กูรูการตลาดชี้เทศกาลต้อนรับปีใหม่ไม่คึกคัก สินค้ากิ๊ฟเซ็ต กระเช้าของขวัญเดี้ยง หลังกำลังซื้อหด คนไทยไร้อารมณ์ซื้อของขวัญ ด้านผู้ประกอบการชะลอแผนส่งชุดของขวัญล่อใจ ลุ้นเดือนธค.ประเมินสถานการณ์ถึงปล่อยทีเด็ด ด้านธุรกิจขายตรง ยอมรับออเดอร์กี๊ฟเซ็ตพื้นที่น้ำท่วมชะลอแล้ว
ผศ.ดร.ธีรพันธ์ โล่ทองคำ ประธานกรรมการ บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด นักการตลาดและที่ปรึกษาวางกลยุทธ์หลายองค์กร กล่าวว่า ปกติการทำตลาดของกลุ่มผู้ประกอบการในช่วงปลายปีจะเริ่มจัดชุดของขวัญปีใหม่ เพื่อต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ แต่ปีนี้ปัญหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงของประเทศไทย
ส่งผลให้การจัดชุดของขวัญปีใหม่ของกลุ่มผู้ประกอบการลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคปีนี้หดตัวลง กลุ่มรากหญ้าขาดรายได้ และคนต้องเก็บเงินซ่อมแซมบ้านเรือน รวมไปถึงโบนัสปลายปีนี้ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ในหลายองค์กร เพราะหลายบริษัทประสบกับภัยน้ำท่วม
“เชื่อว่าผู้บริโภคก็ไม่มีอารมณ์การจับจ่ายใช้สอย เพราะผลจากน้ำท่วมมีผลกระทบต่อจิตวิทยาต่อคนค่อนข้างสูง ดังนั้นมั่นใจว่า เทศกาลการให้ของขวัญช่วงปีใหม่นี้ไม่คึกคักเท่าที่ควรแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ กลุ่มธุรกิจขายตรง สินค้าความสวยความงาม เครื่องสำอาง สกินแคร์ รวมถึงกระเช้าของขวัญปีใหม่ด้วย
คาดว่าปีนี้คนจะซื้อมอบให้กันน้อยลง แต่กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะกลับมาคึกคัก คือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงปลายปี เพราะผู้ประสบภัยโดยเฉพาะคนกรุงเทพ จะรู้สึกเครียดและต้องการการพักผ่อนเพื่อผ่อนคลาย หลังจากจำเจอยู่กับภาวะน้ำท่วมมาร่วมเดือน
ขณะนี้สินค้าหลายตัว คงรอดูสถานการณ์น้ำท่วม หากน้ำท่วมยุติลงจริงในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมทั้งการพิจารณาถึงกำลังซื้อและกำลังการผลิต และความต้องการของตลาดจากกลุ่มเป้าหมาย ในกรณีที่มีสัญญาณที่ดีเดือนธันวาคมอาจจะมีสินค้าเริ่มจัดทำชุดของขวัญปีใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสทางการตลาดในช่วงเวลาแค่ 1 เดือน
โดยสินค้าแต่ละแบรนด์จะงัดกลยุทธ์การจัดชุดของขวัญที่ลด แลก แจก แถม เพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค
“การลดขนาดหรือปริมาณของชุดของขวัญปีใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคจ่ายเงินน้อยลง เช่น การกระเช้าใหญ่มาเป็นการจัดกระเช้าที่เล็กลง คงไม่มีผลต่อการตัดสินใจมากนัก แต่ผู้บริโภคจะเลือกที่จะไม่ให้เลยมากกว่า เพราะคนจะเจียดเงินไปกับการซ่อมแซมบ้าน หรือแม้กระทั่งโรงงานต่างๆ”
***ส.ค้าปลีก-ค้าส่งชี้ชุดของขวัญหายวูบ
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าปลีก-ค้าส่งไทย กล่าวว่า การทำตลาดของผู้ประกอบการในช่วงปลายปีนี้ จะจัดชุดของขวัญปีใหม่ในช่วงเดือนตุลาคม เป็นต้นไป แต่หลังจากเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ กระทั่งเดือนพฤศจิกายน การจัดชุดของขวัญปีใหม่ในช่องทางโมเดิร์นเทรด มีให้เห็นน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย เนื่องจากเป็นช่วงที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง การฝืนจัดชุดของขวัญในช่วงนี้ ยอดขายก็ไม่ได้ตามเป้าหมายมากนัก ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้ การมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ ชุดของขวัญต่างๆ คงมีไม่มากนัก จึงมั่นใจว่า บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่ ปีนี้ไม่คึกคักแน่นอน
“อารมณ์ของผู้ประสบภัย หลังจากน้ำท่วม ผมคิดว่า คงต้องการสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่าจะเป็นตุ๊กตาหรือสิ่งของที่ไม่จำเป็น อาทิ สินค้าเพื่อความสวยความงาม เวลานี้คนมองข้ามเรื่องความสวยงามไปแล้ว ดังนั้นการเลือกมอบของขวัญปีนี้ ต้องดูให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย”
