รอยเตอร์ – เมจิเรียกคืนนมผงสำเร็จรูป 400,000 กระป๋องในญี่ปุ่น หลังพบการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสี “ซีเซียม” นับเป็นปัญหาความปลอดภัยด้านอาหารครั้งล่าสุดที่โจมตีแดนปลาดิบ ภายหลังวิกฤตนิวเคลียร์ฟูกูชิมะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 9 เดือนที่ผ่านมา
ราคาหุ้นเมจิ โฮลดิ้งส์ของญี่ป่น ในวันอังคาร (6) ร่วงเฉียด 10% ทำสถิติต่ำสุดนับจากเดือนพฤษภาคม 2009 หลังข่าวนี้ โดยเมจิเปิดเผยว่า ได้ประกาศเรียกคืนนมดัดแปลงสำหรับทารก 400,000 กระป๋องเฉพาะที่จำหน่ายในญี่ปุ่นเท่านั้น
ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารในญี่ปุ่นปะทุขึ้นเป็นระลอก หลังเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี และส่งผลให้สารกัมมันภาพตรังสีกระจายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางเหนือและตะวันออกของญี่ปุ่น
การพบสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนในผัก ชา นม อาหารทะเล และน้ำ ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมาก แม้ทางการรับประกันว่า ระดับที่ตรวจพบไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดก็ตาม
เมจิระบุว่า ไม่แน่ใจว่านมผงเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใดที่ปนเปื้อนสารซีเซียม แต่สงสัยว่าสารดังกล่าวน่าจะมาจากอุบัติเหตุที่ฟูกูชิมะ โดยความร้อนในกระบวนการอบแห้งอาจมีซีเซียมปนเปื้อนอยู่
การทดสอบของเมจิพบซีเซียมในระดับ 30.8 เบกเคอเรลต่อกิโลกรัมในนมผง ซึ่งแม้ต่ำกว่าขีดจำกัดที่รัฐบาลอนุญาตคือ 200 เบกเคอเรลต่อกิโลกรัม แต่บริษัทตัดสินใจเรียกคืนผลิตภัณฑ์ตามความสมัครใจที่เรียกว่า “ขั้นตอนเมจิ”
ทั้งนี้ เทปโก้ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ มีความคืบหน้าอย่างช้าๆ แต่มั่นคงในการทำให้โรงงานดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม ด้วยการจำกัดปริมาณการแพร่กระจายกัมมันตรังสีจากเตาปฏิกรณ์ และลดอุณหภูมิระบบหล่อเย็นสู่ระดับที่ถือว่าคงที่ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการ “ปิดเครื่องแบบเย็นตัว” ซึ่งหมายถึงการที่อุณหภูมิของน้ำที่ใช้หล่อเย็นเตาปฏิกรณ์คงที่ในระดับต่ำกว่าจุดเดือด ก่อนสิ้นปีนี้
สัปดาห์นี้ เทปโก้รายงานว่า มีน้ำปนเปื้อนราว 45 ตันรั่วไหลจากระบบทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี โดยที่น้ำปนเปื้อน 300 ลิตรไหลออกสู่ภายนอก
อย่างไรก็ดี ยูกิโอะ เอดาโนะ รัฐมนตีการค้าและพลังงาน ยืนยันว่า การรั่วไหลดังกล่าวไม่ส่งผลต่อเป้าหมายการดับเครื่องแบบเย็นตัวก่อนสิ้นปีนี้แต่อย่างใด
ราคาหุ้นเมจิ โฮลดิ้งส์ของญี่ป่น ในวันอังคาร (6) ร่วงเฉียด 10% ทำสถิติต่ำสุดนับจากเดือนพฤษภาคม 2009 หลังข่าวนี้ โดยเมจิเปิดเผยว่า ได้ประกาศเรียกคืนนมดัดแปลงสำหรับทารก 400,000 กระป๋องเฉพาะที่จำหน่ายในญี่ปุ่นเท่านั้น
ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารในญี่ปุ่นปะทุขึ้นเป็นระลอก หลังเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี และส่งผลให้สารกัมมันภาพตรังสีกระจายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางเหนือและตะวันออกของญี่ปุ่น
การพบสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนในผัก ชา นม อาหารทะเล และน้ำ ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมาก แม้ทางการรับประกันว่า ระดับที่ตรวจพบไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดก็ตาม
เมจิระบุว่า ไม่แน่ใจว่านมผงเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใดที่ปนเปื้อนสารซีเซียม แต่สงสัยว่าสารดังกล่าวน่าจะมาจากอุบัติเหตุที่ฟูกูชิมะ โดยความร้อนในกระบวนการอบแห้งอาจมีซีเซียมปนเปื้อนอยู่
การทดสอบของเมจิพบซีเซียมในระดับ 30.8 เบกเคอเรลต่อกิโลกรัมในนมผง ซึ่งแม้ต่ำกว่าขีดจำกัดที่รัฐบาลอนุญาตคือ 200 เบกเคอเรลต่อกิโลกรัม แต่บริษัทตัดสินใจเรียกคืนผลิตภัณฑ์ตามความสมัครใจที่เรียกว่า “ขั้นตอนเมจิ”
ทั้งนี้ เทปโก้ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ มีความคืบหน้าอย่างช้าๆ แต่มั่นคงในการทำให้โรงงานดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม ด้วยการจำกัดปริมาณการแพร่กระจายกัมมันตรังสีจากเตาปฏิกรณ์ และลดอุณหภูมิระบบหล่อเย็นสู่ระดับที่ถือว่าคงที่ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการ “ปิดเครื่องแบบเย็นตัว” ซึ่งหมายถึงการที่อุณหภูมิของน้ำที่ใช้หล่อเย็นเตาปฏิกรณ์คงที่ในระดับต่ำกว่าจุดเดือด ก่อนสิ้นปีนี้
สัปดาห์นี้ เทปโก้รายงานว่า มีน้ำปนเปื้อนราว 45 ตันรั่วไหลจากระบบทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี โดยที่น้ำปนเปื้อน 300 ลิตรไหลออกสู่ภายนอก
อย่างไรก็ดี ยูกิโอะ เอดาโนะ รัฐมนตีการค้าและพลังงาน ยืนยันว่า การรั่วไหลดังกล่าวไม่ส่งผลต่อเป้าหมายการดับเครื่องแบบเย็นตัวก่อนสิ้นปีนี้แต่อย่างใด
