร้านอาหารจะคึกคักมากอยู่แล้วในทุกๆปี และสำหรับปีนี้มองว่าทั้งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจในภาพรวมของประเทศ จะฟื้นตัวได้เร็วภายในต้นปีหน้า หากต้องไม่มีปัจจัยความวุ่นวายทางการเมืองเข้ามากระทบกับความเชื่อมั่น อีกทั้งรัฐบาลต้องจัดวิธีบริหารจัดการที่ดีหลังน้ำลด”
ใช้เงินเกือบ 7 พันล้านบาทฟื้นธุรกิจ
สำหรับร้านอาหารที่ร้านได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ก่อนสิ้นปี โดยร้านอาหารที่เป็นสมาชิกของสมาคม ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม มีอยู่กว่า 1,000 ร้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางธุรกิจรวมกับเม็ดเงินที่จะใช้ซ่อมแซมร้าน มากกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท เพราะบางรายเสียหายชนิดที่ต้องทำใหม่เกือบทั้งหมดใช้เงินเฉลี่ยร้านละ 20-30 ล้านบาท เช่น ร้านอาหารชื่อดังย่านทวีวัฒนา แต่ทั้งนี้ยอมรับว่ามีผู้ประกอบการบางรายถอดใจประกาศขายกิจการ หรือคิดเป็น 1% ของร้านที่เสียหายทั้งหมด สาเหตุที่ขายทิ้ง เพราะมองว่าที่ตั้งร้านอยู่ตรงทางน้ำไหล จึงไม่ต้องการทำธุรกิจต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านที่ตั้งอยู่ย่านจังหวัดปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม แม้ร้านอาหารจะได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่เชื่อว่ายังไม่กระทบกับการจ้างงาน เพราะส่วนใหญ่จะยินดีที่จะรักษาแรงงานของตัวเองไว้ เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยออกไป จะไม่มีแรงงานมารองรับในช่วงที่กลับมาเปิดให้บริการอีก
คนไทยแห่เที่ยวรับอากาศหนาว
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า สภาพอากาศที่เริ่มเย็นลง เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วในหลายพื้นที่ มีผลให้ นักท่องเที่ยวคนไทย เริ่มกลับมาคึกคักแล้ว โดยเฉพาะ แหล่งท่องเที่ยวตามภูต่างๆ นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง หรือ FIT เพราะเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจด้วยตัวเอง เดสติเนชั่นเป้าหมายอันดับต้นๆ คือ
จังหวัดทางภาคเหนือ ส่วนจังหสัดทางภาคใต้ เฉพาะตลาดคนไทย จะมีจำนวนน้อย แต่เมื่อมองภาพรวม ตลาดคนไทย เที่ยวในประเทศ ยังกลับมาเดินทางท่องเที่ยวได้เพียง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะบางส่วนยังต้องอยู่ซ่อมแซม ทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด
สิ้นปีตลาดฟื้น 50%
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการท่องเที่ยว มองภาพรวมคนไทยเที่ยวในประทเศช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ว่า การเดินทางจะเบาบาง เมื่อเทียบกับช่างปรกติ หรือฟื้นตัวได้เพียง 50% แต่หลังจากเดือนมกราคม เป็นต้นไป จะเข้าสู่ภาวะปรกติ เพราะมาตรการรัฐบาลที่ออกมาเยียวยา เริ่มเห็นผล โดยมั่นใจว่า ตลาดจะฟื้นตัวเต็มที่100% ได้ในช่วงปิดเทอม โดยล่าสุด สมาคม เริ่มจัดทำแพกเกจไหว้พระจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา ที่ทำร่วมกับ การท่องเที่ยวแหงประเทศไทย (ททท.) จะเริ่มขายตั้งแต่ต้นปี 2555
นางสาวมัยรัตน์ กล่าวว่า บริษัทนำเที่ยวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มาก เพราะ กว่า 70% ของลูกค้าเป็นกลุ่มบริษัท ที่จัดทัวร์เพื่อเป็นรางวัลให้แก่พนักงาน และข้าราชการที่จัดประชุมสัมมนา ซึ่งพอหลังน้ำท่วม บริษัทต่างๆก็ตัดงบกิจกรรมในส่วนนี้ไป ส่วนทริปให้รางวัลในช่วงปีใหม่ โดยกลุ่มนี้จะชะลอการเดินทางไปไม่ต่ำกว่า 3 เดือนหลังจากนี้
ดังนั้นจึงได้ส่งจดหมายเรียกร้องไปยังรองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา แล้วว่า ขอความร่วมมือให้หน่วยงานราชการเร่งกระจายงบประมาณเดินทางจัดสัมมนาในประเทศกับบริษัททัวร์ที่จดทะเบียนถูกต้อง เพื่อให้เกิดการเดินทางตั้งแต่ กุมภาพันธ์ -กันยายน ไม่ให้กระจุกตัวเฉพาะช่วงก่อนปิดงบประจำปี หากทำได้แนวทางนี้จะช่วยผู้ประกอบการได้มาก