***ขายตรงมั่นใจกิ๊ฟเซ็ตคึกคึกเดือนธค.
นางนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน กล่าวว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีผลกระทบต่อธุรกิจขายตรงบ้าง เพราะเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ทำให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คาดว่ายอดขายลดลงอย่างแน่นอน โดยผลประกอบการปีนี้ของบริษัทคาดว่า ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย จากเดิมที่ตั้งเป้า 5,500 ล้านบาท หรือเติบโต 10% เหลือเป็น 5,200-5,300 ล้านบาท
สถานการณ์การแข่งขันธุรกิจขายตรงช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะการทำชุดของขวัญปีใหม่ หรือ กิ๊ฟเซ็ต หรือกระทั่งการทำตลาดเพื่อกระตุ้นนักธุรกิจขายตรง คาดว่าจะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดประชุมสัมมนานักธุรกิจขายตรง และมีอุปสรรคการจัดส่งสินค้า
ส่วนการจัดชุดของขวัญปีใหม่ ขณะนี้บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนการตลาดที่วางไว้ โดยได้จัดทำกิ๊ฟเซ็ตมีหลายระดับราคาตามรายได้ของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ต่ำกว่า 100-3,000 บาท เพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยคาดว่าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปีใหม่ จะเริ่มคึกคักหลังจากวันที่ 10 ธันวาคม เป็นต้นไป โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดจะเริ่มมีการสั่งซื้อสินค้า ขณะที่กรุงเทพ ขณะนี้ในบางเขตพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม เริ่มมีการสั่งซื้อสั่งจองบ้างแล้ว ส่วนเขตที่น้ำท่วม ขณะนี้มีการชะลอการสั่งซื้อออกไปก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ผศ.ดร.ธีรพันธ์ โล่ทองคำ ประธานกรรมการ บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด นักการตลาดและที่ปรึกษาวางกลยุทธ์หลายองค์กร กล่าวว่า ปกติการทำตลาดของกลุ่มผู้ประกอบการในช่วงปลายปีจะเริ่มจัดชุดของขวัญปีใหม่ เพื่อต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ แต่ปีนี้ปัญหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงของประเทศไทย
ส่งผลให้การจัดชุดของขวัญปีใหม่ของกลุ่มผู้ประกอบการลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคปีนี้หดตัวลง กลุ่มรากหญ้าขาดรายได้ และคนต้องเก็บเงินซ่อมแซมบ้านเรือน รวมไปถึงโบนัสปลายปีนี้ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ในหลายองค์กร เพราะหลายบริษัทประสบกับภัยน้ำท่วม
“เชื่อว่าผู้บริโภคก็ไม่มีอารมณ์การจับจ่ายใช้สอย เพราะผลจากน้ำท่วมมีผลกระทบต่อจิตวิทยาต่อคนค่อนข้างสูง ดังนั้นมั่นใจว่า เทศกาลการให้ของขวัญช่วงปีใหม่นี้ไม่คึกคักเท่าที่ควรแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ กลุ่มธุรกิจขายตรง สินค้าความสวยความงาม เครื่องสำอาง สกินแคร์ รวมถึงกระเช้าของขวัญปีใหม่ด้วย
คาดว่าปีนี้คนจะซื้อมอบให้กันน้อยลง แต่กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะกลับมาคึกคัก คือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงปลายปี เพราะผู้ประสบภัยโดยเฉพาะคนกรุงเทพ จะรู้สึกเครียดและต้องการการพักผ่อนเพื่อผ่อนคลาย หลังจากจำเจอยู่กับภาวะน้ำท่วมมาร่วมเดือน
ขณะนี้สินค้าหลายตัว คงรอดูสถานการณ์น้ำท่วม หากน้ำท่วมยุติลงจริงในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมทั้งการพิจารณาถึงกำลังซื้อและกำลังการผลิต และความต้องการของตลาดจากกลุ่มเป้าหมาย ในกรณีที่มีสัญญาณที่ดีเดือนธันวาคมอาจจะมีสินค้าเริ่มจัดทำชุดของขวัญปีใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสทางการตลาดในช่วงเวลาแค่ 1 เดือน
โดยสินค้าแต่ละแบรนด์จะงัดกลยุทธ์การจัดชุดของขวัญที่ลด แลก แจก แถม เพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค
“การลดขนาดหรือปริมาณของชุดของขวัญปีใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคจ่ายเงินน้อยลง เช่น การกระเช้าใหญ่มาเป็นการจัดกระเช้าที่เล็กลง คงไม่มีผลต่อการตัดสินใจมากนัก แต่ผู้บริโภคจะเลือกที่จะไม่ให้เลยมากกว่า เพราะคนจะเจียดเงินไปกับการซ่อมแซมบ้าน หรือแม้กระทั่งโรงงานต่างๆ”
***ส.ค้าปลีก-ค้าส่งชี้ชุดของขวัญหายวูบ
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าปลีก-ค้าส่งไทย กล่าวว่า การทำตลาดของผู้ประกอบการในช่วงปลายปีนี้ จะจัดชุดของขวัญปีใหม่ในช่วงเดือนตุลาคม เป็นต้นไป แต่หลังจากเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ กระทั่งเดือนพฤศจิกายน การจัดชุดของขวัญปีใหม่ในช่องทางโมเดิร์นเทรด มีให้เห็นน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย เนื่องจากเป็นช่วงที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง การฝืนจัดชุดของขวัญในช่วงนี้ ยอดขายก็ไม่ได้ตามเป้าหมายมากนัก ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้ การมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ ชุดของขวัญต่างๆ คงมีไม่มากนัก จึงมั่นใจว่า บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่ ปีนี้ไม่คึกคักแน่นอน
“อารมณ์ของผู้ประสบภัย หลังจากน้ำท่วม ผมคิดว่า คงต้องการสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่าจะเป็นตุ๊กตาหรือสิ่งของที่ไม่จำเป็น อาทิ สินค้าเพื่อความสวยความงาม เวลานี้คนมองข้ามเรื่องความสวยงามไปแล้ว ดังนั้นการเลือกมอบของขวัญปีนี้ ต้องดูให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย”
***ขายตรงมั่นใจกิ๊ฟเซ็ตคึกคึกเดือนธค.
นางนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน กล่าวว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีผลกระทบต่อธุรกิจขายตรงบ้าง เพราะเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ทำให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คาดว่ายอดขายลดลงอย่างแน่นอน โดยผลประกอบการปีนี้ของบริษัทคาดว่า ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย จากเดิมที่ตั้งเป้า 5,500 ล้านบาท หรือเติบโต 10% เหลือเป็น 5,200-5,300 ล้านบาท
สถานการณ์การแข่งขันธุรกิจขายตรงช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะการทำชุดของขวัญปีใหม่ หรือ กิ๊ฟเซ็ต หรือกระทั่งการทำตลาดเพื่อกระตุ้นนักธุรกิจขายตรง คาดว่าจะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดประชุมสัมมนานักธุรกิจขายตรง และมีอุปสรรคการจัดส่งสินค้า
ส่วนการจัดชุดของขวัญปีใหม่ ขณะนี้บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนการตลาดที่วางไว้ โดยได้จัดทำกิ๊ฟเซ็ตมีหลายระดับราคาตามรายได้ของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ต่ำกว่า 100-3,000 บาท เพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยคาดว่าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปีใหม่ จะเริ่มคึกคักหลังจากวันที่ 10 ธันวาคม เป็นต้นไป โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดจะเริ่มมีการสั่งซื้อสินค้า ขณะที่กรุงเทพ ขณะนี้ในบางเขตพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม เริ่มมีการสั่งซื้อสั่งจองบ้างแล้ว ส่วนเขตที่น้ำท่วม ขณะนี้มีการชะลอการสั่งซื้อออกไปก่อนอย่างเห็นได้ชัด